หลังจากผ่านพ้นช่วงปีใหม่ซึ่งนอกจากจะเป็นช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลองแล้ว ยังถือเป็นอีกช่วงที่มีการใช้ง่ายจ่ายคล่องมากที่สุดอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงฉลอง ค่าของขวัญสวัสดีปีใหม่ หรือแม้แต่ค่าใช้จ่ายสำหรับการเที่ยวพักผ่อนในช่วงวันหยุดยาว เรียกได้ว่ายังไม่ทันเริ่มปีก็เล่นเอากระเป๋าแฟบกันไปเลยทีเดียว แต่ถึงแม้ว่าเราจะต้องใช้ชีวิตหลังปีใหม่ในแบบกระเป๋าแบน ก็ยังสามารถใช้ชีวิตแบบฟินๆ ในสไตล์ของตัวเองได้ค่ะ เพราะวิธีการสร้างความสุขให้กับชีวิตนั้นไม่จำเป็นต้องใช้เงินเสมอไป โดยเฉพาะเคล็ดลับฟินจังตังอยู่ครบที่เรา นำมาฝากกันนี้ ใครที่บอกว่าของฟรีไม่มีในโลกนี้ คิดผิดคิดใหม่ได้เลยจ้า
1. เปลี่ยนจากคาเฟ่ เป็นสวนสาธารณะติดรถไฟฟ้า
สมัยนี้ใครๆ ก็นิยมกับนั่งชิลกันตามคาเฟ่บรรยากาศชิคๆ แต่แน่นอนว่าราคาเครื่องดื่มและของหวานสุดคูลของแต่ละที่นั้น ราคาอาจไม่ได้ชิลเหมือนบรรยากาศ สำหรับใครที่กำลังหาที่นั่งเล่นเพลินๆ แบบไม่ต้องเสียสตางค์ แนะนำให้ลองเปลี่ยนบรรยากาศจากคาเฟ่เป็นการปิคนิกที่สวนสาธารณะกันดูค่ะ ซึ่งในกรุงเทพฯ นั้นมีสวนสาธารณะบรรยากาศดีๆ ที่สามารถเดินทางได้ง่ายๆ ด้วยรถไฟฟ้าหลายที่เลยทีเดียว เช่น สวนลุมพินี สวนเบญจกิติ และสวนจตุจักร โดยเฉพาะในช่วงหน้าหนาว อากาศเย็นสบายแบบนี้ ยิ่งถือเป็นช่วงเวลาที่เหมาะกับการปิคนิกสุดๆ
2. สปาตัวเองที่บ้าน
การได้ทำสปาผิวนั้น นอกจากจะเป็นกิจกรรมที่ดีต่อผิวแล้ว ยังดีต่อใจอีกด้วย แต่การจะเข้าสปาสครัปผิวแต่ละครั้งนั้น เรียกได้ว่ามีค่าใช้จ่ายเฉียดพันเลยทีเดียว ซึ่งความจริงแล้วเพียงแค่ของใช้ในครัวเรือนก็สามารถนำมาเป็นวัตถุดิบในการสครับผิวได้เช่นกันค่ะ โดยเราสามารถหาสูตรได้ง่ายๆ ในอินเทอร์เน็ต ไม่ว่าจะเป็นการขัดผิวด้วยมะขามเปียกผสมน้ำผึ้ง การพอกตัวด้วยโยเกิร์ตเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น หรือแม้แต่การกระตุ้นเซลล์ผิวด้วยกากกาแฟที่เหลือทิ้ง โดยคุณยังอาจสร้างบรรยากาศได้ด้วยการจุดเทียนหอมอโรม่าเพิ่มความผ่อนคลายแบบสุดๆ
3. Follow เทรนเนอร์จากยูทูป
ไม่ว่าเดือนนี้ของคุณจะฝืดเคืองขนาดไหน แต่แน่นอนว่าการออกกำลังกายนั้นถือเป็นกิจกรรมที่ไม่ควรตัดทิ้งด้วยประการทั้งปวง ซึ่งความจริงแล้วเราสามารถมีเทรนเนอร์ส่วนตัวที่บ้านได้โดยไม่ต้องเสียค่าสมาชิกฟิตเนสแม้แต่บาทเดียว เพราะในยูทูปนั้น มีแชแนลของเทรนเนอร์มืออาชีพให้เลือกอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นช่องยูทูปยอดฮิต อย่าง HasFit, Fitness blender รวมทั้งเทรนเนอร์ชื่อดังให้เลือกอีกมากมาย ไม่แน่ว่าคุณอาจจะติดใจจนไม่กลับไปเสียตังค์ให้ฟิตเนสอีกเลยก็เป็นได้ค่ะ
4. ฟินกับอีเวนท์ฟรี
สำหรับใครที่เป็นสายติ่งและมีความฟินระดับสิบกับการได้สัมผัสดารานักร้องที่ชอบ แน่นอนว่าการจ่ายเงินเพื่อไปคอนเสิร์ตหรือแฟนมีตติ้งบ่อยๆ นั้น ถือเป็นค่าใช้จ่ายที่อาจทำให้หมดตัวได้เลยทีเดียว ซึ่งความจริงแล้ววิถีการเป็นติ่งนั้นไม่จำเป็นต้องเสียเงินเสมอไปค่ะ คุณยังสามารถติดตามบรรดาไอดอลตามงานอีเวนท์ต่างๆ ได้อีกด้วย ซึ่งสามารถตามข้อมูลงานอีเวนท์ใหม่ๆ แบบอัปเดตตลอดทั้งปีได้ที่ allthaievent ค่ะ
5. หนีให้ไกลจากป้าย Sales
หากคุณอยากเดินห้างรับบรรยากาศ แต่ไม่อยากเสียตังค์นั้น ขอเตือนว่าให้หนีห่างจากป้าย Sales เข้าไว้ค่ะ เพราะบางครั้งของลดราคาก็ดูน่าหลงใหลเกินห้ามใจจนบางครั้งคุณอาจตัดสินใจรูดบัตรเครดิตไปโดยไม่รู้ตัว ซึ่งนั่นถือเป็นพฤติกรรมการใช้เงินที่ไม่ถูกต้อง และแน่นอนว่าจะตามมาด้วยปัญหาหนี้สินในภายหลัง
6. ดินเนอร์หรูด้วยมือเรา
การรับประทานอาหารนอกบ้านบ่อยๆ นั้น ถือเป็นค่าใช้จ่ายที่รวมๆ แล้วไม่น้อยเลยในแต่ละเดือน โดยเฉพาะในเดือนที่จำเป็นต้องประหยัดนั้น การทานอาหารนอกบ้านก็ถือเป็นหนึ่งในค่าใช้จ่ายอันดับต้นๆ ที่ควรจะตัดออก แต่เรายังสามารถสร้างความฟินให้กับตัวเองได้ด้วยการทำอาหารอร่อยๆ เองที่บ้าน และจัดจานสวยๆ พร้อมจุดเทียนสร้างบรรยากาศสักเล็กน้อย รับรองเลยว่าโรแมนติกได้ไม่แพ้ดินเนอร์หรูนอกบ้านเลยค่ะ