แนะนำสมาร์ตวอตช์ 5 รุ่น จาก 5 แบรนด์ดัง ใส่เล่นกีฬาก็ได้ ใส่ในชีวิตประจำวันก็ดี มีสมาร์ตวอตช์ 2019 รุ่นไหนน่าซื้อบ้างมาดูกัน
ปัจจุบันนอกจากมือถือแล้ว สมาร์ตวอตช์ก็เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่มีบทบาทในวงการไอทีมากขึ้น และเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยจุดเด่นที่สามารถใช้ทำสิ่งต่าง ๆ ได้สะดวกมากกว่ามือถือ โดยเฉพาะฟีเจอร์ด้านสุขภาพและฟิตเนสที่ทำให้หลายคนเลือกซื้อสมาร์ตวอตช์มาใช้ วันนี้เราก็เลยมีสมาร์ตวอตช์จากแบรนด์ต่างๆ ที่น่าซื้อน่าใช้ในปี 2019 มาแนะนำถึง 5 รุ่นด้วยกัน
1. Apple Watch Series 5
Apple Watch Series 5 มาพร้อมกับจอภาพ Retina แบบ Always-on ดูเวลาและข้อมูลสำคัญได้โดยไม่ต้องยกข้อมือขึ้นมาหรือแตะหน้าจอ อีกทั้งยังมีเข็มทิศในตัวไปจนถึงการวัดระดับความสูงที่จะช่วยให้การนำทางทำได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ก็ยังมีฟีเจอร์โทร. หาบริการฉุกเฉินได้โดยตรงในกว่า 150 ประเทศทั่วโลก มีตัวเลือกวัสดุทั้งอะลูมิเนียม สเตนเลสสตีล เซรามิก และไทเทเนียม เมื่อนำมารวมกับ watchOS 6 แล้วก็จะสามารถควบคุมสุขภาพและการออกกำลังกายได้อย่างเต็มที่ด้วยฟีเจอร์ใหม่ๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการแจ้งเตือนเมื่อเสียงรอบข้างดังเกินไป การติดตามรอบเดือน หรือฟีเจอร์ด้านฟิตเนสและสุขภาพต่างๆ
ราคารุ่น GPS เริ่มต้น 13,400 บาท และรุ่น GPS + Cellular ราคาเริ่มต้น 16,900 บาท
2. Samsung Galaxy Watch Active
Galaxy Watch Active เป็นสมาร์ตวอตช์แฟชั่นดีไซน์ทันสมัย เหมาะสำหรับคนที่สนใจด้านสุขภาพ ดีไซน์ตัวเรือนเป็นสไตล์สปอร์ต บางและเบา สวมใส่สบาย เหมาะกับทุกไลฟ์สไตล์ สามารถเลือกเปลี่ยนรูปแบบหน้าปัดและสายได้หลากหลาย สำหรับฟีเจอร์เด่นๆ ก็มีฟีเจอร์ตรวจวัดความดันโลหิต, ตรวจจับความเครียด รวมทั้งฟีเจอร์ด้านฟิตเนสที่รองรับรูปแบบการออกกำลังกายมากกว่า 37 แบบ รองรับการใช้งานร่วมกับทั้ง Android และ iOS สามารถสั่งการด้วยเสียงผ่าน Bixby ได้
ราคา 7,490 บาท
3. Huawei Watch GT
Huawei Watch GT สมาร์ตวอตช์ดีไซน์ทันสมัยและแข็งแรงทนทาน ด้วยขอบตัวเรือนแบบเซรามิกและบอดี้สเตนเลส พร้อมปุ่มเม็ดมะยม 2 อัน และหน้าจอสัมผัส AMOLED ขนาด 1.39 นิ้ว ความละเอียด 454 x 454 พิกเซล มีแบตเตอรี่ที่แสนอึด ชาร์จครั้งเดียวใช้ได้นานถึง 2 สัปดาห์ สำหรับการใช้งานทั่วไป และใช้ได้นาน 22 ชั่วโมง ถ้าเปิด GPS มีเทคโนโลยีตรวจวัดหัวใจ TruSeen 3.0 ตรวจจับการเต้นของหัวใจได้แม่นยำมากขึ้นด้วยอัลกอริทึมแบบ Self-learning และเซ็นเซอร์นวัตกรรมใหม่ อีกทั้งยังรองรับ GPS, GLONASS และ GALILEO ระบุพิกัดได้รวดเร็วและแม่นยำมากขึ้น พร้อมทั้งฟีเจอร์ TruSleep 2.0 สำหรับตรวจจับการนอนหลับพร้อมแนะนำวิธีการแก้ปัญหาการนอนหลับให้ดีขึ้นได้ถึง 200 รูปแบบ นอกเหนือจากนี้ก็มีฟีเจอร์ด้านฟิตเนสทั่วไป
ราคา 4,990 บาท
4. AMAZFIT GTR
AMAZFIT GTR Smart Watch สมาร์ตวอตช์หน้าจอ OLED ขนาด 1.39 นิ้ว ความละเอียด 454 x 454 พิกเซล เปลี่ยนหน้าปัดได้มากกว่า 100 แบบ มีโหมดออกกำลังกายทั้งในร่มและกลางแจ้ง 12 โหมด ใช้ควบคุมเพลงได้ แสดงผลการแจ้งเตือนได้ มีฟีเจอร์วัดก้าวเดิน แคลอรีที่เผาผลาญ การนอน กันน้ำได้ลึก 50 เมตร ใส่ว่ายน้ำได้ แบตเตอรี่ 410mAh ใช้งานได้ถึง 24 วัน ในการใช้งานปกติ และใช้นานได้สูงสุดถึง 74 วัน สำหรับการใช้งานเป็นนาฬิกาธรรมดา มีเซ็นเซอร์ 3-Axial Geomagnetic, 6-Axis Accelerometer, Capacitive, Ambient Light Brightness และ Air Pressure มีการแจ้งเตือนต่างๆ ผ่านหน้าจอแสดงผลด้วย ไม่ว่าจะเป็นการแจ้งเตือนเกี่ยวกับสิ่งที่ต้องทำ การแจ้งเตือนข้อความ สายเรียกเข้า หรือแม้กระทั่งสภาพอากาศก็มีการแจ้งเตือน
ราคา 4,999 บาท
5. Fitbit Versa 2
Fitbit Versa 2 สมาร์ตวอตช์สายฟิตเนส นาฬิกาวิ่งรุ่นใหม่ที่มีหน้าจอเป็น OLED พร้อมทั้งมี Alexa และ Spotify ในตัว บวกกับชิปประมวลผลที่แรงขึ้นและแบตเตอรี่ที่อึดขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้า มีบอดี้เป็นอะลูมิเนียม มี NFC ในตัว ใช้การแตะเพื่อชำระค่าสินค้าต่างๆ ผ่านระบบ Fitbit Pay ได้ รวมทั้งมีฟีเจอร์ตรวจจับหัวใจแบบ 7 วัน ต่อ 24 ชั่วโมง กันน้ำได้ลึก 50 เมตร ใส่ว่ายน้ำได้ นอกจากนี้ก็ยังมีฟีเจอร์อย่าง Always-On Display อีกด้วย ส่วนฟีเจอร์อื่นๆ ก็เป็นฟีเจอร์ด้านฟิตเนสทั่วไป แบตเตอรี่ใช้ได้นานถึง 5 วัน ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ด้านข้างตัวเรือนจะมีปุ่มให้เพียงปุ่มเดียวซึ่งสามารถตั้งโปรแกรมปุ่มตามต้องการได้ แต่ไม่มี GPS ผู้ใช้จึงต้องเชื่อมต่อกับมือถือหากต้องการใช้ติดตามการวิ่ง
ราคา 7,990 บาท สำหรับรุ่นปกติ และราคา 8,990 บาท สำหรับ Versa 2 Special Edition ที่มาพร้อมสายแบบถัก