การเข้าห้องทุกวัน วันละหลายๆครั้ง นั่นหมายความว่าคนเราต้องเผชิญกับเชื้อโรคมากยิ่งขึ้น เพราะห้องน้ำเป็นแหล่งรวมของเชื้อโรค เชื้อแบคทีเรีย หรือเชื้อรา ทั้งจากการทำความสะอาดและการขับถ่ายของเสียออกจากร่างกาย และแม้จะคอยล้างห้องน้ำอย่างสม่ำเสมอก็ช่วยกำจัดเชื้อโรคไปได้เพียงชั่วคราว วันนี้เรามาเตือนถึงพฤติกรรมที่คุณไม่ควรทำ !!
1. นำโทรศัพท์เข้าห้องน้ำด้วย เนื่องจากความร้อนจากโทรศัพท์จะเป็นแหล่งเจริญเติบโตของเชื้อโรคหากลอยกระจายมาติด และเชื้อโรคจะติดอยู่บนโทรศัพท์ได้นาน 2-3 วัน
2. ไม่ล้างมือก่อนออกจากห้องน้ำ ไม่ว่าจะทำธุระหนักเบา การไม่ล้างมือทำความสะอาดให้เพียงพออย่างน้อย 20 วินาที เมื่อไปจับสิ่งของหรือสัมผัสกับร่างกายส่วนอื่นอาจมีเชื้อโรคติดไปด้วย
3. เวลากดชักโครกแล้วไม่ปิดฝา จะทำให้เชื้อโรคสามารถแพร่กระจายไปได้สูงและไกลถึง 6 ฟุต เมื่อฝาชักโครกเปิดอยู่จึงทำให้เชื้อโรคลอยเข้าสู่ร่างกายทางลมหายใจได้
4. เก็บแปรงสีฟันไว้ในห้องน้ำ เพราะห้องน้ำเป็นที่รวมของเชื้อโรคซึ่งอาจจะกระจายมาติดแปรงสีฟันได้ หรือไม่อย่างน้อยก็อย่าวางแปรงสีฟันไว้ใกล้ชักโครก และปิดฝาชักโครกด้วยก็ดี
5. ไม่ค่อยเปลี่ยนใยบวบอาบน้ำ ทราบหรือไม่ว่าหลังจากใช้งานหากล้างทำความสะอาดใยบวบไม่ดีพอ จะเป็นแหล่งแพร่กระจายของเชื้อโรคได้ พอนำมาใช้ซ้ำก็เท่ากับเราได้สัมผัสกับเชื้อโรคโดยตรง
6. แขวนผ้าซ้อนทับกัน ผ้าเช็ดตัว ผ้าเช็ดหน้า หรือผ้าเช็ดมือ เมื่อใช้แล้วย่อมมีความชื้นจากน้ำ หากนำไปแขวนหรือวางทับกันหลายๆ ผืน จะเป็นแหล่งกำเนิดของเชื้อโรคอย่างดีโดยเฉพาะเชื้อรา
7. ใช้ผ้าขนหนูผืนเดิม บางคนใช้ผ้าขนหนูเช็ดซ้ำไปซ้ำมาเป็นสัปดาห์โดยไม่เปลี่ยนเลย และแน่นอนว่าต้องเป็นที่โปรดปรานของบรรดาเชื้อโรค
8. ปล่อยให้ม่านอาบน้ำสกปรก ก็จะเป็นแหล่งบ่มเพาะและสะสมของเหล่าเชื้อโรคได้แบบที่เราคาดไม่ถึงเชียว และจะแพร่เชื้อโรคมาสู่เราในยามเข้าไปใช้ห้องน้ำ
9. เครื่องสำอางก็อยู่ในห้องน้ำ จากเหตุผลที่ผ่านมาของหลายๆ ข้อ การวางเครื่องสำอางสำหรับแต่งหน้าเอาไว้ในห้องน้ำจึงมีโอกาสที่เชื้อโรคจะแพร่กระจายมาติดกับเครื่องสำอาง
10. ไม่ใส่รองเท้าเดิน ใช่ว่าบนพื้นห้องน้ำจะรอดปลอดภัยจากเชื้อโรค หากไม่แน่ใจว่าพื้นห้องน้ำสะอาดมากพอก็ควรมีรองเท้าไว้ใส่เดินในห้องน้ำสักคู่