เคยมีอยู่มุกนึง ป้าขายน้ำผึ้งแท้ แต่บอกว่าขายแพงเพราะน้ำตาลแพง จัดเป็นมุกเล่าเรื่องที่กระตุกต่อมขำได้ไม่น้อย แต่นั่นคือการยืนยันอีกหนึ่งเสียงว่าน้ำผึ้งที่มีขายตามท้องตลาด “ไม่แท้” ไปซะทุกเจ้า แล้วไอ้ราคาแพงๆของน้ำผึ้ง ที่ตัดสินใจซื้อมา เพื่อกินก็ดี เพื่อเอามาทำสวยก็ดี นี่มันแท้ หรือไม่แท้กันแน่ Gangbeauty มีคำตอบจากผู้เชี่ยวชาญมาฝาก ไปหาคำตอบกันเลยดีกว่า ไปเร็ววว
ผู้เชี่ยวชาญหลายท่าน บอกว่า น้ำผึ้งแท้และดี จะมีความสะอาด มีกลิ่นหอมของเกสรดอกไม้ตามที่ระบุไว้ข้างขวด มีความหนืด มีสีอ่อนใสตามธรรมชาติ และกลมกลืน ไม่แยกชั้น ซึ่งในน้ำผึ้งบางขวดที่ตกผลึก ก็จะต้องไม่เป็นผลึกขุ่นข้น สีเข้ม เพราะนั่นหมายความว่านำผึ้งขวดนั้นผสมน้ำตาลทรายล้านเปอร์เซ็นต์!
(ตัวอย่างของแท้ ที่ไม่เก็บแช่ตู้เย็น จะใสแจ๋วแหนววว)
แต่ถ้าเอาแค่เบื้องต้น ลองทดสอบดูง่ายๆเลยก็มี 3 วิธี
1. หยดน้ำผึ้งลงน้ำ ถ้าแท้ จะไม่กระจาย เป็นก้อนกลมๆ จมลงไปติดอยู่ก้นแก้ว
2. หยดน้ำผึ้งลงบนนิ้ว ใช้นิ้วนวดคลึงไปเรื่อยๆ ถ้าแห้งช้า หนืดติดมือนาน นั่นน่ะของแท้
3. จุดไฟเผาน้ำผึ้ง ถ้าแห้งแล้วดำ น้ำตาลชัวร์ล้านเปอร์เซ็นต์จ้า
แล้วถ้าน้ำผึ้งซื้อมาเก็บไว้นาน กลายเป็นสีเข้ม ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เพราะมันเป็นเรื่องปกติ ยังคุณค่าเท่าเดิม ดีเหมือนเดิม ไม่มีปัญหาในการนำมารับประทานหรือบำรุงผิวพรรณแน่นอน ถ้าแช่ตู้เย็น อาจจะมีการตกไขน้ำผึ้งจนดูน่ากลัวไปสักนิด แต่ก็ใช้ได้เหมือนเดิมจ้ะ
(อันนี้คือเอาไปแช่ตู้เย็น มันก็เลยขุ่นแบบนี้ เรื่องปกติจ้ะ)
สรุปคือถ้าไม่อยากโดนหลอกให้เสียตังค์เบอร์แรง แล้วได้น้ำผึ้งห่วยแตกกลับมา ก็พยายามสังเกตดูซิว่าในขวด สีของน้ำผึ้งเข้มจัดเลยมั้ย ถ้าใช่ก็อย่าเสี่ยงซื้อ เดินผ่านไปเลยให้ไวเลยจ้ะ หรือถ้าอยากให้มันชัวร์ ก็ซื้อจากแหล่งที่เชื่อถือได้ มีรายละเอียดเครื่องหมายการค้า วันผลิต วันหมดอายุชัดเจน โดยเฉพาะเครื่องหมายรับรองคุณภาพจากหน่วยงานราชการที่สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้!
เอาล่ะ จะไม่มีการกินน้ำตาล ที่คิดว่าเป็นน้ำผึ้งอีกต่อไป!