ในวันนี้ที่เรามาถึงในยุคที่การสื่อสารไร้ขีดจำกัด กันมากขึ้นทุกที (เว้นแต่จะไม่มีเงินจ่ายค่าอินเตอร์เน็ต แต่กระนั้นก็ยังอาจจะใช้ wifi ฟรีๆ ได้สักที่) เราติดต่อกัน (เหมือนจะมากขึ้น) แต่เราก็รู้สึกไม่ค่อยสนิทกันไปกว่าเดิม ในเวลาที่ต้องคุยต้องเจอหน้ากันจริงๆ หรือไม่ว่าจะถูกมองเป็นสังคมก้มหน้า แต่ในจอสี่เหลี่ยมนั้น อาจจะสร้างความสุขให้คนบางคนโดยที่เราอาจจะไม่รู้อะไรจากเค้าเลยก็ได้
แชทให้รู้เรื่อง ใช้โซเชียลให้เป็น
โซเชียลของเรา พื้นที่ของเรา
ทำอะไรก็ย่อมได้ แต่ก็ต้องรู้จักใช้ให้เป็น ใช้ให้เกิดประโยชน์มากกว่าเสียประโยชน์ก็คงจะดีกว่า
โซเชียลเป็นเพียงบางสิ่งของชีวิต ไม่ได้เป็นทุกสิ่งของชีวิต
เราควรเรียนรู้ไปด้วยกัน..
1. มารยาทการใช้กรุ๊ปไลน์ทำงาน (Line)
เพื่อให้สื่อสารกันอย่างมีความสุขมากขึ้น
2. ทำไมถึงไม่ควรเขียนระบายเรื่องแย่ๆ ลงใน Facebook
ใน Facebook จะมีคนหลักๆ อยู่สองแบบ คือ 1. คนที่สะใจที่เห็นคุณแย่ กับ 2. คนที่ไม่แคร์และไม่ได้เห็นคุณอยู่ในสายตา ดังนั้น คนอื่นไม่จำเป็นต้องรู้ เรื่องแย่ๆ ของคุณ ทุกๆ เรื่อง การเขียนโพสต์ต่างๆ บ่งบอกว่า คุณเป็นคนยังไง ที่ชีวิตแย่ๆ ก็เพราะคุณเป็นคนแย่ๆ การเอาแต่นั่งพิมพ์ลงบนโลกโซเชียล มันไม่ได้แก้ปัญหาในชีวิตให้คุณเลย
เอาเวลาไปทำอย่างอื่นที่สร้างสรรค์กว่านี้ เพราะมัวแต่นั่งพิมพ์ เขียน โพสต์ Facebook ไปวันๆ จะไม่ได้ คิดและทำอะไรให้ชีวิตตัวเองดีขึ้น ? เอาเวลาไปคิด และ ทำอะไรๆ ที่สร้างสรรค์ และแก้ปัญหาของคุณดีกว่า เพราะการพิมพ์บ่นใน Facebook ไม่ได้ เปลี่ยนแปลง อะไรในชีวิตจริงๆ ของคุณเลย
3. มารยาทบนโลกอินเตอร์เน็ต 10 ข้อ
อย่าลืมว่าคุณกำลังติดต่อกับคนที่มีตัวตนจริงๆ ดังนั้น ให้ยึดมาตรฐานความประพฤติเดียว กับการสื่อสารในชีวิตจริง รวมถึงควรเคารพเวลาและการใช้แบนด์วิธ อย่าทำให้ผู้อื่นเสียเวลาในการที่จะเปิดอ่านข้อความเรา และที่สำคัญ อย่าลืมเคารพความเป็นส่วนตัวของผู้อื่นด้วย
4. วิธีอันเฟรนด์เพื่อนใน Facebook แบบเนียนๆ
หลายคนกล้าคิด กล้าทำ เป็นคนมีความกล้า แต่บางคนก็ไม่ใช่แบบนั้น .. บทความสำหรับคนที่ยังคิดถึงคนอื่นๆ อยู่บ้าง
5. สิ่งที่ไม่ควรมีบน Facebook
ลบออกไปซะ!! วันเกิด เบอร์โทรศัพท์ เพื่อนที่ไม่มีปฏิสัมพันธ์ ภาพลูกๆ หรือสมาชิกครอบครัวที่เป็นเด็ก สถานที่ ที่สมาชิกครอบครัว โดยเฉพาะเด็กๆ เวลาไปโรงเรียน โลเคชั่นเซอร์วิส หยุดแท็กโลเคชั่น เวลา และสถานที่ที่คุณไปเที่ยวพักผ่อน สถานะความสัมพันธ์ (หากคุณอยากฉลองสถานะความสัมพันธ์ใหม่ อย่าทำในเฟซบุ๊ก เหตุผลหนึ่งก็คือผลจากการเปลี่ยนสถานะจาก “in a relationship” ไปยัง “single” นั้นจะทำให้คุณรู้สึกแย่มากกว่า) และข้อมูลเครดิตการ์ด อย่าได้ลองทำแชร์เลยทีเดียว มันไม่ใช่ไอเดียที่ดีจริงๆ
6. ทำไมถึงได้ติด Facebook ติด Social
ปัจจัยหรือเหตุผลที่ทำให้ปัญหาครอบครัว อันเนื่องมาจากเฟซบุ๊กและอื่นๆ เพิ่มมากขึ้นเพราะ
1. การตอบสนองที่รวดเร็วของโลกออนไลน์ ? ซึ่งนำไปสู่การ “เร้า” อารมณ์มากกว่าการใช้เหตุผล
2. การเข้าถึงได้ง่าย ? โลกออนไลน์ทำให้เราสนิทสนมกับคนแปลกหน้าในชั่วพริบตา
3. ผลของการไร้ข้อจำกัด ? ที่คนเราก็มักแสดงอะไรในสิ่งที่เราไม่ทำในชีวิตจริง
4. การไร้ตัวตน ? ที่นำไปสู่การทำอะไรลึกๆ ที่อยากทำ แต่ไม่มีโอกาสได้ทำ
5. การยอมรับได้ ? คนส่วนใหญ่ที่เข้าไปแสดงความพิลึกพิลั่นในโลกออนไลน์คิดว่าการแสดงออกของตัวไม่ทำร้ายใครจึงยิ่งขยายหรือแสดงพฤติกรรมนั้นซ้ำๆ
6. มายาของความลับ ? เมื่อคิดว่าคนอื่นไม่รู้ว่าตัวเองเป็นใคร ก็ใช้ชีวิตแบบลับๆ ฝันๆ แทนชีวิตครอบครัวในโลกจริง
7. ฟีเจอร์ที่อยากแนะนำ “ห่างกันสักพัก ..”
ว่ากันว่า ฟีเจอร์นี้สร้างมาเพื่อให้ลดฟีดเพื่อนคนนั้น (คนที่เราไม่อยากเห็นโพสต์ของเขาบ่อยๆ) ในหน้าเฟซบุ๊กของเรา ให้เห็นน้อยลง เข้าเมนูที่สองนะคะ อย่ากด “เลิกเป็นเพื่อน” ล่ะ จากนั้นจะมีตัวเลือกอื่นๆ ประมาณนี้
8. แจ้งปิดบัญชีเฟซบุ๊ก เมื่อผู้ใช้คนนั้นตาย
เคยคิดมั้ย หากวันหนึ่งเราเสียชีวิต หรือคนอื่นๆ ใน Facebook ไม่ได้ใช้เฟซบุ๊กนั้นแล้ว จะทำยังไงต่อ
9. นี่คือสิ่งที่จะเกิดขึ้น เมื่อคุณเลิกติดโซเชียล
ไม่พลาดโมเมนต์ดีๆ ตรงหน้า
เครียดน้อยลง
มีความมั่นใจมากขึ้น
ได้พักผ่อนมากขึ้น..
มีเวลาให้กับสิ่งที่รักมากขึ้น
งานเสร็จไวขึ้น