มักมีรูปแบบที่เกิดขึ้น 3 แบบ
หนึ่งคือได้อยู่ด้วยกัน?
สองคือต่างคนต่างเดินจากกันไป?
และสามคือคนหนึ่งไป?
อีกคนหนึ่งยังอยู่ที่เดิม
แบบสุดท้าย คือแบบที่เราต้องฝึกรับมือกับมันให้ได้
มันเป็นความสัมพันธ์แบบที่ฝ่ายหนึ่งยังคงค้างคาใจ
เพราะฝ่ายหนึ่งตัดใจ
แต่อีกฝ่ายยังคงติดอยู่ในใจ
ฝ่ายหนึ่งไป
แต่อีกฝ่ายหนึ่งยังคงคอยอยู่
ฝ่ายหนึ่งไม่อยากพูดอะไร
แต่อีกฝ่ายหนึ่งมีอีกมากมายที่อยากจะถาม
ฝ่ายหนึ่งอยากไปเริ่มต้นใหม่
อีกฝ่ายหนึ่งอยากลองดูด้วยกันอีกซักครั้ง
ไม่ใช่เรื่องง่าย
เมื่อเรื่องที่ต้องทำด้วยกันทั้งสองฝ่าย
แต่มีแค่ฝ่ายเดียวที่พยายาม
กรรไกรที่มีขาเดียวจะกินอะไรก็ลำบาก
เก้าอี้ที่สองขาก็พร้อมจะล้มคว่ำตลอดเวลา
คนอยากไปมีแรงผลักมากกว่าคนที่รั้งไว้เสมอ
พูดอย่างนี้ไม่ได้บอกว่าทุกความสัมพันธ์ที่จบลง
คนไปเป็นฝ่ายผิดเสมอไป
ไม่อย่างนั้นแล้วเราคงไม่เคยได้ยินเรื่องจริงที่ว่า
บางครั้งยังรักกัน แต่ก็ต้องจำใจเลิกรา
เรื่องความรู้สึกและความรัก ละเอียดอ่อนเสมอ
ความสัมพันธ์ที่ถึงทางตันไปต่อไม่ได้
บางครั้งคือการดึงดันเดินมาด้วยกัน
มันไม่แน่เสมอไปที่คนจากไป ทำผิดต่อเรา
อย่าเอาแต่โทษกันไปโทษกันมา
สุดท้ายก็ติดกับดักอยู่กับอดีต
เพราะมัวแต่คิดว่าเราผิดอะไร
บางเรื่องก็ไม่มีผิดไม่มีถูก เป็นเรื่องของความเข้ากัน
เป็นเรื่องของคนสองคน เป็นเรื่องของคำว่าใช่
ที่ใครก็ให้นิยามมันไม่ได้ นอกจากคนสองคนร่วมกันนิยามมัน
บางทีเราก็ผิด แต่เราไม่รู้ตัว
บางทีเขาก็ผิด แต่จะให้ทำไง
เมื่อความรักต้องเริ่มทั้งสองฝ่าย และไปด้วยกัน
มันคือเรื่องหนึ่งที่ต้องเกิดขึ้นในชีวิตเรื่อยๆ
ไม่มีใครสมหวังในทุกสิ่ง แต่ไม่มีใครผิดหวังตลอดไปหรอก
แค่การได้รักกับใครสักคน แล้วเขาเคยรักเรา
นั่นก็นับว่าครั้งหนึ่งเราเคยสมหวังแล้วเช่นกัน
แม้มันจะไม่ยาวนานอย่างที่คาดหวังไว้
ตอนเป็นเด็ก บางทีเราเคยโดนผู้ใหญ่เอาใจ
เวลาเดินหัวชนโต๊ะร้องไห้ แล้วมีคนปลอบเราว่า
นี่แหน่ะ ตีโต๊ะเลย ดันมาขวางทางเรา
ปลอบเราเพื่อจะให้เราเลิกร้องไห้
ทั้งที่โต๊ะมันก็ไม่ได้ผิดอะไร มันก็อยู่ที่เดิม
นั่นมันตอนเราเป็นเด็ก
ตอนนี้เป็นผู้ใหญ่แล้ว ผิดหวังเป็นแล้ว
โลกไม่ได้อนุญาตให้เราสมหวังในทุกเรื่อง
โตแล้ว?.ต้องรับมือมันให้ได้
ร้องไห้ได้ แต่อย่าฟูมฟายมากไป
ชีวิตมันไม่ได้จบลงแค่นี้
บางทีที่มันจบเร็วลงตรงนี้
อาจจะดี มีเวลาให้เราเริ่มใหม่เร็วขึ้นก็ได้
คิดให้ดีกับตัวคุณเอง
และรับมือกับมันให้ดีก็พอ