เนื่องจากสมาร์ทโฟนหรือโทรศัพท์มือถือได้กลายมาเป็นเสมือนอวัยวะที่ 33 สำหรับมนุษย์ มันจึงมักมีปัญหาเกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง และสิ่งที่มักจะเกิดขึ้นบ่อยรองจากการทำตกลงพื้น คือโชคร้ายที่ตกลงไปในน้ำนี่ล่ะ Gangbeauty แนะนำให้เรียนรู้เอาไว้เลย วันไหนตกน้ำก็แค่งัดความรู้จากบทความนี้ออกมาใช้ให้เร็วที่สุดเท่านั้นเอง!
pixabay.com
1. สิ่งแรกที่ต้องทำคือการดูดความชื้นออกจากตัวเครื่องให้หมดไป ซึ่งถ้าโชคเข้าข้าง เราทำตกแค่ในบ้าน ให้รีบวิ่งเข้าครัวและนำสมาร์ทโฟนของเราฝังเอาไว้ในข้าวสาร หรือถ้าโชคร้ายหนักมาก เกิดไปทำตกนอกบ้าน ให้รีบแวะซื้อถุงซิปล็อกและซิลิกาเจล (เม็ดดูดความชื้นที่เห็นบ่อยในซองขนม) จากร้านสะดวกซื้อมาทำการดูดความชื้นจากตัวเครื่อง ทั้งสองวิธีให้ปล่อยทิ้งไว้ 2 วัน จึงค่อยนำออกมาลองเปิดเครื่องใหม่
www.flickr.com
2. สิ่งใดที่สามารถถอดออกมาได้ ให้ถอดออกมาก่อน อาทิเช่น แบตเตอรี เมมโมรีการ์ด นำออกมาผึ่งให้แห้ง
pixabay.com
3. แนะนำให้ซื้อเครื่องดูดฝุ่นมือถือที่มีหัวขนาดเล็กมาเก็บไว้ เพราะในกรณีฉุกเฉิน เราสามารถนำมันออกมาดูดน้ำออกจากช่องต่างๆ ที่คาดว่าน้ำน่าจะเข้าไปได้ เช่น ช่องลำโพง ช่องหูฟัง ช่องชาร์จแบตเตอรี
pixabay.com
เมื่อลองทำทุกขั้นตอนข้างต้นแล้ว ให้รอไปอีกสัก 2-3 วันเพื่อให้เครื่องแห้งสนิทจริงๆ แล้วจึงลองเปิดเครื่องใหม่อีกครั้ง ข้อห้ามสำคัญที่ไม่ควรทำเลยเวลาสมาร์ทโฟนตกน้ำ คืออย่าใช้ไดร์เป่าผมมาเป่า เพราะความร้อนจากไดร์อาจทำให้วงจรภายในละลาย, อย่าพยายามเปิดเครื่องทันทีเพื่อทดสอบว่าติดมั้ย เพราะอาจทำให้เกิดการช็อตของวงจร และสุดท้ายคืออย่าพยายามสะบัดมือถือเพื่อหวังให้น้ำออกมา เพราะจะยิ่งทำให้น้ำกระจายตัวออกมากกว่าเดิม เพิ่มพื้นที่เปียกให้กว้างกว่าเดิม ควรตั้งสติและแก้ไขไปทีละอย่างนะจ๊ะ
ท่องไว้ให้ขึ้นใจ ถึงเวลาจริงจะได้ไม่ต้องบอกลาเครื่องเก่า!