คนเรามีเรื่องผิดพลาดมากมายเกิดขึ้นในชีวิต แต่จะมีสักกี่คนที่รู้ว่าสิ่งที่เป็นอยู่ในชีวิตประจำวันของเราเองก็ถือเป็นความผิดพลาดเช่นกัน โดยเฉพาะ 12 สิ่งต่อไปนี้ Gangbeauty เชื่อว่าเธอทั้งหลายน่าจะทำผิดกันแบบไม่รู้ตัวมากกว่าครึ่งนึงเลยล่ะ!
1. ทำงานที่ง่ายที่สุดก่อน
pixabay.com
จากผลการศึกษาพบว่าคนเรามักจะมีความตั้งใจสูงสุดในช่วงเริ่มต้นของวัน และเมื่อเวลาผ่านไปก็จะน้อยลงเรื่อยๆ ดังนั้นช่วงเช้า เราจึงควรเลือกทำงานที่ยากก่อน เพราะความตั้งใจเรายังล้น พอช่วงบ่ายค่อยเคลียร์งานเล็กงานน้อยตามลำดับ นอกจากนี้ยังควรทำไปทีละงาน เพราะจากผลการวิจัยพบว่าการทำทีละงาน ใช้เวลาน้อยกว่าทำอะไรหลายอย่างพร้อมกัน
2. เปิดโทรศัพท์วางไว้บนโต๊ะทำงาน
www.maxpixel.net
โทรศัพท์มือถือนับว่าเป็นเครื่องมือเก็บข้อมูลส่วนตัวที่สำคัญ แต่อย่างไรก็ไม่ควรนำมันวางเอาไว้บนโต๊ะ ต่อให้เปิดสั่นแล้วก็ตาม เพราะจากผลงานวิจัยเผยว่า โทรศัพท์มือถือจะทำให้ความสามารถด้านความรู้และความคิดถูกตัดทอน ถูกลดประสิทธิภาพลงโดยไม่รู้ตัว
3. นั่งทั้งวัน
www.maxpixel.net
ถึงแม้ว่าเราจะทำงานในออฟฟิศ ถึงแม้ว่ามันจะเป็นงานสบาย ก็ไม่ได้แปลว่าเราจะไม่สามารถลุกออกจากเก้าอี้ได้เลย จากผลการวิจัยกล่าวว่าคนเราควรลุกขึ้นยืนและเดินไปรอบๆ สัก 2-3 นาทีต่อครั้งเพื่อสุขภาพที่ดี แถมยังมีความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตน้อยกว่าเดิมอีกด้วย
4. นั่งจ้องหน้าจอ
pxhere.com
ถ้าลองคิดทบทวนดูดีๆ เราจะพบว่าสายตาของเราถูกใช้งานไปกับการมองจอ LCD แทบจะตลอดเวลา ไม่ว่าจะคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ ไหนจะแท็บเลตต่างๆ ซึ่งมันส่งผลให้เกิดภาวะ “ตาล้าดิจิทัล” จะมีอาการตาแห้งและพร่ามัว ทางแก้ไขคือทุกๆ 20 นาทีจะต้องมองไปให้ไกลราว 20 ฟุต อย่างน้อย 20 วินาทีเพื่อพักผ่อนสายตานั่นเอง
5. รอจนบ่ายค่อยหยุดพัก
pxhere.com
ร่างกายของเราถึงแม้จะไม่ได้ใช้งานจนเหนื่อย แต่สมองและสายตานั้นล้ากว่าที่คิด การเร่งรีบปั่นงานทุกอย่างให้เสร็จแล้วรอพักตอนบ่ายทีเดียวถือเป็นเรื่องที่ไม่มีประโยชน์เอามากๆ เปลี่ยนมาพักผ่อนคลายช่วงสายๆ หลังทำงานไปสักพักดีกว่า เพราะจะสามารถช่วยฟื้นฟูสมาธิ พลังงาน และพลังใจได้ดี
6. ฟังเพลงไปด้วย ทำงานไปด้วย
commons.wikimedia.org
เรามักฝืนความง่วงระหว่างทำงานด้วยการฟังเพลงไปด้วยเพราะคิดว่ามันช่วยปลุกใจให้ตื่นตาสว่าง ทว่าจากงานวิจัยในปี 2015 พบว่ากิจกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวกับการใช้สมาธิจะแย่ลงเมื่อเราฟังเพลงไปด้วย แต่ถ้างานนั้นเป็นงานที่ต้องทำซ้ำๆ เช่น ประกอบชิ้นส่วนรถหลายๆ คัน หรือขับรถให้เจ้านายนั่งหลายชั่วโมง การฟังเพลงถือเป็นการกระตุ้นที่ดี
7. หาเรื่องทะเลาะกับคนรัก
www.flickr.com
หลายครั้งที่ผู้หญิงเราก็งี่เง่า ไม่พอใจนิดหน่อยก็หาเรื่องหาราวมาทะเลาะเบาะแว้งใหญ่โต ซึ่งถ้าใช้วิธีการโต้เถียง ขู่เข็ญกันไปมา รับรองได้ว่าอย่างไรก็ไม่มีทางยุติสถานการณ์แบบนี้ได้ ให้ลองพูดคำว่า “โอ๊ย” ลากเสียงยาวๆ เสียงไม่แข็ง ไม่ตวัดหางเสียง จะทำให้อีกฝ่ายรู้สึกถึงความอ่อนแอของเรามากกว่าความก้าวร้าวล่ะ
8. เลือกอาหารที่ดูเหมือนจะมีประโยชน์
www.pexels.com
น้ำผักผลไม้เป็นน้ำที่มีประโยชน์ แต่ต้องเป็นน้ำผักผลไม้ที่ได้จากการคั้นสดด้วยตัวเราเองเท่านั้น เพราะส่วนใหญ่แล้วน้ำผักผลไม้ที่บรรจุกล่องมาสำเร็จรูป มักผสมน้ำตาลและสารให้ความหวานในปริมาณที่เยอะมาก ในขณะที่บางคนกลับคิดว่าไข่ไก่มีคอเลสเตอรอลสูง เป็นเหตุทำให้อ้วน ก็เลยไม่ทานซะอย่างนั้น แบบนี้ไม่ถูกต้องแล้วล่ะ
9. การรับข้อมูลบนสื่อ
pxhere.com
นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่าการเล่นโซเชียลทุกวันนี้ แบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือผู้ให้ข้อมูลและผู้รับข้อมูล ทว่าส่วนใหญ่เรากลับทำหน้าที่เป็นผู้รับข้อมูลอย่างเดียว จนทำให้เรารู้สึกไปเองว่าชีวิตของเราช่างย่ำแย่ ไม่เหมือนชีวิตดีๆ ของคนอื่นเลย ลองเปลี่ยนมาเป็นผู้ให้ข้อมูลบ้างดีมั้ย หัดไปคอมเมนต์รูปเพื่อน หรือทักข้อความส่วนตัวไปหาครอบครัวเพื่อสนทนาบ้างก็ดีนะ
10. นอนดึกเกินไป
www.flickr.com
ก็ซีรีส์มันสนุก จะหยุดดูก็หยุดยาก เราจึงมักดูเพลินจนกินเวลาเข้านอน แถมยังยืดเวลาดูซีรีส์มากขึ้นเรื่อยๆ ในทุกๆ วัน พฤติกรรมแบบนี้จะทำให้ร่างกายของเราอยู่ใน “ภาวะผัดผ่อนเวลานอน” ซึ่งมีฤทธิ์ร้ายแรงเสมือนการสูบบุหรี่จัดๆ ตั้งเวลาเข้านอนที่แน่นอนแล้วปฏิบัติตามกฎที่เราวางไว้ดีกว่านะ แล้วจะรู้สึกได้ว่าร่างกายมันกำลังขอบคุณเราอยู่ล่ะ
ทบทวนดูดีๆ ว่าสิ่งที่ทำอยู่ เราคิดผิดรึเปล่า!