เคล็ดลับหนึ่งที่จะช่วยควบคุมน้ำหนักคือ การเผาผลาญพลังงานที่กินมาตลอดทั้งวันให้หมดไป แต่ปัญหาคือจะเผาผลาญพลังงานที่ได้รับมาทั้งหมดได้อย่างไร เพราะกิจวัตรประจำวันของคนปกติ ก็ไม่ได้มีอะไรที่ต้องใช้พลังงานมากเสียเท่าไหร่
เวลาไหน? ร่างกายจะเผาผลาญแคลอรี่ได้มากที่สุด
วันนี้เราจะมาเพิ่มตัวช่วยในการควบคุมน้ำหนักด้วยการแชร์ เวลาที่ร่างกายจะเผาผลาญแคลอรี่มากที่สุด เพราะในหนึ่งวันการทำงานของระบบภายในร่างกาย อัตราเผาผลาญที่เกิดขึ้นในแต่ละชั่วโมงที่ผ่านไปนั้นก็ไม่เท่ากัน ยกตัวอย่างง่ายๆ การนั่งอยู่เฉยๆ ในตอนเช้าก็เผาผลาญแคลอรี่ได้มากกว่าการนั่งเฉยๆ ในตอนบ่ายมากถึง 10 %
ทำความเข้าใจระบบเผาผลาญพลังงาน
การใช้พลังงานของมนุษย์ คือการดึงเอาพลังงานที่ได้รับจากการกินอาหารเข้าไปมาเปลี่ยนเป็นพลังงาน และใช้หน่วยเรียกพลังงานนั้นว่า แคลอรี่ ซึ่งการควบคุมน้ำหนักเราจะต้องคอยนับว่าวันนี้เรากินอาหารไปทั้งหมดกี่แคลอรี่ และเอาออกมาใช้ เผาผลาญไปแล้วทั้งหมดกี่แคลอรี่ คนที่ควบคุมน้ำหนักอย่างเคร่งครัดจึงต้องไปไปออกกำลังกาย ให้ร่างกายได้ใช้พลังงาน เผาผลาญไขมัน ไม่ให้มีของสะสมส่วนเกิน จากกรณีที่ร่างกายใช้พลังงานจากการอาหารที่กินเข้าไปไม่หมด
แต่ตามปกติแล้วคือร่างกายของคนเรามีการเผาผลาญพลังงานตลอดเวลา แม้กระทั่งเวลาที่เรางีบหลับตอนกลางวัน และการเผาผลาญพลังงานนั้นก็เกิดจากขยับตัว การหายใจ การย่อยอาหาร ต่างๆ เหล่านี้ล้วนแต่ต้องใช้พลังงานจากการเผ้าผลาญแครอลี่ทั้งหมด
ศึกษาการเผาผลาญพลังงานของร่างกาย
จากการศึกษาของนักวิจัย ด้วยวิธีการนำคน 7 คนเข้ามาทดสอบ แล้วกำหนดระยะเวลาในการนอน การตื่น เป็นระยะเวลา 3 สัปดาห์ เพื่อศึกษาวงจรการทำงานของร่างกาย
จากงานวิจัยชิ้นนี้พบว่าร่างกายของเราจะมีระบบเผาผลาญที่แตกต่างกันใน อย่าง ตอนกลางคืน ร่างกายจะมีการเผาผลาญพลังงานต่ำที่สุดจากเวลาทั้งวัน และระยะเวลาในช่วง เช้าถึงเที่ยง ร่างกายก็จะเผาผลาญแครอลี่ได้ดีที่สุดในรอบวัน ซึ่งเมื่อรู้อย่างนี้แล้วเราก็สามารถวางแผนการกิน การออกกำลังกายของเราได้ เช่นอาจจะลดปริมาณข้าวเย็นให้กินแต่พออิ่ม หรืออาจจะเปลี่ยนไปออกกำลังกายตอนเช้าเพื่อให้ร่างกายได้เผาผลาญพลังงานที่เราสะสมเอาไว้ได้มากขึ้น เป็นต้น
วิธีนำเวลาเผาผลาญแครอลี่ไปใช้
อย่างที่กล่าวไปในข้างต้นว่า เวลาที่เผาผลาญพลังงานที่ดีที่สุดคือ เช้า ? เที่ยง และเวลาที่เผาผลาญได้แย่ที่สุดคือ ตอนกลางคืน ดังนั้นถ้าเราอยากที่จะควบคุมน้ำหนักก็ให้เอาเวลาตรงนี้ไปปรับใช้กลับกิจวัตรประจำวันของเราไม่ว่าจะเป็น การกิน การออกกำลังกาย การเลือกทำกิจกรรมต่างๆ ในระหว่างวัน อย่างอาหารมื้อหนักๆ อาจจะย้ายมากินช่วงเช้า แทนที่จะเป็นมื้อเย็น หรือการออกกำลังกายตอนเช้าเพิ่มขึ้นมาเป็นการโยคะเบาๆ ให้เราไม่เหนื่อย และอ่อนเพลียจนเกินไป แถมเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยให้เรารู้สึกตื่นเช้าวันใหม่อย่างสดใส ไม่รู้สึกง่วงได้อีกด้วย