อย่ามัวทุกข์ จนลืมสุขในปัจจุบัน
คนอื่นทำให้เราเจ็บหรือเป็นทุกข์ได้เพียงครั้งเดียว แต่เป็นตัวเราที่ชอบทำร้ายตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่าด้วยการหวนกลับไปคิดเรื่องเดิมๆ ที่ผ่านมาแล้วในอดีต
พระไพศาล วิสาโล ได้พูดถึงการอยู่กับปัจจุบันเอาไว้ว่า คำว่า อยู่กับปัจจุบัน มีความหมายหลายแง่มุม อย่างที่พวกเราสวดมนต์คือการไม่ไปหมกมุ่นกับอดีตหรือความทรงจำที่ผ่านไปแล้ว และไม่ไปกังวลกับอนาคตที่ยังมาไม่ถึง อีกแง่หนึ่งคือการยอมรับสภาพความเป็นจริง ปัจจุบันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว ไม่ว่าเราจะชอบหรือไม่ชอบก็ปฏิเสธไม่ได้ ถ้าเราไม่ชอบเราก็จะทุกข์ใจ อย่ามัวทุกข์ จนลืมความสุขในปัจจุบัน
นอกเหนือจากความทุกข์ที่เกิดขึ้นกับร่างกายหรือความพลัดพรากที่เกิดขึ้นกับสิ่งของหรือคนรัก เรียกว่าทุกข์ 2 ต่อ การยอมรับปัจจุบันทำให้ความทุกข์ลดลงเหลือแต่สิ่งที่เกิดขึ้นนอกตัวเรา แต่ว่าไม่กระทบกระเทือนไปถึงใจ ตั้งหน้าตั้งตาจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้น ตั้งหน้าตั้งตาเดินหน้าต่อไปดีกว่า
เป็นการยอมรับความเป็นจริงไม่ว่าจะเจ็บป่วย เป็นหนี้สิน ของหาย พลัดพรากจากคนรัก อกหัก ตกงาน ต้องเริ่มที่ยอมรับปัญหาเหล่านี้ให้ได้ก่อนแล้วค่อยเดินหน้าต่อไป “อยู่กับปัจจุบัน” ยังหมายถึงการที่เราเห็นความจริงตามที่เป็น ซึ่งมีความหมายกว้างมาก แต่ถ้าจะพูดอย่างเจาะจงก็คือเวลาเรามีความทุกข์ก็ให้มองความทุกข์ตามที่มันเป็น ถ้ามองไม่เป็นเราก็จะเป็นทุกข์
“ฉันเป็นทุกข์” กับ “ฉันมีทุกข์” ไม่เหมือนกัน ฉันมีทุกข์ หมายความว่าทุกข์เป็นแค่ส่วนหนึ่งในอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่ฉันมี แต่ถ้าฉันเป็นทุกข์คือความทุกข์เป็นทั้งหมดของฉันซึ่งแตกต่างกันอยู่มาก
คนที่บอกว่าฉันเป็นคนล้มละลายแสดงว่าฉันไม่เป็นอย่างอื่นแล้ว ทั้งๆ ที่ฉันยังเป็นอย่างอื่นได้อีกหลายอย่าง ฉันเป็นพ่อ เป็นแม่ เป็นคนขยันหมั่นเพียร เป็นคนมีความสามารถ เป็นอะไรได้ตั้งหลายอย่าง แต่พอบอกว่าฉันเป็นคนล้มละลาย ความเป็นคนล้มละลายก็กลายเป็นสิ่งที่มาครองจิตครองใจฉัน ฉันไม่เป็นอะไรอีกแล้ว แต่ถ้าพูดว่าฉันมีปัญหาล้มละลาย อันนี้ถูกเพราะถึงฉันจะมีปัญหาล้มละลายแต่ฉันก็ยังมีอีกหลายๆ อย่างที่ดีในชีวิต
ต้องแยกให้ออกระหว่างฉันมีทุกข์กับฉันเป็นทุกข์ นี้คือการมองความเป็นจริง หรือมองปัจจุบันตามความเป็นจริง อย่าปล่อยให้ทุกข์ครอบครองจิตใจ จนกระทั่งเราละเลยหรือมองไม่เห็นสิ่งอื่นๆ ที่เรามีหรือเราเป็นอยู่ ถ้ามองว่าความทุกข์ที่เกิดขึ้นนั้นเป็นแค่ส่วนหนึ่งในชีวิตเรา ก็จะเป็นการเปิดหูเปิดตาให้เราเห็นสิ่งอื่นๆ ที่เรามี เมื่อเห็นอย่างนี้แล้วก็จะทำให้เราไม่มัวไปก่นด่าชะตากรรม และมีพลังใจในการที่จะดำเนินชีวิตได้ ถ้าเราเห็นอย่างนี้จะทำให้เราสามารถที่จะเห็นคุณค่าในสิ่งที่เรามี
อย่ามัวจมอยู่กับความทุกข์จนละเลยความสุขของปัจจุบัน
มาดู 5 วิธีดับทุกข์
1. เบี่ยงเบนความทุกข์ด้วยกิจกรรมสนุกๆ เพื่อกันตัวเองออกจากสิ่งที่ทำให้รู้สึกเป็นทุกข์ เช่น ทำงานศิลปะ ปลูกต้นไม้ ทำงานอาสาสมัคร เป็นต้น
2. ปรับเปลี่ยนสิ่งแวดล้อม จัดห้องใหม่ จัดมุมโต๊ะทำงานใหม่ เคลียร์ความรก ความวุ่นวายในชีวิต ซึ่งนับว่าเป็นการใช้ทั้งเวลาว่างให้เป็นประโยชน์ และช่วยเบี่ยงเบนตัวเองไม่ให้จมอยู่กับความทุกข์ด้วย
3. นั่งสมาธิ สงบจิตใจที่ฟุ้งซ่าน ดึงสติกลับมาคิดทบทวนต้นเหตุแห่งความทุกข์ แล้วเราอาจจะรู้วิธีจัดการความทุกข์นั้นๆ ด้วยสติปัญญาที่มีได้
4. กอด นวด หรือได้รับสัมผัสจากใครสักคน โดยนักวิทยาศาสตร์บอกว่า การเยียวยาความทุกข์ด้วยสัมผัสจากใครสักคน ไม่ว่าจะด้วยการกอด จับมือ ลูบไล้ด้วยอาการปลอบประโลม สิ่งเหล่า
นี้จะช่วยให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนออกซิโตซิน ฮอร์โมนแห่งความสุข และยังช่วยลดฮอร์โมนแห่งความเครียดอย่างเจ้าฮอร์โมนคอร์ติซอลได้ด้วย
5. ออกกำลังกาย ขยับร่างกายเรียกเหงื่อและเรียกฮอร์โมนเอ็นดอร์ฟิน ฮอร์โมนแห่งความสุขออกมาปลอบประโลมหัวใจสักหน่อย แล้วเราก็จะรับมือกับความทุกข์ได้