เราทุกคนล้วนต้องต่อสู้กับปรากฏการณ์ด้านลบบ้างเป็นครั้งคราวซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเรา ทว่าหนึ่งในสิ่งที่ยากที่สุดคือการรู้ว่าตัวเองกลายเป็นคนที่ควรหลีกเลี่ยงไปซะแล้ว แม้ว่าจะเจ็บปวดที่ต้องยอมรับแต่เราก็ยังสามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆได้ นี่คือสัญญาณบางอย่างที่บ่งบอกว่าคุณกำลังจะกลายเป็นคนที่น่ารังเกียจ
คุณโทษคนอื่นทั้งที่เป็นปัญหาของคุณ
โดยปกติคนเราจะต้องมีบทบาท (แม้เพียงเล็กน้อย) ในปัญหาทุกเรื่องที่เกิดขึ้นในชีวิต แต่จะกลายเป็นสัญญาณเตือนหากคุณเริ่มรู้สึกเหมือนว่าทุกคนกำลังคิดที่จะแก้แค้นคุณ รู้หรือไม่ว่าคนที่น่ารังเกียจจะอยู่ในสถานการณ์นั้นและยอมรับบทบาทของเหยื่ออย่างมีความสุข นี่ล่ะคือการโทษทุกคนทั้งๆที่ปัญหาเหล่านั้นเป็นของคุณ แต่คนที่มีจิตใจดีจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้สถานการณ์ดีขึ้น เห็นความแตกต่างหรือยัง?
วิธีแก้ไข : คิดถึงเหตุการณ์ที่ผิดพลาดในชีวิตและประเมินหาสาเหตุของปัญหา จดบันทึกทั้งหมดลงไปพร้อมกับวิธีแก้ไข คุณจะรู้สึกมีพลังโดยไม่มีการโทษหรือเรียกร้องใดๆทั้งสิ้น!
พูดจาลับหลังคนอื่น
ตั้งแต่วันแรกที่เข้าโรงเรียนเราทุกคนต่างต้องเคยร่วมวงสนทนาที่ทำร้ายจิตใจผู้อื่น การซุบซิบนินทากลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตและจะยังอยู่จนกระทั่งวันสุดท้ายขณะที่คุณต้องเลือกเองว่าจะเข้าร่วมซุบซิบหรือไม่ อันที่จริงเป็นเรื่องเข้าใจได้ถ้าคุณต้องการระบายหรือมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้ง อย่างไรก็ตามถ้ามีบางอย่างรบกวนจิตใจคุณทางที่ดีควรใช้เวลารวบรวมความคิดสักครู่ก่อนที่จะพูดคุยกันตรงๆและเป็นการส่วนตัว
วิธีแก้ไข : จงซื่อสัตย์กับตัวเองเกี่ยวกับสิ่งที่คุณเคยพูดจาให้ร้ายผู้อื่น ถ้ามีคนเผชิญหน้ากับคุณ ขอให้หายใจเข้าลึกๆและรับผิดชอบการกระทำของตัวเอง จงขอโทษและทำตัวให้น่าเคารพมากขึ้นในอนาคต
เป็นผู้รับมากกว่าผู้ให้
บางช่วงเวลาในชีวิตคุณอาจต้องการความช่วยเหลืออย่างแท้จริงและบางครั้งคุณก็อาจคิดว่าตัวเองมีความจำเป็นมากกว่าคนอื่นซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร แต่ปัญหาจะเกิดขึ้นถ้าคุณเอาแต่เรียกร้องและไม่เคยคิดที่จะตอบแทน คุณเก็บตัวเงียบเมื่อรู้ว่ามีคนกำลังขอความช่วยเหลืออยู่หรือไม่? คุณมีข้ออ้างเมื่อไม่ได้หยิบยื่นความช่วยเหลือออกไปใช่ไหม? ถ้าใช่..อีกหน่อยก็คงไม่มีใครสนใจคำร้องขอของคุณอีกแล้ว
วิธีแก้ไข : ยื่นข้อเสนอหรือวิธีที่คุณสามารถช่วยได้ เริ่มจากการกระทำเล็กๆดีกว่าการที่คุณไม่ยอมทำอะไรเลย!
เพื่อนของคุณหายตัวไป
ตลกนะเมื่อผู้คนพากันออกไปจากชีวิตของคุณอย่างเงียบๆและหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าที่อึดอัด เราจะไม่รู้สึกว่าตัวเองเหงาหรือโดดเดี่ยวจนกว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรบางอย่างขึ้น หากคุณมีนิสัยชอบคิดในด้านลบ เรียกร้อง หรือดราม่ามากเกินไป? เป็นไปได้ว่าคุณนั่นแหละที่ผลักไสคนอื่นออกไปโดยไม่รู้ตัว
วิธีแก้ไข : คุณควรซื่อสัตย์กับตัวเองเกี่ยวกับสาเหตุที่เพื่อนๆหนีไป ไปหาเพื่อนและเปิดโอกาสให้พวกเขาได้พูดถึงพฤติกรรมของคุณแล้วค่อยตัดสินใจว่ามิตรภาพนี้ยังคุ้มค่าแก่การรักษาไว้หรือไม่ สุดท้ายกล่าวคำขอโทษและยอมเปลี่ยนแปลงตัวเอง
ชีวิตของคุณอุดมไปด้วยดราม่า
ไม่ว่าใครก็ต้องเคยผ่านช่วงเวลาอันโหดร้ายในชีวิต ทั้งหมดที่เราสามารถทำได้คือทำจิตใจให้เข้มแข็งพร้อมกับหาวิธีแก้ไขสถานการณ์ให้ดีขึ้น หากคุณยังมีความสุขกับชีวิตที่เต็มไปด้วยดราม่าแทนที่จะหาวิธีแก้ไข สุดท้ายคุณนั่นแหละจะกลายเป็นบุคคลที่มีพิษภัย
วิธีแก้ไข : หาเหตุผลว่าทำไมคุณถึงสนใจเรื่องดราม่า นอกจากนี้ยังเป็นไปได้ว่าคุณกำลังรู้สึกเหมือนถูกปฏิเสธและถูกทอดทิ้งจากคนที่คุณรัก ดังนั้นคุณควรบอกความรู้สึกออกไปและหาวิธีเชื่อมต่อความสัมพันธ์ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
คุณปล่อยวางไม่ได้
แม้ว่าการมุ่งหน้าเดินต่อไปหลังจากที่ถูกทำร้ายหรือรู้สึกผิดหวังจากใครบางคนอาจจะเป็นเรื่องยาก แต่คนส่วนใหญ่ก็ยังพยายามหาทางเพื่อก้าวข้ามช่วงเวลาที่ยากลำบากเหล่านี้และเริ่มมองหาความสุขที่รออยู่ข้างหน้า ในทางกลับกันหากคุณไม่ยอมรามือจากคนที่ทำร้ายคุณหรือคุณตั้งใจที่จะเก็บความแค้นเหล่านี้ไว้ก็คงเป็นเรื่องยากสำหรับคนรอบข้างที่คอยสนับสนุนคุณอยู่
วิธีแก้ไข : จงยอมรับคำขอโทษและรู้จักให้อภัย เลิกแค้นฝังหุ่นและลืมความสัมพันธ์ที่ล้มเหลวนี้ไปซะ ลองมองหางานอดิเรกใหม่ๆเพื่อที่คุณจะได้พบปะเพื่อนใหม่ๆ แล้ววันหนึ่งเมื่อคุณมองย้อนกลับไปก็จะเห็นว่าคุณมาไกลแค่ไหนแล้ว
.
ต้องการเอาชนะในการเป็นฝ่ายที่ถูก
“คุณอยากเป็นฝ่ายถูกหรืออยากมีความสุขกันแน่?” คงจะดีถ้าคนเรามีได้ทั้งสองอย่างแต่ก็เป็นไปไม่ได้หรอก! หากคุณรู้สึกหงุดหงิดเนื่องจากตัวเองทำงานผิดพลาดหรือแฟนของคุณเป็นผู้ทำผิด คุณอาจต้องถามตัวเองก่อนว่าการทะเลาะครั้งนี้จะทำลายความสัมพันธ์หรือความสุขของคุณหรือไม่? ในตอนแรกการยอมรับความพ่ายแพ้ต่อผู้อื่นอาจเป็นเรื่องยากแต่จะง่ายขึ้นถ้าคุณเห็นว่าชีวิตของคุณมีความสงบมากขึ้น
วิธีแก้ไข : คุณควรเรียนรู้ที่จะให้คนอื่นสามารถค้นหาคำตอบของตัวเองได้โดยเฉพาะถ้านั่นหมายถึงการรักษาความสงบ
คุณมักจะคิดถึงแต่เรื่องร้ายๆ
การพิจารณาถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการกระทำและการตัดสินใจของตัวเองถือเป็นสิ่งสำคัญ แต่ชีวิตจะยิ่งมีความสุขและมีประสิทธิภาพมากขึ้นหากเรามองโลกในแง่ดี
วิธีแก้ไข : พยายามอยู่ท่ามกลางคนที่มองโลกในแง่ดีขณะที่คุณเองก็ต้องมองโลกในแง่ร้ายให้น้อยลง จดบันทึกเพื่อขอบคุณสิ่งดีๆที่เกิดขึ้นในแต่ละวันก่อนเข้านอนทุกคืนอย่างน้อย 5 ข้อ
คุณเป็นผู้ควบคุมการสนทนา
ลองนึกถึงครั้งสุดท้ายที่คุณนั่งคุยกับเพื่อน เป็นการสนทนาแบบแลกเปลี่ยนกันไปมาหรือคุณพูดอยู่ฝ่ายเดียวมากกว่า? บอกเลยว่านี่คือความไม่เกรงใจ เห็นแก่ตัว และบ่งบอกว่าคุณไม่สนใจชีวิตของคนอื่นนอกจากตัวเอง
วิธีแก้ไข : หากคุณรู้ว่าตัวเองกำลังควบคุมการสนทนา คุณควรนัดเพื่อนและปล่อยให้พวกเขาคุยกัน จงแสดงให้พวกเขาเห็นว่าพวกเขามีความสำคัญกับคุณ พยายามรักษาบรรยากาศการสนทนาให้สมดุลเพื่อให้ทั้งสองฝ่ายรู้สึกมีคุณค่าที่มีคนรับฟัง