7 ข้อคิดจากขงจื๊อ ที่เคยกล่าวไว้เมื่อ 2,000 ปีก่อน ไม่ควรขยันแบบผิดๆ
เหนื่อย… “นอนพักคืนเดียวก็หาย” จน… “จะนอนกี่คืนก็ไม่หาย” ขยันไปเถอะ ถึงแม้จะเหนื่อย แต่ผลลัพธ์มันดีกว่าขี้เกียจแน่นอน เพราะ ไม่มีใครประสบความสำเร็จในชีวิตโดยไม่ทุ่มเท…!!! แต่ขยันแล้วก็ไม่ควรขยันแบบผิดๆ ใช้แต่กำลัง ไม่รู้จักใช้สมอง แบบนี้ก็เปลืองแรง เปลืองเวลาเปล่าๆ “ขงจื๊อ” เคยกล่าวไว้เมื่อ 2,000 ปีก่อนว่า..
คนฉลาด และ ขยัน ควรส่งเสริมให้เป็นใหญ่
คนฉลาด และ ขี้เกียจ ควรเลี้ยงไว้เป็นที่ปรึกษา เพราะ เขาจะหาวิธีง่ายที่สุดมาจัดการกับปัญหา
คนโง่ และ ขี้เกียจ เก็บไว้ใช้สอยทำงานตามคำสั่งก็พอไหว
คนขยัน และ โง่ ต้องเอาไปทิ้งทันที เพราะ จะขยันทำแต่เรื่องโง่ๆ ทำให้เสียงานก่อความเดือดร้อนไม่รู้จบ
ไม่ว่าคุณจะเป็นคนฉลาด หรือคนโง่ การขยันแบบไม่รู้เวล่ำเวลา ขยันทำสิ่งผิดๆซ้ำแล้วซ้ำเล่า ก็ดีแต่สร้างความเสียหาย มากกว่าจะก่อให้เกิดประโยชน์ใดๆ เริ่มตั้งแต่วันนี้ก็ยังไม่สาย เลิกซะทีวัฒนธรรมการทำงานแบบขยันผิดที่ผิดเวลา
ความขยัน 7 ประการ ที่จะทำให้คุณไม่ขยันผิดที่ ไม่ขยันทำแต่เรื่องโง่ๆ
ประการที่หนึ่ง
การขยันทำงานที่เน้นแต่ปริมาณโดยไม่ใช้สมอง ไม่มี ทางทำให้ได้งานดีมีคุณภาพหรอก…!! ลองเปลี่ยนวิธีทำงานซะใหม่ คิดให้ถี่ถ้วนก่อนลงมือทำ จัดอันดับความสำคัญให้เป็น แล้วงานจะเสร็จเร็วกว่าเดิมเยอะ แถมยังได้งานดีมีคุณภาพ ไม่ใช่สักแต่ทำไปเรื่อยๆโดยไม่รู้จักวางแผนงาน หรือ ไปทำแต่งานที่ไม่มีความสำคัญ ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ก่อน เหมือนขยันทำแต่เรื่องโง่ๆ
ประการที่สอง
การขยันทำงานแบบโต้รุ่ง ทำงานหามรุ่งหามค่ำ หรือ นอนดึกตื่นสาย แบบนี้ทำลายความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ เพราะสมองที่เบลอไม่มีทางคิดอะไรออก เพราะ เมื่อร่างกายพักผ่อนไม่เพียงพอ ยังไงก็เบลอ และ ไม่มีสมาธิจดจ่อกับงานแน่นอน
ประการที่สาม
การขยันทำงานตอนไฟลนก้น ยิ่งใกล้กำหนดเวลาส่งงาน หรือ เวลาที่นัดหมายลูกค้าไว้ ไปเร่งทำเอาตอนนั้น บ่งบอกให้เห็นว่าคุณกำลังจัดลำดับความสำคัญของงานไม่ถูกต้อง การทำงานแบบนี้พาลแต่จะทำให้อารมณ์เสีย และ ทำลายความสัมพันธ์กับผู้คนรอบข้าง ลองจัดสรรเวลาทำงานใหม่ โดยเตรียมงานไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ แล้วคุณจะไม่ต้องปรี๊ดแตกใส่ใครต่อใคร เพื่อเร่งงานให้ทับตามกำหนดเวลา ให้เสียบรรยากาศ
ประการที่สี่
ถ้าคุณเป็นเจ้านายคน ควรเป็นแบบอย่างที่ดีของลูกน้อง โดยเฉพาะการบริหารจัดการเวลา คนที่จัดลำดับความสำคัญของงาน และ บริหารเวลาไม่เป็น จะใช้เวลาอยู่ในออฟฟิศจนดึกดื่น เพื่อให้ได้ผลงานน้อยนิด
ประการที่ห้า
การขยันทำงานแบบสุดๆจนบั่นทอนสุขภาพให้ทรุดโทรม แบบนี้ไม่ส่งผลดีต่อตัวคุณเอง และ ครอบครัว คนที่คุณรักแน่ โดยเฉพาะถ้าคุณเป็นเสาหลักของครอบครัว ต้องหาเงินมาเลี้ยงดูครอบครัว หากคุณไม่รักษาสุขภาพไว้ให้ดีๆ คุณก็อาจจะอยู่ได้ไม่นานนัก
ประการที่หก
หยุดคิดสักนิด แล้วจะรู้ว่างานส่วนใหญ่ที่ทำตอนนี้ แทบไม่มีความสำคัญอะไรเลย มนุษย์เงินเดือนจำนวนมากก้มหน้าก้มตาทำงานซ้ำๆอยู่ในออฟฟิศวันละหลายชั่วโมง โดยไม่เคยถามตัวเองว่า สิ่งที่เราทำอยู่ทุกวันนี้มีประโยชน์กับชีวิตมากน้อยแค่ไหน ทำให้เราพัฒนาทักษะด้านอื่นๆที่เกี่ยวกับสายงานมากขึ้นหรือเปล่า เราสามารถนำความรู้ไปต่อยอด สร้างคุณค่าให้กับตัวเองได้มากแค่ไหน
ประการที่เจ็ด
ครอบครัวต้องมาก่อน อย่าปล่อยให้ งานทำชีวิตพัง ความก้าวหน้าทางการงานอาจสำคัญสำหรับใครหลายๆคน แต่เอาเข้าจริงๆแล้ว เทียบไม่ได้เลยกับการมีครอบครัวอบอุ่นน่ารัก เพราะไม่ว่ายามสุขหรือทุกข์ พวกเขาคือคนที่พร้อมจะอยู่เคียงข้างเราจริงๆ