ส้ม (Orange) ผลไม้รสชาติเปรี้ยวหวาน จัดว่าเป็นหนนึ่งในผลไม้ยอดฮิต หยิบมาทานเมื่อไรรู้สึกเพิ่มความสดชื่นได้เลยทันที อีกทั้งยังเป็นแหล่งรวมวิตามิแร่ธาตุดีๆ มากมาย อาทิ วิตามินซี วิตามินเอ ธาตุแคลเซียม ธาตุโพแทสเซียม ธาตุฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก และคอลลาเจน ดีทั้งสุขภาพร่างกายและผิวพรรณ ประโยชน์เน้นๆ ที่เด่นๆ มีอะไรบ้าง ส้มมีวิตามินซีเท่าไร ? ไปอ่านเกร็ดความรู้กันค่ะ
ประโยชน์ของ ส้ม แหล่งรวมวิตามิน และแร่ธาตุ
1. ส้มมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยสร้างคอลลาเจน ช่วยในการชะลอวัย ช่วยทำให้ผิวมีสุขภาพดี เปล่งปลั่งสดใส ไม่แห้งกร้าน
2. ช่วยบำรุงสายตา ป้องกันการเกิดโรคต้อกระจก
3. ช่วยเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง ด้วยแคลเซียมและวิตามินดีจากส้ม ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอในร่างกายของเรา
4. ช่วยสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย ลดสภาวะความเครียดได้ นอกจากการดื่มน้ำส้ม เปลือกของส้มยังสามารถนำมาทำเป็นน้ำมันหอมระเหยช่วยให้ร่างกายรู้สึกผ่อนคลายและช่วยกระตุ้นระบบประสาทได้ดีด้วย
5. ช่วยป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ โรคเลือดออกตามไรฟัน โรคหัวใจ ลดโอกาสการเกิดโรคมะเร็งที่ปาก กล่องเสียง และที่กระเพาะ
6. ส้มมีกากใยสูง สามารถช่วยในการขับถ่าย ขับล้างสารพิษในลำไส้
7. มีสารเบตาแคโรทีนช่วยชะลอความเสื่อมของเส้นผม เล็บ และผิวช่วยให้ผนังหลอดเลือด เส้นเลือดฝอยแข็งแรง
8. เปลือกส้มจะมีน้ำมันหอมระเหยที่ช่วยแก้อาการวิงเวียนศีรษะ เป็นยาระบายอ่อนๆ และมีสารช่วยลดคอเลสเตอรอล ช่วยปรับระดับน้ำตาลในเลือด และช่วยกรองสารพิษในตับได้ ช่วยทำลายเซลล์มะเร็งได้
9. เปลือกส้มที่แห้งแล้ว เมื่อนำไปจุดไฟจะมีกลิ่นหอมและมีคุณสมบัติในการไล่ยุง
10. การทานส้ม สามารถช่วยย่อยอาหารที่มีไขมันสูงได้
ข้อควรระวัง สำหรับคนที่คิดจะทานส้ม
– เด็กต้องอายุมากกว่า 6 เดือน และให้ดื่มน้ำส้มนั้นต้องผสมน้ำเปล่าในปริมาณครึ่งต่อครึ่ง เพื่อลดการระคายเคืองสำหรับเด็ก
– ผู้ที่เป็นโรคเบาหวานหรือโรคไต หรือคิดว่ากำลังจะลดความอ้วน ควรกินในปริมาณพอดีด้วยความระมัดระวัง เพราะส้มมีน้ำตาลและโพแทสเซียมสูง ควรเลือกกินเพราะว่าส้มมีกากใยมากกว่าคิดว่าเป็นน้ำส้มคั้น
ส้มมีวิตามินซีเท่าไร ?
– ผลส้มสด 100 กรัม จะมีเบตาแคโรทีน 82 ไมโครกรัม และวิตามินซี 50 มิลลิกรัม
– ส้ม 1 ผลโดยทั่วไปจะมีน้ำหนักเฉลี่ยอยู่ที่ 140 กรัม ก็เท่ากับว่า ส้ม 1 ลูกมีวิตามินซี 70 mg. และมีเบตาแคโรทีน 115 mcg.
– โดยสรุปแล้วการกินส้มวันละผลถือเป็นสิ่งที่ดี ไม่มากเกินไป ไม่้อยเกิไป และยังช่วยป้องกันโรคมะเร็งบางชนิดได้ด้วย