อากาศร้อนแบบนี้ ของกินหวานฉ่ำหลายอย่างเลยทำให้เราอดใจไม่ค่อยไหวที่จะเขมือบมันลงไป แต่ไม่นานก็อาจจะเกิดปัญหาท้องอืดท้องเฟ้อขึ้นมา ซึ่งมันก็ส่งต่อผลลัพธ์ทำให้เรารู้สึก “ปวดตด” อย่างบอกไม่ถูก หลายคนบอกว่าตดเป็นแค่ลมและกลิ่น ก็แค่ตด ไม่เห็นต้องใส่ใจ แต่ Gangbeauty ขอบอกว่าไม่ใช่ เพราะมันมีเนื้อมีหนังจากลำไส้ใหญ่ ปะปนอยู่ในตดด้วยนะ นอกจากนี้ยังมีความจริงอีกมากมายเลยล่ะที่เรายังไม่เคยรู้!
1. ตดไม่ใช่แค่อากาศ มันมีรูปร่าง เพียงแต่อยู่ในสถานะแก๊สเท่านั้น โดยในตด ประกอบไปด้วยไนโตรเจน, ไฮโดรเจน, คาร์บอนไดออกไซด์, ออกซิเจน และมีเธน
www.littlethings.com
2. กลิ่นของตด ไม่ใช่แก๊สพิษ ที่เข้าจมูกแล้วจะทำให้รู้สึกแย่ หรือเป็นอันตราย แต่มันเป็นกลิ่นของอึ กลิ่นของสุขภาพลำไส้ กลิ่นของแบคทีเรียต่างๆ ซึ่งสามารถบอกได้เลยว่าพฤติกรรมการดูแลสุขภาพในเรื่องของอาหารการกินนั้นเป็นอย่างไร
3. เราอาจจะเคยเห็นคนเพี้ยนๆ ทดลองตดใส่ไฟแล้วพบว่ามันสามารถพ่นไฟได้ ความจริงแล้วไม่ใช่ว่าตดของทุกคนจะสามารถพ่นไฟได้นะ ตดที่สามารถพ่นไฟได้ ต้องเป็นตดที่มีมีเธนอยู่เยอะ ซึ่งแก๊สชนิดนี้ก็เกิดขึ้นมาจากแบคทีเรียอาร์เคียที่ชอบอาศัยอยู่ในแหล่งหมักหมม เค็ม และเป็นกรดอีกทีหนึ่ง สรุปง่ายๆ คือถ้าตดใครพ่นไฟได้ แปลว่าลำไส้เขาคนนั้นน่าจะสุขภาพไม่ค่อยดีเท่าไหร่
mikeladano.com
4. ถ้าพูดถึงความเร็ว หลายคนอาจจะนึกถึงรถแข่ง เสือชีตาห์ แต่ต้องอย่าลืมที่จะคิดถึงตดด้วย เพราะความเร็วของมันไม่ธรรมดา อยู่ที่ประมาณ 10 ฟุตต่อวินาทีเลยทีเดียว เรียกได้ว่าพ่นออกก้นมาปุ๊บ ก็ลอยสู่อากาศได้ปั๊บ
5. ใน 1 วัน คนเรามีการตดโดยเฉลี่ยประมาณ 600 ซีซี หากนึกไม่ออก ให้จินตนาการถึงขวดน้ำดื่ม 10 บาท เยอะเท่านั้นเชียวนะ
6. คนกินแต่ผักมักจะมีแก๊สในกระเพาะเยอะ แต่เสียงตดจะเบา เพราะลำไส้มีกากมาก กล้ามเนื้อหูรูดคลายตัวง่าย ตดจึงออกผ่านรูก้นมาง่ายกว่า ในขณะที่คนกินเนื้อ มีแก๊สที่น้อยกว่ากินผักมาก แต่กล้ามเนื้อหูรูดคลายตัวไม่ค่อยดี จึงทำให้แก๊สไม่มีทางออกจากปลายลำไส้มากนัก เมื่อมันอัดรวมกันที่ปากทางจนล้น มันก็เลยระเบิดจนเกิดเสียงดังปุ้งป้างอย่างที่ได้ยิน
maxpixel.freegreatpicture.com
7. นอกจากถั่วที่ทำให้เราตดได้เยอะ บล็อคโคลี กะหล่ำปลี แอปเปิ้ล ลูกเกด และนมก็ทำให้เราตดเต็มท้องได้ด้วยเหมือนกัน เพราะสิ่งเหล่านี้มีน้ำตาลที่ร่างกายดูดซึมไปใช้ไม่ได้อยู่เยอะ ทำให้เหลืออารยธรรมให้เป็นอาหารของแบคทีเรียที่ลำไส้ เมื่อแบคทีเรียกินน้ำตาลนั้นเข้าไปจนหมด มันก็จะทำการปล่อยแก๊สออกมาอย่างบ้าคลั่งเลยล่ะ
8. เสียงตดแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนเสียงแหลม บางคนเสียงอ่อย บางคนเสียงดังเหมือนฟ้าร้อง ซึ่งเสียงจะเป็นแบบไหน ก็ขึ้นอยู่กับลักษณะทางกายภาพของปลายลำไส้ และรูก้นของเรานั่นเอง
ตดไม่ใช่แค่ลม และไม่ธรรมดาเลยด้วยนะเนี่ย!
