ประเทศไทยนี่ไม่ใช่แค่ประเทศร้อนนะ แต่มันเรียกว่าโคตรร้อนต่างหาก โดยถ้าบ้านไหนไม่ติดเครื่องปรับอากาศให้เย็นฉ่ำ รับรองได้ว่ากลางค่ำกลางคืนคงนอนกันไม่หลับแน่ แต่การเปิดแอร์ให้เย็นฉ่ำในทุกวัน Gangbeauty ขอชี้แจงเลยนะว่ามีโอกาสที่เธอจะมีโรคต่างๆ เกิดขึ้นได้โดยไม่รู้ตัว ยิ่งพนักงานออฟฟิศ หรือตามห้างร้านต่างๆ ที่จำเป็นต้องใช้ชีวิตในห้องแอร์แทบทั้งวันก็ยิ่งเสี่ยงล่ะ!
1. โรคทางเดินหายใจ
hoadavietnam.com
นพ.อิทธิชัย วัชรีคุปต์ แพทย์สาขาอายุรกรรมทั่วไป แผนกประกันสังคม รพ.กล้วยน้ำไท 1 เตือนว่าการอยู่ในห้องที่มีอุณหภูมิค่อนข้างเย็น โดยเฉพาะต่ำกว่า 25 องศาเซลเซียส เซลล์ต่างๆ จำพวกเยื่อบุโพรงจมูก หลอดลม คอ จะแห้งมากกว่าเดิม เมือกจะหมดอานุภาพการเคลือบ ทำให้เซลล์เหล่านั้นสัมผัสโดนเชื้อโรคโดยตรง อาจเกิดการผิดปกติกับระบบทางเดินหายใจ เช่นเป็นหวัด ภูมิแพ้ คัดจมูก แสบจมูก หรือที่แย่กว่านั้นก็อักเสบในระบบทางเดินหายใจ
2. ลีเจียนแนร์
โรคนี้เป็นโรคที่ผู้ป่วยจะเกิดการเบื่ออาหาร อ่อนเพลีย ปวดกล้ามเนื้อ ปวดศีรษะ จนกระทั่งไข้ขึ้นสูง ไอแห้ง ปวดท้อง หนักกว่านั้นคือท้องร่วง โดยต้นเหตุมักมาจากเครื่องปรับอากาศนี่ล่ะ แบคทีเรียลีเจียนแนร์จะชอบแฝงตัวอยู่ในห้องปรับอากาศที่ไม่ได้รับการทำความสะอาดอย่างเหมาะสม อับชื้น โดยในผู้ป่วยบางรายที่เป็นหนักมากก็อาจก้าวไปถึงขั้นปอดอักเสบ ซ้ำร้ายสุดภาวะหายใจล้มเหลว
3. ไข้ปอนเตียก
pxhere.com
โรคนี้เป็นโรคที่เกิดจากการที่ร่างกายแสดงปฏิกิริยาต่อแอนติเจนที่สูดเข้าไป ไม่ก่อให้เกิดอาการปอดบวม ไม่ถึงขั้นนั้น เพียงแต่จะเป็นอาการป่วย ไม่สบายตัวไป 2-5 วัน จากนั้นอาการจะดีขึ้นไปเอง ฟังดูไม่ร้ายแรงนะ แต่ในระหว่างที่ป่วยเป็นไข้ปอนเตียก ภูมิคุ้มกันร่างกายจะอ่อนแอ และนี่คือโอกาสทองของเหล่าแบคทีเรียที่จะเข้าไปบุกทำลายร่างกายเราได้ ดังนั้นไม่ควรป่วยเลยจะดีกว่า
4. โรคจากเชื้อไวรัส แบคทีเรีย เชื้อรา
ไม่ว่าจะวัณโรค ปอดบวม อีสุกอีใส หอบหืด หัดเยอรมัน เหล่านี้มักมีสาเหตุมาจากอากาศที่ผ่านช่องแอร์มา เพราะในเครื่องปรับอากาศนั้นถือเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคเยอะมาก ยิ่งไปกว่านั้นคือเวลาเปิดแอร์ ก็ต้องปิดประตูหน้าต่าง ขาดอากาศถ่ายเทแบบนี้ เชื้อโรคก็วนเวียนอยู่รอบตัวเราสบายเลย
5. ผื่นแพ้ ผิวหนังอักเสบ
ถ้าเปิดแอร์แล้วได้กลิ่นอับ คืนนั้นอาจจะต้องนอนพัดลมไปก่อน ล้างแอร์ให้เรียบร้อยแล้วค่อยเปิดใหม่ก็ไม่สาย เพราะกลิ่นนั้นคือสัญญาณเตือนถึงเชื้ออันตรายที่มีสะสมจนมากเกินไปแล้ว นอกจากเสี่ยงต่อการเป็นโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจ ยังเสี่ยงต่อโรคผิวหนังและผื่นแพ้อักเสบต่างๆ อีกด้วยล่ะ
6. โรคตึกเป็นพิษ
www.pexels.com
อากาศเย็นจากแอร์ก็ก่อสารพิษให้เพิ่มทวีคูณได้ หากรวมกันกับสารระเหยจากสีทาผนัง เครื่องถ่ายเอกสาร ปริ๊นเตอร์ ไม้อัด สารเคลือบเงาทั้งหลาย รวมถึงไรฝุ่นในพรม อาจทำให้เกิดอาการอ่อนล้า ปวดหัว เวียนหัว คลื่นไส้ คัดจมูก ไอ จาม เป็นผดผื่น ระคายดวงตา และมีความผิดปกติในประสาทรับกลิ่น
7. ภาวะติดเชื้อ
จากผลการวิจัยของสำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อมแห่งสหรัฐ (The Environmental Protection Agency : EPA) พบว่าอากาศในห้องแอร์นั้นอาจเป็นพิษได้มากกว่ามลพิษจากภายนอก เพราะไม่ถ่ายเท ดังนั้นจึงทำให้คนที่อยู่ในห้องแอร์ มีแนวโนมเกิดอาการติดเชื้อได้มากกว่าคนที่อยู่กลางแจ้ง ยิ่งเป็นคนที่มีภูมิคุ้มกันต่ำและไม่ได้ออกกำลังกายอยู่แล้ว ยิ่งเสี่ยงขึ้นเป็นสองเท่า
8. ติดเชื้อทางผิวหนัง
การอยู่ในห้องที่อุณหภูมิต่ำ จะทำให้เราเสียน้ำในร่างกายมากขึ้นเพราะอากาศแห้ง ถ้าดื่มน้ำน้อย ผิวของเธอจะแห้งกร้านอย่างเห็นได้ชัด ยิ่งถ้าเกาจนถลอกเป็นแผล ก็ไม่ต่างอะไรจากการเปิดประตูต้อนรับเชื้อโรคต่างๆ ที่หมุนวนอยู่ในอากาศ เข้าสู่ร่างกายทางปากแผลได้ง่ายๆ เลย
9. อ้วน
pxhere.com
การอยู่ในห้องที่อากาศเย็น ร่างกายก็จะไม่ใช้พลังงานในการทำให้ร่างกายเราอบอุ่น ทำให้การเผาผลาญไขมันหยุดตัวลง แถมในช่วงเวลานั้นเรายังจะกินจุบจิบเข้าไปเพิ่มอีก อากาศแบบนี้ก็ขี้เกียจเพิ่มขึ้นไปอีก ปัจจัยเหล่านี้ล่ะที่ส่งเสริมให้น้ำหนักตัวเราอ้วนฉุไปโดยไม่ทันตั้งตัว!
พยายามออกมาสูดอากาศข้างนอกบ้าง ล้างแอร์กันให้บ่อยขึ้นหน่อยนะ!
ภาพปก www.maerakluke.com