กาแฟที่ไร้ครีมเทียมก็เหมือนกาแฟที่ขาดความกลมกล่อม ดื่มไปก็สุดขม ดื่มไปก็บาดคอ ยิ่งตอนนี้ไม่ใช่แค่กาแฟเท่านั้นที่เป็นคู่หูคู่บุญของครีมเทียม เพราะในโกโก้ ในชา และเครื่องดื่มตระกูลนมทั้งหลายตอนนี้ก็ใส่ครีมเทียมทั้งนั้น Gangbeauty บอกเลยว่าอร่อยเหาะ ถูกใจทุกรุ่นทุกวัย แต่ประกอบความอันตรายแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว!
pixabay.com
คนส่วนใหญ่มักจะเข้าใจกันไปว่าครีมเทียมนั้น มีส่วนผสมหลักเป็นน้ำนม เพราะดูเป็นผงสีขาว หอม หวาน และมันเหมือนกัน แต่ทว่ามันไม่ใช่แบบนั้น เพราะความเป็นจริงแล้วไม่มีนมผสมอยู่เลยสักนิด 100% เป็นสารปรุงแต่งล้วนๆ ซึ่งนอกจากจะปรุงแต่งกาแฟให้รสชาติดีได้แล้ว ยังเหมือนจะปรุงแต่งความคิดของเราไปแล้วเรียบร้อยด้วย โดยส่วนผสมจริงๆ นั้นมีอยู่ 8 อย่าง ดังนี้
www.pexels.com
1. เจลาติน สิ่งนี้เป็นสารปรุงแต่งอาหารที่สกัดจากกระดูกอ่อน เส้นเอ็น และหนังของสัตว์
2. ช็อทเทนนิ่ง หรือไขมันทรานส์ที่ทุกคนอาจจะเคยได้ยินกันมาช้านาน เป็นไขมันที่มักใช้ในการทอดอาหาร ซึ่งในนิตยสารเพื่อสุขภาพหลายต่อหลายสิบเล่มก็เคยได้เขียนกันไปหมดแล้วว่าเจ้าไขมันตัวนี้มีอันตรายมากแค่ไหน
3. อิมัลซิไฟเออร์ เป็นสารเคมีสังเคราะห์ 100% ถูกคิดค้นขึ้นเพื่อทำให้น้ำมันกับน้ำผสมกันได้ แถมยังเป็นสารเคมีอันตรายที่ถูกนำมาใช้กำจัดคราบน้ำมันตอนเรือบรรทุกน้ำมันรั่วลงชายฝั่งทะเลในเกาหลีด้วย ซึ่งครั้งหนึ่งก็เคยมีคนทดลองเลี้ยงปลาในน้ำมันที่โรยสารอิมัลซิไฟเออร์เอาไว้ และผลร้ายแรงที่ได้คือปลาตายทั้งหมด
4. สีคาราเมล
5. ไซรัป/น้ำเชื่อม
6. กลิ่นวานิลลา
7. โซเดียมเคซีเนต สารตัวนี้ล่ะที่ทำให้เราคิดว่าครีมเทียมมีส่วนผสมของนม เพราะมันช่วยเลียนแบบกลิ่นและรสของนม
8. คาราจีแนน ป้องกันการตกตะกอน ทำให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันได้ดีที่สุด
maxpixel.freegreatpicture.com
โดยในขั้นตอนการผลิตก็คือนำส่วนผสมทั้งหมดมาปั่นรวมกันเท่านั้นเอง ซึ่งถึงแม้ว่าขั้นตอนจะง่าย แต่มันไม่ง่ายกับชีวิตของผู้บริโภคอย่างเราเลยสักนิด คุณหมอหลายท่านมักจะกล่าวว่าสารอิมัลซิไฟเออร์นั้น ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายของเราแบบครั้งเดียวจอด แต่สามารถสะสมไปเรื่อยๆ ได้ แถมยังเข้าไปดักรอ เร่งการดูดซึมสารเคมีต่างๆ ที่กำลังจะตามเข้ามาในมื้อต่อไปอีก เช่น ทุกเช้าเราจะดื่มกาแฟผสมครีมเทียม แปลว่าถ้าช่วงสายดื่มเครื่องดื่มผสมครีมเทียม หรือผสมสารเคมีอื่นเข้าไป จากที่สารเคมีจะต้องโดนกำจัดด้วยระบบการทำงานของร่างกาย อิมัลซิไฟเออร์จะทำการเร่งให้ร่างกายดูดซึมสารเคมีเหล่านั้นเข้าไปแทน ภายในร่างกายของเราก็จะมีสารเคมีอยู่แบบทบเท่าทวีคูณเลยล่ะ
ดื่มได้ ทานได้ แต่ต้องไม่บ่อย ตกลงมั้ยสาวๆ!
