1.เริ่มใช้เวลากับคนที่ใช่
การอยู่กับคนที่ใช่ คนที่คุณควรแคร์ และคนที่แคร์คุณคือช่องเวลาที่สุดจะมีค่าของชีวิตคุณ พวกเขาคือกลุ่มคนที่ทำให้คุณรู้สึกถึงคุณค่าของการมีคนสำคัญอยู่ข้างๆ พวกเขามอบความรักและมิตรภาพที่แท้จริงให้กับคุณ มองหาพวกเขาให้เจอว่าคือใคร พวกเขาคือคนที่อยู่กับคนในยามยากลำบาก เขาคือคนที่ยอมรับในสิ่งที่คุณเป็นเช่นเดียวกับสิ่งที่คุณอยากจะเป็นโดยไม่มีข้อแม้ใดๆ หาคนเหล่านั้นให้เจอครับ
2.เริ่มเผชิญหน้ากับปัญหาของคุณ
ปัญหาต่างๆ ไม่ได้เป็นตัวบ่งบอกความเป็นตัวคุณ แต่วิธีการที่คุณจัดการกับปัญหาเมื่อต้องเผชิญหน้ากับมันคือสิ่งที่สะท้อนความเป็นตัวตนของคุณต่างหาก เช่นเดียวกัน ปัญหาจะไม่มีวันหายไปถ้าคุณไม่ลงมือทำอะไรสักอย่าง เริ่มลงมือแก้ปัญหา แม้ว่ามันจะทีละเล็กทีละน้อย แต่มันก็คือก้าวที่ทำให้คุณเดินไปข้างหน้า ไม่ใช่นิ่งๆ อีกต่อไป
3.เริ่มซื่อสัตย์กับตัวเองในทุกๆ เรื่อง
คุณรู้ตัวเองอยู่แล้วว่าอะไรดีไม่ดี และอะไรที่ต้องถูกปรับเปลี่ยนแต่เพราะที่ผ่านมาคุณไม่ซื่อสัตย์กับตัวเองเลยไม่ได้ลงมือทำอะไร มันจึงเป็นเรื่องจำเป็นที่คุณต้องเริ่มซื่อสัตย์กับตัวเองว่าคุณคือใคร ต้องการอะไร และต้องทำอะไร คนที่จะรับผิดชอบตัวคุณก็คือตัวคุณเอง และคุณคือคนที่จะออกแบบตัวคุณเอง ออกแบบมันอย่างซื่อสัตย์ที่สุด จริงใจกับมันที่สุด เพราะนั่นคือสิ่งที่ตัวคุณคาดหวังจะได้จากคุณเช่นกัน
4.เริ่มให้ความสำคัญกับการสร้างความสุขให้ตัวเอง
ความต้องการของคุณมันเป็นสิ่งสำคัญเสมอเช่นเดียวกับคุณค่าของตัวคุณ ถ้าคุณยังไม่ให้คุณค่ากับตัวคุณเองแล้วใครจะมาให้แทนได้อีก? จงจำไว้ว่าคุณสามารถหาทางให้ความสุขกับตัวคุณเองในขณะที่ยังสามารถแคร์คนรอบข้างคุณได้ ไม่ใช่เอาแต่แคร์คนอื่นจนไม่ให้ความสุขตัวเอง
5.เริ่มเป็นตัวของคุณเอง อย่างจริงใจ และภูมิใจ
อะไรจะดีไปกว่าการที่คุณรู้สึกดีกับตัวคุณเอง ไม่ว่าคุณจะอยู่ในสถานะไหน มีพื้นฐานอย่างไร คุณก็มีดีมากพอที่จะยินดีกับตัวคุณเอง (อย่างน้อยคุณก็ยังมีชีวิตอยู่แหละนา) อย่าไปพยายามเป็นคนอื่นหรือคนที่คุณไม่ได้เป็นเพราะนั่นคือการดูถูกตัวคุณเองอย่างไม่จำเป็นเลย จงเป็นสิ่งที่ตัวคุณเองเป็น ในแบบที่ดีที่สุด แบบที่คุณภูมิใจกับมันที่สุด
6.เริ่มสังเกตและใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบัน
การอยู่กับปัจจุบันคือเคล็ดลับการมีความสุข ถ้าคุณมัวแต่คิดเรื่องอดีต คุณก็จะไม่ไปไหน ถ้าคุณกังวลแต่เรื่องอนาคต คุณก็จะลืมมองปัจจุบันไป อย่าลืมว่าทุกอย่างเริ่มต้นจาก “วันนี้” ไม่ใช่ “เมื่อวาน” หรือ “พรุ่งนี้”
7.เริ่มให้คุณค่ากับความผิดพลาดที่สอนคุณ
ทุกความผิดพลาดคือบทเรียนที่จะทำให้คุณโตขึ้น มันจึงควรค่าที่จะถูกมองและให้ความสำคัญมากกว่าจะมองข้ามมันไป ความผิดพลาดมันเหมือนขั้นตอนไปสู่ความสำเร็จ ให้ความสำคัญและเรียนรู้มันไปกับย่างก้าวของชีวิตคุณ เพื่อให้คุณไปสู่วันใหม่ที่ดีกว่าเดิมสิครับ
8.เริ่มสุภาพกับตัวเอง
จะมีประโยชน์อะไรถ้าคุณเอาแต่ด่าตัวเองด้วยคำหยาบ เราต่างรู้ดีกันว่าการใช้คำหยาบมันมีแต่ทำให้ตัวเองรู้สึกแย่เท่านั้น ฉะนั้นแล้ว คุณไม่ควรจะทำร้ายคนที่คุณควรรักมากที่สุด (ก็ตัวคุณเองนั่นแหละ) ด้วยคำพูดแบบนั้นเลย
9.เริ่มมีความสุขกับสิ่งที่คุณมี
อย่าเพิ่งไปคิดถึงสิ่งที่คุณยังไม่มี หรือคาดคิดว่าจะมี เพราะมันยังมาไม่ถึง และนั่นกลายเป็นปัญหาอย่างมากของคนหลายคนคือคิดว่าจะมีความสุขได้ต่อเมื่อต้องมีอย่างนั้นมีอย่างนี้ คุณต้องไม่ลืมว่าของที่คุณมีอยู่ทุกวันนี้ก็เพียงพอจะสร้างความสุขให้คุณได้อยู่แล้ว (และเอาจริงๆ คุณก็เคยมีความสุขกับมันมาแล้ว) ยิ้มให้กับมันหน่อยสิครับ
10.เริ่มสร้างความสุขของคุณเอง
คนบางคนมักไปรอมีความสุขกับความสุขของคนอื่น และยิ่งถ้าคุณรอ มันก็ยิ่งเหมือนเอาชีวิตของคุณไปฝากไว้กับคนอื่นซึ่งก็ไม่รู้ว่ามันจะสำเร็จเมื่อไร แล้วทำไมคุณไม่สร้างความสุขของตัวคุณเองด้วยตัวคุณเองล่ะ? หาความสุขในแบบของคุณเองที่คุณสามารถทำได้ด้วยตัวเองเสียดีกว่า ความสุขนั้นมักจะปรากฏเมื่อคุณพยายามจะค้นหามันและเอาจริงๆ คุณก็จะเจอมันในชีวิตของคุณอยู่แล้วล่ะ
11.เริ่มให้โอกาสกับไอเดียหรือความฝันของคุณ
ไอเดียของคุณอาจจะไม่ใช่ไอเดียใหม่ ความฝันของคุณอาจจะซ้ำกับคนอื่นบ้าง แต่ก็ไม่ใช่ว่ามันจะไม่มีโอกาสได้ทำให้เป็นจริง ไอเดียของคุณควรค่าจะได้ทดลอง ได้ทดสอบ ความฝันของคุณควรค่าจะได้ตามหา ต่อให้มันไม่เวิร์คก็ไม่เป็นไร แต่อย่างน้อยก็ให้มันได้มี “ชีวิต” กับเขาบ้างเสียดีกว่าให้มันไม่ได้เกิดขึ้นเลยสักนิด
12.เริ่มเชื่อเสียทีว่าคุณพร้อมสำหรับก้าวต่อไป
บอกตัวเองได้เลยว่าคุณพร้อมอยู่แล้ว คุณมีทุกอย่างที่พร้อมจะทำให้คุณก้าวไปเพียงแต่ก้าวนั้นอาจจะสั้นหรือจะยาวแค่นั้น ถ้าโอกาสมาถึงคุณ คุณก็ควรจะคว้ามันไว้ (เหอะ) เพราะคุณมีดีพอจะคว้าโอกาสไว้แล้ว
13.เริ่มมีความสัมพันธ์ใหม่ด้วยเหตุผลที่ดีพอ
คนรอบข้างคุณคืออีกด้านหนึ่งของการแสดงว่าคุณเป็นคนยังไง ความสัมพันธ์นี้ไม่ใช่แค่คู่รักอย่างเดียว แต่หมายถึงเพื่อนๆ และคนสำคัญรอบตัวคุณด้วย กลุ่มเพื่อนคือสัญลักษณ์ที่บอกว่าคุณเป็นคนยังไง ฉะนั้นแล้วพิจารณาพวกเขาให้ดีโดยเฉพาะสิ่งที่พวกเขากระทำ เพราะนั่นคือสิ่งที่สะท้อนตัวตนของพวกเขานั่นเอง
14.เริ่มให้โอกาสกับคนที่คุณรู้จักใหม่ๆ
ฟังอาจจะดูแปลกๆ แต่คนที่คุณเพิ่งรู้จักใหม่อาจจะกลายเป็นเพื่อนสนิทที่ดีกว่าเพื่อนคนก่อนของคุณก็ได้ คุณต้องกล้าที่จะให้พวกเขาได้เข้ามาในชีวิตของคุณ ค้นหาว่าเขาเข้ากับคุณได้ดีแค่ไหน จริงอยู่ว่าการรู้จักกับคนใหม่ๆ อาจจะเป็นเรื่องน่ากังวลอยู่บ้าง แต่มันก็อาจจะทำให้คุณเจอคนที่ “ใช่” ได้เช่นกัน
15.เริ่มแข่งกับตัวเองแบบวันก่อนๆ
มันคงเป็นเรื่องไม่ดีแน่ถ้าคุณจะเป็นแบบเดิมตลอดไป คุณต้องเริ่มมองหาว่าคุณจะดีขึ้นจากเดิมได้อย่างไร อะไรคือสิ่งที่คุณจะได้ให้ได้มากกว่าเดิม ดีกว่าเดิม อย่าเพิ่งไปแข่งกับคนอื่น (และเอาจริงๆ คือไม่ต้องไปแข่งกับคนอื่นหรอกครับ) แต่โฟกัสที่จะแข่งกับตัวเอง ให้ดีขึ้นไปเรื่อยๆ
16.เริ่มเชียร์คนอื่น
การร่วมเชียร์และลุ้นไปกับคนอื่นคือหนึ่งในสิ่งที่ทำให้คุณเห็นคุณค่าบางอย่างนอกเหนือจากของตัวเอง คุณต้องกล้าที่จะบอกว่าคุณชื่นชมคนอื่นเรื่องไหน เริ่มชื่นชมในสิ่งที่คนอื่นเป็นและร่วมเป็นกำลังใจให้กับพวกเขา ยินดีไปกับเขา มันคือก้าวสำคัญที่ทำให้คุณได้เห็นความงามอื่นๆ ที่มีอยู่มากมายรอบตัวคุณ
17.เริ่มมองหาความหวังแม้ในยามยาก
คนเราต้องเจอปัญหาและหลายๆ ครั้งทำเอาเราทรุดจนแทบไม่อยากลุกขึ้นมา อย่าเพิ่งไปยอมแพ้มันแต่มองหาความหวังที่แม้จะน้อยนิดแต่ก็ดีเสียกว่าไม่มีอะไรเลย แม้แสงสว่างจะมีน้อยนิดในความมืดแต่นั่นก็ทำให้มันไม่มืดสนิทจนมองไม่เห็นอะไร อย่าลืมบอกตัวเองว่าทุกครั้งที่ยากลำบากจะทำให้คุณแกร่งขึ้น ความหวังนี้จะทำให้คุณไปถึงสิ่งที่ดีกว่าในวันข้างหน้าสักวัน
18.เริ่มให้อภัยตัวคุณเองและคนอื่นๆ
การถือโทษโกรธอาฆาตจะนำไปสู่อะไรได้นอกจากพันธนาการที่ทำให้เราจมดิ่งอยู่กับอารมณ์และความเจ็บปวด ปลดปล่อยมันออกด้วยการบอกให้อภัยโดยเฉพาะกับตัวคุณเองนั่นแหละ แล้วเผื่อแผ่ไปยังคนอื่นๆ ด้วย การให้อภัยไม่ใช่แปลว่าคุณลืมเรื่องที่เกิดขึ้นหรือเหมือนมันไม่เคยเกิดอะไรขึ้น แต่มันคือการที่คุณยอมรับและปล่อยให้มันเป็นอดีตแทนที่จะให้ตามมาหลอนในปัจจุบัน
19.เริ่มช่วยเหลือคนรอบข้างคุณ
ยิ่งคุณช่วยคนอื่นมากเท่าไร คนอื่นจะช่วยคุณกลับมากขึ้น (ในอนาคต) ความรักและน้ำใจเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้เราชื่นใจกับการมีชีวิตและคุณไม่มีทางได้มันมาหากคุณยังไม่เริ่มจะมอบให้คนอื่น
20.เริ่มฟังเสียงลึกๆ ของตัวคุณเอง
หลายๆ ครั้งคุณต้องกล้าฟังเสียงลึกๆ ของตัวคุณเอง เพราะนั่นคือความรู้สึกที่แท้จริงของคุณ ให้โอกาสมัน ซื่อสัตย์กับมัน และกล้าให้มันเป็นเสียงของคุณในวันนี้
21.เริ่มใส่ใจกับความเครียดของคุณและหยุดพักเสียบ้าง
การให้โอกาสตัวคุณเองได้หยุดพัก ได้ตั้งสติ เป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้คุณก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง การพยายามเค้นตัวเองมากเกินไปก็จะทำร้ายตัวคุณเองแทนที่จะผลักดันคุณ ถ้าคุณรู้สึกว่ามันตึงเกินไป มันเข้มเกินไป ก็พักเสียงบ้างดีกว่า
22.เริ่มใส่ใจกับความงามเล็กๆ น้อย
แทนที่จะรออะไรยิ่งใหญ่มาสร้างความประทับใจ ลองมองอะไรที่งดงามรอบตัวคุณที่แม้จะไม่ใช่อะไรที่ใหญ่โตแต่มันก็มีคุณค่า รอยยิ้มจากคนรอบข้าง น้ำใจของคนที่ผ่านไปผ่านมา ฯลฯ สิ่งเหล่านี้มันทำให้คุณรู้สึกว่าโลกนี้ยังมีอะไรดีๆ อีกเยอะให้คุณค้นหา ความสุขมันอยู่รอบตัวคุณโดยที่คุณไม่ต้องทนรออะไรใหม่ๆ เสมอไป และบางทีมันก็ทำให้ชีวิตของคุณเปลี่ยนไปได้ทันทีเลยด้วยซ้ำ
23.เริ่มก้าวไปสู่เป้าหมายที่คุณวางไว้ในทุกๆ วัน
อย่าผลัดวันประกันพรุ่ง คุณรู้ดีว่าเป้าหมายของคุณคืออะไรและคุณจะไปไม่ถึงถ้าคุณไม่ก้าวไปหามัน วางแผนให้ดีและลงมือทำในทุกๆ วัน จะเล็กจะน้อยก็ให้มันขับเคลื่อนไป ฉะนั้นเริ่มทำอะไรเสียแต่วันนี้ แล้ววันหนึ่งคุณก็จะไปถึงเป้าหมายได้แน่นอน
24.เริ่มยอมรับสิ่งต่างๆ แม้ว่ามันจะไม่สมบูรณ์แบบก็ตาม
จำไว้ว่า “สมบูรณ์แบบ” เป็นศัตรูกับ “ดี” เพราะมันทำให้หลายๆ ครั้งคุณไม่พอใจกับสิ่งที่ดีและมีอยู่แล้ว จริงอยู่ว่าคุณอาจจะมีความทะเยอทะยานและภาพฝันที่อยากให้เป็น แต่ในหลายๆ ครั้งคุณก็ต้องยอมรับกับสิ่งที่ได้มาแม้ว่ามันจะไม่ได้เพอร์เฟคแต่มันก็ “ดี” อยู่แหละ และแม้ผลลัพธ์อาจจะไม่ได้คะแนนเต็ม 100 แต่คุณค่าของมันอาจจะไม่ใช่แค่ผลลัพธ์แต่ยังมีเรื่องราวที่เกิดขึ้นระหว่างทางอีกมากมายด้วย
25.เริ่มเปิดเผยกับความรู้สึกที่แท้จริงของคุณ
ถ้าคุณเจ็บปวด ก็บอกว่าคุณเจ็บปวด มันไม่มีใครสร้างอนุเสาวรีย์ให้คุณที่มัวแต่เก็บความรู้สึกเอาไว้หรอก ในทางตรงกันข้าม การเผยความรู้สึกของคุณออกมาจะทำให้คนรอบข้างของคุณได้เข้าใจตัวคุณมากขึ้น และทำให้คุณได้หาทางอยู่ร่วมกับคนอื่นได้มากขึ้นแทนที่จะต้องพยายามอดทนและฝืนแบกความทุกข์เอาไว้
26.เริ่มรับผิดชอบกับชีวิตตัวเอง
อย่าเอาชีวิตคุณไปฝากไว้กับคนอื่น คุณคือเจ้าของชีวิตคุณเอง เริ่มให้ความสนใจ ให้ความสำคัญกับมันเพราะคุณคือคนที่จะต้องอยู่กับมันไปทั้งชีวิต (และเป็นคนสุดท้ายด้วย) รับผิดชอบในตัวเองคือสิ่งสำคัญที่คุณต้องทำ อย่าโยนความรับผิดชอบให้คนอื่นเพราะเขาไม่ได้มานั่งรับผิดชอบอะไรกับชีวิตของคุณหรอก มีแต่คุณเองเท่านั้นที่จะกำหนดว่าชีวิตของคุณจะเป็นอย่างไรต่อไป
27.เริ่มจะจริงจังกับความสัมพันธ์ของคุณ
การจริงจังกับความสัมพันธ์เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างคุณค่าให้กับชีวิตคุณเอง เผชิญหน้ากับคู่ของคุณแล้วบอกเขาว่าเขาสำคัญอย่างไรกับคุณ คุณไม่สามารถเป็นทุกๆ อย่างให้กับทุกๆ คน แต่คุณสามารถเป็นทุกๆ อย่างให้กับคน “บางคน” ได้ และคุณต้องเลือก (เสียที) ว่าพวกเขาคือใคร
28.เริ่มสนใจกับสิ่งที่คุณควบคุมได้
คุณไม่สามารถเปลี่ยนแปลงทุกอย่างได้ แต่อย่างน้อยคุณก็มีสิ่งที่คุณสามารถควบคุมได้ และนั่นคือสิ่งที่คุณควรเอาสติและสมาธิมาจดจ่อกับมัน อย่าไปเสียเวลากับสิ่งที่คุณควบคุมไม่ได้แต่ใช้เวลาให้คุ้มค่าที่สุดกับสิ่งที่คุณสามารถ “ทำได้”
29.เริ่มทัศนคติในเรื่องความเป็นไปได้และการคิดบวก
บอกตัวเองว่า “มันเป็นไปได้” คือพื้นฐานที่สำคัญของการทำให้คุณกล้าจะก้าวเดินต่อไป กล้าจะรับโอกาสใหม่ๆ การคิดบวกคืออาวุธที่จะเอาชนะทัศนคติแง่ลบที่บั่นทอนชีวิตและความรู้สึกของคุณ ลองพูดคุยกับตัวคุณเอง เมื่อไรที่คุณรู้สึกแง่ลบขึ้นมา เปลี่ยนมันเป็นการคิดบวก ลงมือทำในสิ่งที่คุณเชื่อ ลงมือในสิ่งที่คุณต้องการให้มันเกิดขึ้น ทุกอย่างมันมีสองด้านอยู่แล้ว มันอยู่ที่ว่าคุณจะเลือกสนใจกับฝั่งไหนมากกว่ากัน
30.เริ่มสังเกตว่าคุณ “สมบูรณ์ดี” แค่ไหนแล้วตอนนี้
คุณดีแค่ไหนแล้วที่มีข้าวกิน คุณดีแค่ไหนแล้วที่มีเสื้อผ้าให้เปลี่ยน คุณดีแค่ไหนแล้วที่มีน้ำให้อาบ มีบ้านให้อยู่ มีไฟให้ใช้ มียารักษาโรค มีน้ำสะอาดให้ดื่ม ฯลฯ คุณมีความสมบูรณ์มากมายที่คุณอาจจะเคยมองไม่เห็น ลองมองดูดีๆ คุณจะเห็นว่าชีวิตคุณดีแค่ไหนแล้ว