ใครที่รู้ตัวว่ากำลังเป็นเจ้าหนี้ มีคนมาหยิบยืม หรือขอกู้เงินไปแล้ว แต่ยังไม่ได้ใช้คืนโปรดฟังทางนี้…ก่อนที่คุณอาจจะทำผิดกฎหมาย และต้องรับโทษโดยไม่รู้ตัว วันนี้ GangBeauty ได้ทำข้อมูลจากเฟซบุ๊คแฟนเพจ สายตรงกฎหมาย โดยทนายรัชพล ศิริสาคร มาบอกกันเกี่ยวกับความผิดที่อาจจะเกิดขึ้น หากคุณข่มขู่ทวงเงินจากลูกหนี้ กฎหมายระบุไว้ว่าอย่างไร ตามไปดูพร้อมๆกันได้เลยค่ะ
ทนายรัชพล ศิริสาคร ได้ให้ความรู้ด้านกฎหมาย เกี่ยวกับเรื่องการทวงหนี้ และความผิดที่อาจจะเกิดขึ้นได้ไว้อย่างชัดเจน ดังนี้
เนื่องจากตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการทวงหนี้ ค่อนข้างมีรายละเอียด ทำให้เจ้าหนี้ต้องศึกษากฎหมายดีๆ เพราะหากทวงมั่วๆ มีการข่มขู่ อาจติดคุกได้ ศาลเคยพิพากษาความผิด กรณีผู้เป็นเจ้าหนี้โทรไปข่มขู่ทวงเงิน ว่าถ้าไม่คืนจะเดือดร้อน ว่ามีความผิดฐานกรรโชกทรัพย์ มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 337 ประมวลกฎหมายอาญา
คำพิพากษาของศาลฎีกาที่ 1199/2553 ถ้อยคำที่จำเลยกล่าวกับผู้เสียหายว่า “หากผู้เสียหายไม่ยอมชำระหนี้ให้ ผู้เสียหายกับบุตรภรรยาจะเดือดร้อนเพราะอายุยังน้อย” นั้น ไม่ใช่เป็นการใช้สิทธิโดยชอบธรรมที่เจ้าหนี้
อาจพึงฟ้องลูกหนี้ให้ชำระหนี้ได้ตามกฎหมายแต่อย่างใด แต่เป็นถ้อยคำที่สามัญชนโดยทั่วไปย่อมทราบ และตีความได้ว่าเป็นคำพูดข่มขู่ ว่าหากไม่ชำระหนี้ให้แล้วผู้เสียหายกับครอบครัวอาจถูกทำร้าย ทำให้ได้รับความเดือดร้อนและเป็นอันตรายได้
ถ้อยคำดังกล่าวถือได้ว่าเป็นการขู่เข็ญผู้เสียหายให้ต้องยินยอมชำระหนี้ให้แก่กลุ่มจำเลยทั้งห้าตามที่เรียกร้อง
รู้แบบนี้แล้วเจ้าหนี้ทั้งหลาย ก็ควรเปลี่ยนวิธีการทวงเงินเสียใหม่ เอาน้ำเย็นเข้าลูบ หรือนำหลักฐานเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ แล้วปล่อยให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย จะได้ไม่เสี่ยงทำผิดกฎหมายเสียเองนะคะ
ขอบคุณที่มาข้อมูลจาก ทนายรัชพล ศิริสาคร (ประธานชมรมสนับสนุนการต่อสู้เพื่อความยุติธรรม)
เพจ สายตรงกฎหมาย ยึดมั่นความยุติธรรม โทร 09-5756-3521