เรียกได้ว่าเป็นเรื่องใกล้ตัวเราสุดๆ ยิ่งสำหรับหนุ่มๆสาวๆที่ทำงานในออฟฟิศแล้ว ยิ่งมีโอกาสเป็นมาขึ้นอีก ตาม GangBeauty ไปดูกันว่าเจ้า “โรคนั่งนานเกินไป”คือโรคอะไร….
“โรคนั่งนานเกินไป” คือการนั่งอยู่กับที่เป็นเวลานานโดยไม่ได้ออกไปไหน หรือนั่งติดต่อกันนานเกิน 12 ชั่วโมงต่อวัน ทำให้ร่างกายของเรามีโอกาสเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาด้านสุขภาพหลายประการ และทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการพิการมากถึง 50%
ที่นี้เราเราไปดูกันว่าโรคอะไรบ้างที่แฝงมากับการนั่งทำงานนานๆของคุณ
1. ปัญหาด้านการไหลเวียนของเลือด
:การนั่งนานๆ นั้นจะทำให้เลือดไม่สามารถไหลเวียนออกจากขาขึ้นมาสู่หัวใจได้ ทำให้เส้นเลือดดำในขาและเท้ามีความดันโลหิตสูงตลอดเวลา และเมื่อผนังของเส้นเลือดดำได้รับแรงดันสูงตลอดเวลา โปรตีนและของเหลวบางชนิดอาจรั่วไหลไปยังเนื้อเยื่อจนส่งผลให้เกิดการติดเชื้อได้ นอกจากนี้จากการไหลเวียนของเลือดที่ขาลดลง ยังสามารถเพิ่มความเสี่ยงต่อการอุดตันของเส้นเลือดได้อีกด้วย เช่น โรคหลอดเลือดดำอุดตัน (DVT) เป็นต้น
2. น้ำตาลในเลือดสูง
:การนั่งนานเกินไปโดยไม่มีการเคลื่อนไหวร่างกายเป็นเวลานาน อาจทำให้เราเกิดการต่อต้านอินซูลินได้ และนำเราไปสู่โรคเบาหวานชนิดที่ 2 อย่างไรก็ตาม การเคลื่อนไหวเล็กๆ น้อยๆ จะสามารถช่วยเพิ่มระดับการทำงานของอินซูลินที่กระทำต่อกลูโคส และช่วยระบบกล้ามเนื้อได้
3. ท้องผูก
:การที่เราไม่เคลื่อนไหวเป็นเวลานานนั้นจะทำให้เราเกิดอาการท้องผูกได้ เพราะเมื่อเรานั่งนานๆ จะส่งผลให้การบีบหดตัวของลำไส้ลดลง เป็นผลให้อุจจาระแห้งแข็งและถ่ายออกได้ยาก และอาการนี้จะเกิดขึ้นภายใน 24 ชั่วโมงหากมีการนั่งอยู่กับที่นานๆ อย่างไรก็ตาม เราสามารถลดความเสี่ยงได้ด้วยการออกกำลังกายเบาๆ สัก 10 นาทีต่อวัน
4. หัวเข่าเสื่อม
:การนั่งนานเกินไปนั้นยังมีส่วนเชื่อมโยงสู่อาการหัวเข่าเสื่อมเช่นกัน เพราะการไม่ได้เคลื่อนที่เป็นเวลานานนั้นได้นำไปสู่โรคอ้วน และมวลของร่างกายที่เพิ่มขึ้นก็ส่งผลให้เกิดความดันที่ข้อต่อมากขึ้น นอกจากนี้การไม่ได้ใช้งานกล้ามเนื้อเป็นระยะเวลานานยังอาจนำไปสู่ภาวะกล้ามเนื้ออ่อนแรงอีกด้วย
5. ปวดศีรษะ
:การที่เรานั่งทำงานอยู่ที่โต๊ะทำงานเป็นเวลานาน จะทำให้ศีรษะ คอ หลัง และไหล่ของเราเกิดการงอตัวเป็นรูปตัว C ซึ่งจะทำให้เราเกิดอาการปวดศีรษะได้ นอกจากนี้ การงอตัวนี้ยังส่งผลกระทบต่อไหล ทำให้มีอาการปวดไหล่ ไหล่แข็ง หรือเคลื่อนไหวได้น้อยลงอีกด้วย
6. มะเร็งลำไส้ใหญ่
:คนที่ทำงานประจำเป็นเวลานานกว่า 10 ปี มีโอกาสที่จะเกิดเนื้องอกที่ลำไส้ใหญ่ส่วนปลายมากกว่าถึง 2 เท่า และ 44% ของผู้ป่วยก็มีโอกาสพัฒนากลายมาเป็นมะเร็งได้