เป็นปัญหาหนักและเป็นปัญหาเรื้อรังมากๆสำหรับ “ฝุ่นPM2.5 ” ที่กำลังครอบคลุมทั่วประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นจังหวัดต่างๆ ทั้งในกรุงเทพและปริมณฑลที่ค่าฝุ่นสูงลิ่วติดเพดาน อะไรก็มาฉุดมันลงไม่ได้ และแน่นอนว่าส่งผลเสียต่อร่างกายของเราโดยตรง โดยเฉพาะคนที่แพ้ฝุ่น วันนี้ GangBeauty เลยมี สัญญาณเตือนและอาการแพ้ฝุ่นPM2.5 มาฝากค่ะ ทุกคนจะได้เอาไว้ใช้สังเกตอาการของตัวเองและคนรอบข้าง เพื่อที่จะได้รู้ทัน รักษาและป้องกันได้ทัน เพราะฝุ่นที่มีอนุภาคขนาดเล็กมากนี้นอกจากจะทำให้มีปัญหาต่อระบบทางเดินหายใจ ระบบหัวใจและหลอดเลือดแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อผิวหนังของเราอีกด้วยนะคะ ตามเราไปดูกันเลยค่ะ
ฝุ่นPM2.5
คือ ฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน เทียบได้ว่ามีขนาดประมาณ 1 ใน 25 ส่วนของเส้นผ่านศูนย์กลางเส้นผมมนุษย์ เล็กจนขนจมูกของมนุษย์ที่ทำหน้าที่กรองฝุ่นนั้นไม่สามารถกรองได้ จึงแพร่กระจายเข้าสู่ทางเดินหายใจ กระแสเลือด และเข้าสู่อวัยอื่นๆ ในร่างกายได้ ตัวฝุ่นเป็นพาหะนำสารอื่นเข้ามาด้วย เช่น แคดเมียม ปรอท โลหะหนัก และสารก่อมะเร็งอื่นๆ
ความร้ายแรงของฝุ่นPM2.5
องค์กรอนามัยโลกกำหนดให้ PM2.5 อยู่ในกลุ่มที่ 1 ของสารก่อมะเร็ง ตั้งแต่ปี 2556 เป็นสาเหตุ 1 ใน 8 ของประชากรโลกเสียชีวิตก่อนวัยอันควร เพิ่มความเสี่ยงโรคเรื้อรัง เช่น โรคหลอดเลือดในสมอง ,โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง ,โรคมะเร็งปอด ,โรคหัวใจขาดเลือด ,โรคติดเชื้อเฉียบพลัน ในระบบหายใจส่วนล่าง
สาเหตุที่ทำให้เกิดฝุ่นPM2.5
– แหล่งกำเนิดโดยตรง ได้แก่ การเผาในที่โล่ง การคมนาคมขนส่ง การผลิตไฟฟ้า อุตสาหกรรมการผลิต
– การรวมตัวของก๊าซอื่นๆ ในบรรยากาศ โดยเฉพาะซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (SO2) และออกไซด์ของไนโตรเจน (NOx) รวมทั้งสารพิษอื่นๆ ที่ล้วนเป็นอันตรายต่อร่างกายมนุษย์ เช่น สารปรอท (Hg), แคดเมียม (Cd), อาร์เซนิก (As) หรือโพลีไซคลิกอะโรมาติกไฮโดรคาร์บอน (PAHs)
อันตรายจากฝุ่นPM2.5 ต่อร่างกาย
ผลกระทบทางสุขภาพ
– เกิดอาการไอ จาม หรือภูมิแพ้
– ผู้ที่เป็นภูมิแพ้ฝุ่นอยู่แล้ว จะยิ่งถูกกระตุ้นให้เกิดอาการมากขึ้น
– เกิดโรคทางเดินหายใจเรื้อรัง
– เกิดโรคหลอดเลือดและหัวใจเรื้อรัง
– เกิดโรคปอดเรื้อรัง หรือมะเร็งปอด
สัญญาณเตือนที่เห็นได้ชัดเจนเวลาแพ้ฝุ่นPM2.5
1. อาการแพ้ฝุ่นที่มีผลกับผิวหนัง ถ้ารู้สึกคันตามร่างกาย บริเวณผิวหนังมีการอักเสบ เกิดเป็นตุ่มผื่น หรือนูนแดง บางครั้งคล้ายเป็นผื่นเล็กๆ กระจายบนผิวหนังบริเวณแก้ม ซอกคอ ข้อพับแขน ข้อเท้า หรือบริเวณที่เหงื่อออกง่าย ฉุกคิดไว้ก่อนเลยว่าคุณอาจ “แพ้ฝุ่น” ซึ่งผู้ที่แพ้รุนแรง อาการคันเป็นผื่นแดง ผิวหนังบวม นูน จะลามไปทั่วทั้งร่างกาย ลักษณะคล้ายเป็นโรคผิวหนัง และสำหรับฝุ่น Pm 2.5 ที่มีขนาดเล็กกว่าปกติก็ยิ่งสามารถทำให้เกิดอาการเหล่านี้ได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม
2. อาการแพ้ฝุ่นที่มีผลกับระบบทางเดินหายใจ การหายใจโดยไม่คิดป้องกันฝุ่นเลยในช่วงนี้ถือว่ามีความเสี่ยงต่อความผิดปกติของระบบทางเดินหายใจ เนื่องจากคุณอาจมีอาการแพ้ได้ โดยเบื้องต้นจะรู้สึกแสบ คัน แน่น ในโพรงจมูก แน่นหน้าอก ไอ จาม มีน้ำมูกแบบใสๆ มีอาการคล้ายคนเป็นโรคหอบหืด หายใจไม่ทั่วท้อง หายใจลำบาก การหมุนเวียนออกซิเจนภายในปอดแย่ลง ซึ่งโดยรวมจะดูคล้ายคนที่เป็นโรคภูมิแพ้ บางคนอาจมีอาการแพ้แบบเฉียบพลัน หรือการแพ้แบบรุนแรงอาจถึงขั้นต้องพ่นยาขยายหลอดลม หรือต้องฉีดยาแก้แพ้ ซึ่งการอาการเหล่านี้หากเป็นบ่อยขึ้นจะส่งผลให้เป็น “โรคภูมิแพ้ทางเดินหายใจ” อย่างถาวรได้
3. อาการแพ้ฝุ่นที่มีผลกับดวงตา ดวงตาถือเป็นส่วนสำคัญมากๆ หากโดนฝุ่น Pm 2.5 ก็จะเกิดอันตรายมาก อาการแพ้ที่เกิดในบริเวณรอบดวงตา นัยน์ตา และเปลือกตา มักมีอาการ ตาแดง เปลือกตาบวม มีน้ำตาไหล ใต้ตาช้ำ มีสีคล้ำขึ้น มีอาการคันบริเวณรอบดวงตา ซึ่งมีผลกระทบทำให้เยื่อบุนัยน์ตาอักเสบ อาจส่งผลให้เป็นโรคภูมิแพ้ขึ้นตา หากมีอาการติดต่อกันเป็นเวลานานก็จะทำให้ระบบภูมิคุ้มกันแย่ลง ซึ่งเป็นโรคที่พบในเด็ก วัยรุ่น หนุ่มสาว มากกว่าวัยอื่นๆ และพบว่าผู้ชายสามารถมีโอกาสเป็นมากกว่าผู้หญิงประมาณ 75% ซึ่งถ้าหากเป็นแล้วจะมีอาการของผื่นผิวหนังอักเสบ หรือหอบหืดร่วมอีกด้วย
วิธีลดความเสี่ยงอาการแพ้ผิวหนังจากฝุ่น
– ปกปิดร่างกายจากฝุ่นด้วยการสวมเสื้อแขนยาว กางเกงขายาว
– ไม่อยู่กลางแจ้ง โดยเฉพาะในที่ที่มีฝุ่นเยอะมากเกินไป
– สามารถใช้กระดาษทิชชู่แบบเปียก เช็ดเนื้อเช็ดตัว รวมถึงใบหน้าได้ หากพ้นจากสภาวะแวดล้อมด้านนอกอาคารแล้ว
– อาบน้ำทันทีที่ถึงบ้าน
– งดการออกจากบ้านหากมีอาการแพ้ฝุ่นอย่างหนัก
– ปิดหน้าต่าง ประตูให้มิดชิด
– ทำความสะอาดบ้านบ่อยๆ เพื่อลดการสะสมของฝุ่นภายในบ้าน
– หากมีอาการผิดปกติทางผิวหนังอย่างชัดเจน เช่น แสบผิวมาก ผิวแดง มีผื่นขึ้น ควรรีบพบแพทย์
เป็นยังไงบ้างคะกับข้อมูลแบบจัดเต็มเกี่ยวกับฝุ่นPM2.5 โดยเฉพาะอาการแพ้ฝุ่นPM2.5 ที่เรานำมาฝาก ช่วงนี้ต้องหมั่นดูแลและสังเกตตัวเองและคนรอบข้างไว้นะคะ เจ้าฝุ่นของทำร้ายร่างกายเราอยู่ตลอดเวลา ออกจากบ้านอย่าลืมใส่เสื้อผ้าที่รัดคุมและสวมหน้ากากอนามัยกันด้วยนะคะ
ขอบคุณข้อมูลจาก :
www.brighttv.co.th
www.sanook.com
www.thaihealth.or.th
www.daikin.co.th