เคยสงสัยกันหรือไม่ว่า เพราะเหตุใด คนที่ดื่มกาแฟเป็นประจำ เมื่อเลิกดื่มแบบหักดิบ หรือเลิกดื่มกะทันหัน จะมีอาการปวดศีรษะ สมองตื้อตามมาด้วยทุกครั้ง หากคุณเคยมีอาการแบบนี้ ไม่ต้องสงสัยกันอีกต่อไป เพราะวันนี้เรามีคำตอบมาบอกกันแล้วว่าเพราะเหตุใดการเลิกดื่มกาแฟแบบหักดิบ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้คุณมีอาการปวดศีรษะตามมา ตามไปดูสาเหตุพร้อมๆ กันเลยค่ะ
คาเฟอีน สารกระตุ้นสมองที่ร่างกายเสพติด
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า สารคาเฟอีนที่อยู่ในกาแฟนั้น มีฤทธิ์กระตุ้นระบบประสาท ทำให้เมื่อดื่มแล้วจะทำให้สมองแจ่มใส สดชื่น สามารถคลายความง่วงหงาวหาวนอนไปได้ หากดื่มต่อเนื่องกันก็จะทำให้เกิดการเสพติดคาเฟอีน ดังนั้นผู้ที่หยุดดื่มไปซะดื้อๆ หลังจากดื่มติดต่อกันมานานก็จะเกิดผลกระทบอย่างเห็นได้ชัด หนึ่งในอาการนั้นก็คือ ปวดศีรษะ สมองไม่เฟรชเหมือนที่เคย
อาการปวดศีรษะหลังจากเลิกดื่มกาแฟ เกิดจากอะไร?
อาการปวดศีรษะจากการหยุดดื่มกาแฟนั้น มีความรุนแรงหลายระดับ แตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล มีทั้งอาการปวดศีรษะแบบบีบๆ ตุ๊บๆ ไปจนถึงปวดแบบรุนแรง ดำเนินชีวิตได้อย่างยากลำบาก บางรายมีอาการอ่อนเพลีย ไม่มีแรง มือและเท้าเกิดอาการชา ง่วงซึมเซา หาวนอน สับสน มึนงง ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ขาดสมาธิ คลื่นไส้ อาเจียน ฉุนเฉียวง่าย หงุดหงิดง่ายร่วมด้วย
สาเหตุที่อาการเหล่านี้เกิดขึ้นมากหรือน้อยแตกต่างกันในแต่ละบุคคลนั้น โดยมาจากการปริมาณสารคาเฟอีนที่รับเข้าสู่ร่างกายในช่วงที่ยังดื่มกาแฟ หากคุณเป็นคนที่ดื่มกาแฟเข้มๆ เน้นคาเอฟอีนหนักๆ เมื่อเลิกดื่มแบบหักดิบ ร่างกายก็จะมีผลกระทบมากกว่าผู้ที่ดื่มกาแฟที่มีคาเฟอีนนปริมาณน้อยๆ ทำให้เกิดอาการปวดศีรษะรุนแรง มึนงง สับสน มือและเท้าอ่อนแรง แตกต่างจากผู้ที่ดื่มกาแฟใหม่ๆ ไม่เน้นปริมาณคาเฟอีน กลุ่มคนเหล่านี้จะมีผลกระทบเพียงแค่ปวดศีรษะเป็นครั้งคราว ซึ่งหายดีในช่วงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากมีอาการ
วิธิเลิกดื่มกาแฟอย่างเหมาะสม ต้องทำอย่างไร?
การเลิกดื่มกาแฟแบบหักดิบ จะทำให้ร่างกายได้รับผลกระทบตามที่กล่าวมาข้างต้นได้ ดังนั้นเพื่อให้คุณสามารถปรับตัวได้ดี และไม่กระทบต่อการดำเนินชีวิต ควรค่อยๆ ลดปริมาณกาแฟที่ดื่มในแต่ละวันลง แทนที่การหักดิบเลิกดื่มแบบทันที จะเป็นผลดีต่อสุขภาพของคุณในระยะยาวมากกว่า
ใครที่เป็นคอกาแฟ และผ่านการเลิกดื่มแบบหักดิบมาแล้ว ลองเปลี่ยนวิธีมาเลิกดื่มแบบนิ่มนวลมากขึ้นด้วยการค่อยๆ ลดปริมาณลงในแต่ละวัน จากวันละ 2-3 แก้ว ก็ลดลงมาวันละหนึ่งแก้ว และค่อยๆ ลดลงจนเลิกได้ในที่สุด วิธีนี้จะช่วยทำให้คุณสามารถเลิกกาแฟได้อย่างปลอดภัยต่อสุขภาพร่างกายมากที่สุด