อีโน คือยาสามัญประจำบ้าน ที่ใช้เป็นยาลดกรด บรรเทาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ อาหารไม่ย่อย ลดอาการแสบร้อนกลางอก เนื่องจากมีกรดในกระเพาะอาหาร และในการทานยาอีโน ก็มีข้อห้ามและข้อควรระวังเช่นกัน วันนี้ gangbeauty จึงมาแนะนำวิธีใช้ที่เหมาะสมมาให้อ่านกันค่ะ !!
1. ห้ามใช้กับผู้ที่เคยมีประวัติการแพ้ยานี้
2. ห้ามใช้ยาอีโนในผู้ป่วยที่เป็นโรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง โรคไต หรือโรคตับ ยาอีโนเป็นยาประเภทเกลือโซเดียมซึ่งปกติแล้วจะถูกขับออกจากร่างกายทางไต จึงมีข้อห้ามใช้กับผู้ป่วยที่มีการทำงานของไตผิดปกติและรวมไปถึงผู้ป่วยโรคตับด้วย ส่วนผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงนั้นจะต้องจำกัดการรับประทานเกลือโซเดียมอยู่แล้วเพื่อช่วยในการควบคุมความดันโลหิต
3. ห้ามใช้ยาอีโนกับผู้ป่วยที่แพทย์สั่งให้จำกัดการรับประทานอาหารรสเค็มหรืออาหารที่มีเกลือโซเดียมเป็นส่วนประกอบ
4. ไม่ควรรับประทานยาอีโนชนิดผงโดยไม่ได้ละลายน้ำก่อน เพราะนอกจากจะทำให้การออกฤทธิ์ได้ไม่ดีแล้วยังก่อให้เกิดผลต่อร่างกายได้ด้วย เนื่องจากผงยาจะดึงเอาน้ำในกระเพาะอาหารและลำไส้มาช่วยละลายตัวยา จึงเกิดการปล่อยแก๊สในกระเพาะอาหารเพิ่มมากขึ้นอย่างผิดปกติ ส่งผลทำให้เกิดแรงดันจนรู้สึกปวดจุกเสียดขึ้นทันที
5. ห้ามปรับขนาดการรับประทานยานี้เพิ่มด้วยตนเอง และห้ามรับประทานยานี้เกินวันละ 6 ซอง (30 กรัม)
6. ห้ามรับประทานยาอีโนติดต่อกันเป็นเวลานานกว่า 2 สัปดาห์ นอกจากแพทย์สั่ง ผู้ป่วยควรใช้ยานี้ตามคำแนะนำของแพทย์ และสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้ยาอีโนได้จากเภสัชกรตามร้านขายยาใกล้บ้านได้ทั่วไป
7. ห้ามแบ่งยานี้ให้ผู้อื่นใช้และห้ามใช้ยาที่หมดอายุหรือเสื่อมสภาพแล้ว เช่น ยาผงที่อยู่ในสภาพชื้น มีกลิ่นเหม็น หรือลักษณะของผงยามีสีเปลี่ยนไปจากเดิม
8. การใช้ยาอีโนในหญิงตั้งครรภ์และหญิงให้นมบุตรต้องได้รับคำแนะนำจากแพทย์เท่านั้น
9. ยาอีโนสามารถรับประทานตอนไหนก็ได้ที่มีอาการ และอาหารไม่ได้มีผลต่อการออกฤทธิ์ของยา นิยมรับประทานหลังอาหารเมื่อมีอาการทันที
10. หลีกเลี่ยงการรับประทานยาอีโนพร้อมกับยาอื่นๆ ยาอีโนมีฤทธิ์เป็นด่าง จึงทำให้สภาพความเป็นกรดในกระเพาะอาหารเปลี่ยนไป ซึ่งอาจส่งผลต่อการดูดซึมของยาชนิดอื่ๆ ที่รับประทานพร้อมกัน โดยควรรับประทานยาอีโนให้ห่างกับยาอื่นอย่างน้อย 2 ชั่วโมงขึ้นไป
11. หากใช้ยาไปแล้วเป็นเวลา 2-3 วัน อาการยังไม่ดีขึ้นหรือแย่ลง ผู้ป่วยควรไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาล
12. ควรปรึกษาแพทย์หากมีอาการผิดปกติเกิดขึ้นหลังการรับประทานยาอีโน หรือหากมีอาการแพ้ยา เช่น ตัวบวม หายใจลำบาก หายใจไม่ออก อึดอัด ต้องหยุดการใช้ยานี้ทันทีแล้วรีบไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาล
13. การรับประทานยาอีโนเกินขนาด จะทำให้ร่างกายมีเกลือโซเดียมเกินในเลือด ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการกระสับกระส่าย อ่อนเพลีย กระหายน้ำ วิงเวียนศีรษะ ปวดศีรษะ หัวใจเต้นเร็ว และบางกรณีอาจพบความดันโลหิตสูงร่วมด้วยได้ หากพบอาการดังกล่าวควรรีบนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลทันที
14. ผลข้างเคียงหรืออาการอันไม่พึงประสงค์ คือ อาการระคายเคืองทางเดินอาหารแบบไม่รุนแรง ซึ่งอาจเกิดจากลมหรือท้องอืด แต่หากมีอาการผิดปกติอื่นๆ เกิดขึ้นหลังการรับประทานยาอีโน ควรปรึกษาแพทย์หรือรีบไปพบแพทย์โดยเร็ว