โรคกระเพาะ เรียกได้ว่ากลายเป็นโรคยอดนิยมของผู้คนในยุคนี้โดยเฉพาะอย่างยิ่งน้องๆ หนูๆ ที่เป็นนักเรียน นักศึกษา หรือแม้แต่ผู้คนที่อยู่ในวัยทำงาน บางครั้งก็ต้องรับผิดชอบหน้าที่ของตัวเอง ประกอบกับการใช้ชีวิตที่เร่งรีบในเมืองมากซะจนดูแลตัวเองได้ไม่ดีเท่าที่ควร อย่างเรื่องของอาหารการกิน บางครั้งก็มีงานที่ต้องทำล่วงเวลาจนลืมที่จะหาอะไรลงท้องเพื่อเพิ่มพลังให้กับร่างกาย หรือบางคนอาจมีเรื่องที่เก็บมาคิดจนทำให้เกิดเป็นความเครียด รู้รึเปล่าว่าสิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วมีผลต่อการเกิดโรคกระเพาะอาหารเป็นอย่างมาก หากเมื่อไหร่ที่โรคนี้แสดงอาการออกมา บอกเลยว่าทรมานแบบสุดๆ ซึ่งเมื่อเกิดขึ้นแล้วก็ต้องดูแลตัวเองกันต่อไปหลังจากไปพบแพทย์เพื่อรับยามาบรรเทาอาการ
เพิ่มเติมสำหรับใครที่มีข้อสงสัยอยู่ว่า ถ้าเกิดเป็น โรคกระเพาะ ขึ้นมาแล้ว มีอาหารประเภทใดบ้างที่ทานได้ หรือทานไม่ได้ เพื่อป้องกันความทวีคูณของโรคที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา วันนี้เราก็มีข้อมูลเหล่านี้มาฝากกันด้วยนะ จะได้เป็นประโยชน์ต่อน้องๆ และคนทำงานต่อไปได้
ป่วย โรคกระเพาะ ทานอาหารอะไรได้บ้าง?
อาหารที่ย่อยง่าย
แนะนำว่าคนที่เป็นโรคกระเพาะในระยะแรกที่ยังมีอาการของโรคหนักพอสมควร ให้หาอาหารที่ทำจากเนื้อสัตว์จำพวก ไก่ ปลา กุ้ง ที่ทานเข้าไปแล้วสามารถย่อยได้ง่ายกว่าเนื้อหมูและเนื้อวัว แต่ถึงจะเป็นเนื้อสัตว์ที่ย่อยง่ายอยู่แล้วก็ควรจะเคี้ยวละเอียดก่อนกลืน เพื่อช่วยกระเพาะอาหารอันแสนบอบบางของเราในตอนนี้ย่อยได้อย่างรวดเร็ว ทั้งยังช่วยให้ร่างกายไม่หลั่งน้ำย่อยมามาก กระเพาะอาหารก็จะไม่เกิดความระคายเคืองได้
กล้วย
ในเปลือกกล้วยและเนื้อกล้วยมีสารอยู่ตัวหนึ่งที่เรียกว่า เซโรโทนิน เป็นสารที่รับเข้าสู่ร่างกายแล้วจะไปช่วยยับยั้งการหลั่งน้ำย่อยในกระเพาะอาหารและช่วยกระตุ้นให้ลำไส้เล็กบีบตัวมากขึ้น เป็นการรักษาแผลในกระเพาะอาหารได้อีกทาง วิธีการบริโภคกล้วยก็ง่ายแสนง่าย เพียงนำกล้วยน้ำว้าดิบที่แก่จัดทั้งลูกแบบไม่ปอกเปลือกไปล้างน้ำให้สะอาด จากนั้นก็หั่นขวางเป็นชิ้นบางๆ คล้ายกับการหั่นแตงกวาในข้าวผัด เสร็จแล้วนำไปเกลี่ยใส่ถาด พยายามอย่าให้กล้วยทับซ้อนกันมาก นำไปตากแดดจัด 3 แดด เมื่อได้ที่แล้วก็นำมาตำให้ละเอียดขณะที่กล้วยยังกรอบ แล้วนำไปเทใส่เก็บในขวดปากกว้างที่มีฝาปิดสนิท ใช้ผสมกับน้ำประมาณค่อนแก้วดื่มหลังอาหารทุกมื้อ มื้อละ 2 ช้อนโต๊ะ อาการโรคกระเพาะจะค่อยๆ ดีขึ้นเรื่อยๆ
โยเกิร์ต
ถึงแม้ก่อนหน้านี้จะยังไม่ชัดเจนว่าคนที่ป่วยเป็นโรคกระเพาะสามารถทานโยเกิร์ตได้หรือไม่ แต่ก็มีคำยืนยันจากงานวิจัยระบุว่าสามารถที่จะทานโยเกิร์ตได้ เนื่องจากในโยเกิร์ตมีจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยลดแบคทีเรียที่มีชื่อว่า เฮลิโคแบคเตอร์ ไพโลไร (Helicobacter pylori (H. pylori) ซึ่งเป็นตัวการที่ทำให้เกิดแผลในกระเพาะอาหาร โดยแบคทีเรียตัวนี้จะออกฤทธิ์ทำให้ผนังกระเพาะอาหารอ่อนแอลง หรืออาจทำให้แผลที่หายแล้วกลับมาเป็นซ้ำได้อีก จึงสรุปได้ว่าการทานโยเกิร์ตจะช่วยลดแบคทีเรียซึ่งเป็นสาเหตุของแผลในกระเพาะอาหารได้ ส่งผลให้กระเพาะอาหารและการทำงานของลำไส้กลับมาเป็นปกติ
ส่วนใครที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติมอีกว่า ผลิตภัณฑ์จากนมประเภทอื่นๆ สามารถทานได้หรือไม่ คำตอบ คือ ได้ แต่ต้องบริโภคในปริมาณที่เหมาะสม กินโยเกิร์ตวันละ 1 ถ้วย ดื่มนมวันละ 1 แก้ว ก็น่าจะเพียงพอ และไม่ควรจะเพิ่มปริมาณของโยเกิร์ต หรือนมให้มากขึ้นไปกว่านี้ เนื่องจากในผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนมมีโปรตีนค่อนข้างสูง จะเข้าไปกระตุ้นให้ร่างกายหลั่งน้ำย่อยออกมาได้มากขึ้น จึงต้องบริโภคในสัดส่วนที่เหมาะสมถึงจะดี
นอกจากการเดินทางไปพบแพทย์แล้ว เรื่องอาหารการกินและการดูแลตัวเองก็เป็นเรื่องสำคัญ หลังจากนี้จะต้องรักษาวินัยในการทานอาหารให้ตรงตามเวลา ดื่มน้ำให้มาก ผักผลไม้ก็ต้องทานเพื่อประโยชน์ในการขับถ่ายและการทำงานของลำไส้ สิ่งที่ต้องระวัง คือ ไม่ควรไปซื้อยามาทานเอง โดยเฉพาะยาแก้ปวดจำพวก แอสไพริน เนื่องจากจะออกฤทธิ์กัดกระเพาะอาหารได้