วันนี้เรามี 10 ข้อคิดดีๆ แนวคิดเจ๋งๆ ของไอดอล 10 ท่าน มาแบ่งปันและเป็นกำลังใจให้ทุกคนค่ะ
1.”ถ้ามัวจมกับปัญหา คุณจะไม่เห็นทางออก”
เป็นแนวคิดที่ได้จากครูอ้อย ฐิตินาศ ณ พัทลุง ผู้เขียนหนังสือ เข็มทิศชีวิต ที่ยอดขายเป็นล้านเล่ม และงานสัมมนา ที่ดารา นักธุรกิจดังๆ แห่ไปเข้าคอร์ส ปรับจิตใต้สำนึกเพื่อความสำเร็จกันยกใหญ่ หากใครเคยอ่านประวัติครูอ้อย จะทราบว่า จากนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จหลายร้อยล้าน ตั้งแต่อายุยังน้อย ประสบวิกฤต ล้มละลาย สามีเสียชีวิตในขณะที่ลูกอายุไม่ถึง 1 ขวบ เป็นหนี้ร้อยล้าน ในคราเดียวกัน เป็นใครก็คงมืดแปดด้าน ครูอ้อยก็เช่นกัน ถึงขนาดจัดงานศพสามีได้เพียงวันเดียว เพราะมีเจ้าหนี้มารอทวงหนี้มากมายที่ในงาน จนบอกกับเจ้าหนี้ว่า ถ้าจะเอาอะไรตอนนี้ก็เอาชีวิตไปเลยละกัน และมีคนชี้นำให้ครูอ้อยไปปฎิบัติธรรม
คำพูดที่ครูอ้อยพูดเสมอในการบรรยายและการออกทีวีหลายๆ ครั้ง หลังจากที่ออกจากการปฎิบัติธรรม และนำมาใช้ปลดหนี้ได้เพียงเวลาสั้นๆ คือคำว่า “หนี้ส่วนหนี้ ใจส่วนใจ” นั่นคือเมื่อไหร่ก็ตามที่คุณเป็นทุกข์ และเฝ้าคิด คร่ำครวญ และพร่ำบนถึงปัญหาและความทุกข์นั้น คุณจะไม่มีวันแก้ปัญหาได้ดีเลย ซ้ำร้ายบางคนยังคิดผิดตัดสินใจผิด เพิ่มปัญหาซ้ำเติมตัวเองอีก ก็ตรงกับคำว่า “สติมาปัญญาเกิด” แล้วทำอย่างไรหล่ะ เราต้องรักษาใจให้เป็นปรกติให้ได้ เข้าใจให้ได้ว่าปัญหามีไว้แก้ไม่ได้มีไว้ทุกข์ วางปัญหาลงให้ได้ รักษาใจให้ปรกติ คิดถึงความเป็นไปได้ แทนที่จะครุ่นคิดถึงแต่ปัญหา และสิ่งที่เกิดขึ้น และทางออกดีๆ ก็จะมา อย่างที่เค้าบอกกันว่า “ทุกปัญหามีทางออกเสมอ” และถ้าเราตั้งสติดีๆ อาจจะมีมากกว่าหนึ่งทาง และอาจจะเจอโอกาสในวิกฤตอีกด้วย
2.”ความผิดพลาดมันก็เป็นเพียงสีสันของชีวิต อย่าไปยึดติดกับความถูกต้อง”
เป็นข้อคิดที่ได้มาจากสาวสาวซุป”ตาร์แถวหน้า คุณ ชมพู่ อารยา เอ ฮาร์เก็ต อยู่ในพื้นที่สาธารณะมีทั้งคนชื่นชม และคนชัง คนที่คอยจับผิดตลอดเวลา ถ้าจิตใจไม่เข้มแข็งพอ คงไม่สามารถยืนอยู่บนจุดท๊อปขนาดนี้ได้ คุณชมพู่บอกว่า “คนที่ไม่รักเรา ทำไงเค้าก็ไม่รัก พยายามอย่างไรก็ผิดในสายตาเค้าอยู่แล้ว สนใจแค่คนที่รักเรา และรักตัวเองให้มากๆ ก็พอ ความผิดพลาดนั้น มันมาเป็นแพ็กเก็จของชีวิตอยู่แล้ว นั่นหมายความว่า ทุกข์สุขเป็นของคู่กัน แล้วเธอก็จะเลือกจะโฟกัสแค่ด้านบวกของชีวิต”
3.”รัก และ ให้อภัยตัวเอง”
คำพูดของ ดร.วรัญญา สะอาดเอี่ยม รีเทนนิส นักธุรกิจ และนักส่งสารผู้มืชื่อเสียง ดร.วรัญญา เคยผ่านจุดที่เรียกว่าประสบความสำเร็จสูงสุด และ มองเห็นทุกอย่างพังลงต่อหน้าต่อตาจนติดลบ ถึงขนาดคิดสั้นฆ่าตัวตาย ผ่านจุดนั้นมาได้และกลับมาส่งมอบพลังใจให้ทุกๆ คน คำพูดพี่หนึ่งจะลอยอยู่ในหัวเสมอในวันที่ท้อแท้ เจ็บปวด หรือสับสน ว่าให้รักตัวเอง ไม่ว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นนั้น เราจะเรียกมันว่า อุปสรรค หรือความท้าทาย ให้เรียนรู้ และขอบคุณมัน คนส่วนใหญ่มักจม และเฝ้าโทษตัวเอง ว่าถ้าวันนั้นไม่ทำอย่างนั้น ก็คงไม่เป็นอย่างนี้ หรือบางคนก็เฝ้าโทษฝ่ายตรงข้าม ไม่มีประโยชน์ทั้งสองแบบ รัก ให้กำลังใจตัวเอง ผิดก็เอาใหม่ ให้อภัยซะ แล้วไปต่อ
4.”ใจสูงก็รอด ใจกระจอกก็จน”
ใครที่ชอบปลุกพลังแบบฮาร์ดคอร์หน่อยต้องท่านนี้เลย อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ อาจารย์บอกว่า “อย่าเพ้อเจ้อ อยู่ที่ความเอาจริงเอาจัง อยากยิ่งใหญ่ต้องเหนื่อยกว่าคนอื่น อดทนกว่าคนอื่น พวกกระจอกท้อนู่นท้อนี่ ยอมแพ้ง่าย อุปสรรคในชีวิตมันก็แค่ทางผ่าน ใครไม่อยากเป็นไอ้กระจอก”
5.”ขำๆ”
อีกคำพูดติดปากของ ดร.วรภัทร ภู่เจริญ นักวิศวกรนาซ่า และหันมาศึกษาธรรมช่วงหลัง และยังเป็นที่ปรึกษาให้บริษัทยักษ์ใหญ่ในเมืองไทยอีกหลายๆ ที่ พร้อมทั้งจัดบรรยายธรรมะ เขียนหนังสือการบริหารที่ผสมผสานแนวพุทธอีกหลายเล่ม ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น อาจารย์ให้ใช้สติ ตัดอคติ ตัดการตัดสินตีความ หรือพยายามมองทุกอย่างให้เป็นเรื่องแค่ “ขำๆ” ฟังดูง่ายๆ แต่หากใจนิ่งแล้ว สติมาแล้ว ไม่ว่าเรื่องราวใดๆ เกิดขึ้นก็ตาม เราจะมีกลยุทธเพื่อรับมือกับมัน เวลาเกิดเรื่องที่กระทบใจ ความคิด จิตใจกำลังจะไหลไปกับอารมณ์ที่เกิดขึ้น พอมีคำนี้ลอยขึ้นมา แค่ “ขำๆ” เรื่องราวก็เหมือนจะเล็กลงไปสัก 30% และเราก็พร้อมจะรับมือกับมัน
6.”โชคชะตา อยู่ในกำมือเรา”
เป็นสิ่งที่อยากให้ทุกคนเชื่อมั่นแบบนี้ คุณบัณฑิต อึ้งรังษี นักไวทยากรณ์ระดับโลกบอกไว้ คงไม่มีใครคลางแคลงใจกับความสำเร็จของเค้า และเค้ายังเขียนหนังสือ 30 วิธีเอาชนะโชคชะตา How to control your Destiny ให้ได้อ่านกัน คุณบัณฑิตบอกว่า เมื่อเราคิด เราเชื่อ ว่าเราจะเป็นเช่นไร เราก็จะเป็นอย่างนั้น
ดังนั้น ความเศร้า หดหู่ ไม่มีผลดีกับชีวิตเลย เราต้องคอยเติมความเชื่อมั่น เติมพลังในชีวิตเราเอาไว้ ว่าเราทำได้ และทุกอย่างเป็นไปได้ ไม่ต้องสนใจว่าใครจะพูดอะไร ใครจะทำนายว่าอะไร อย่าให้คำพูดใครมามีอิทธิพลกับชีวิต จิตใจ เหนือ คำพูด และความคิดเรา ดังนั้น เราจะต้องระมัดระวัง และใส่ความคิดและคำพูดดีๆ ให้ตัวเองทุกวัน จากนั้น ลงมือ ทำ ทำ ทำ จนกว่าจะสำเร็จ
7.ทัศนคติที่อ่อนแอ นำมาซึ่งนิสัยที่อ่อนแอ อันนี้เป็นคำพูดของ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ซึ่งมันจริงทีเดียว
ไม่ว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในชีวิตนั้น มันจะเป็นแบบไหน หรือแย่แค่ไหนก็ตาม มันอยู่ที่ว่าคุณเลือกตีความมันอย่างไรให้ชีวิตคุณ ตีความว่าไม่ไหวแล้ว ไปต่อไม่ได้แล้ว แย่ที่สุด หรือฉันโชคร้าย หรือตีความว่า มันจะเป็นทั้งบทเรียน และ จุดเปลี่ยนในชีวิตฉัน และมันจะส่งให้ฉันไปไหนจุดที่ดีที่สุด ฉันจะได้เริ่มต้นใหม่ และไปได้ไกลกว่าเดิม เห็นไหมค่ะ แค่ผู้อ่านอ่านตาม ก็ให้พลังต่างกัน การตีความ และทัศนคติ มีผลต่อชีวิตมหาศาล
8.”ความล้มเหลว เหมือนเพื่อนแท้ที่ตักเตือนเราอย่างจริงใจ”
พี่โหน่ง A Day ผู้ที่ลาออกจากงานมาตามความฝัน โดยการเขียนจดหมายขอระดมทุนแฟนๆ หนังสือมาก่อตั้งบริษัททำนิตยสาร A Day วันที่กิเลศของความมั่นใจถึงขีดสุดส่งให้พี่โหน่งทำ A day weekly ออกมาและไม่ประสบความสำเร็จพี่โหน่งพบว่ามันผิดพลาดไปซะทุกอย่าง จนสุดท้ายต้องปิดตัวลง หลังจากต้องพักใจเป็นเดือนๆ พี่โหน่งพบว่าการล้มเหลวครั้งนี้มันให้อะไรมากกว่าที่คิด ให้ความกล้าหาญ ให้รู้ว่าตลาดต้องการอะไรจริงๆ กลับมามีพลัง และทำผลงานที่ประสบความสำเร็จกว่าเดิมอีกหลายๆ ชิ้น
9.”ปัญหาคือบิดานักประดิษฐ์ เพราะเมื่อมีปัญหา เราก็จะเริ่มคิดค้นสิ่งใหม่ขึ้น นำสู่การแก้ปัญหา”
เป็นคำพูดของคุณ สรกล อดุลยานนท์ หรือนามปากกาว่าหนุ่มเมืองจันท์ เป็นคนที่มีแง่คิดดีๆ ที่จะทำให้มีความสุขในทุกสถานการณ์ คุณสรกลบอกว่า เมื่อคนเรามีความทุกข์ ปัญหาก็จะวน คิดซ้ำไปซ้ำมาอย่างนั้น เหมือนลูกหิมะที่กลิ้งแล้วก้อนหิมะก็ใหญ่ขึ้น..คิด ๑ ครั้ง พูด ๑ ครั้ง วนไปวนมาอย่างนี้ หากลงมือเขียน ปัญหาก็จะถ่ายทอดออกจากความคิดจิตใจ ผ่านแขน ผ่านมือ ผ่านปลายปากกาลงบนหน้ากระดาษ
“บางคนเขียนแล้วเห็นว่าจริงๆ ความทุกข์มีอยู่ไม่กี่ข้อ เริ่มเห็นแล้วว่าที่แบกทุกข์อยู่ทุกวัน อันที่จริงมีอยู่ไม่เท่าไหร่ ที่มองว่ามากเป็นเพราะคิดวนเวียนเกินปัญหาที่มี คิดไปล้านแปด”
“เมื่อเขียนแล้ว รู้แล้ว ก็ค่อยๆ คิดต่อว่าควรจะแก้ปัญหานั้นอย่างไร” ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ใช้หาทางออกในวันที่คิดอะไรไม่ออก
10.”ฉันมีความสุข ทุกอย่างคือกำไร”
เป็นคำพูดของตัวเองค่ะ หนึ่งในไอดอลที่ชื่นชมมากๆ คือตัวเอง เวลาท้อแท้ ทุกข์ เศร้า ผ่านการร้องไห้ไปแล้ว ก็จะคุยกับตัวเองเสมอว่า เราเกิดมาไม่มีอะไร ทุกคนก็เช่นกัน ตอนตายไปก็ไม่มีอะไรทุกคนก็เช่นกัน งั้นทุกวันๆ ทุกๆ เรื่องคือกำไรนะ คิดให้ดีเราไม่เคยเสียอะไรไปเลย อย่างน้อยที่สุดก็ได้ประสบการณ์จากเรื่องราวที่เกิดขึ้น เมื่อประตูบานหนึ่งปิดลง ประตูบานใหม่ก็จะเปิดขึ้นเสมอ ตื่นเต้นสิ ตื่นเต้นไหม พรุ่งนี้มีอะไรสนุกๆ ที่เราต้องเจออีกนะ มีอะไรอยากลองทำอีกไหม ลองทำสิ ไม่มีอะไรเสียหายหรอก จากเด็กทารกที่นั่งไม่ได้ ยังคลาน ยืนเดินจนวิ่งได้ ไม่กลัวล้ม แล้ววันนี้จะกลัวอะไร มีอะไรที่เราอยากทำแล้วทำได้เลยไหม ทำโดยไม่ต้องรอแล้วลงมือทำมันเดี๋ยวนั้นเลย
จบลงสำหรับ 10 ข้อคิด จาก 10 ไอดอลที่ฉันใช้ในวันที่ใจไม่มีแรง
หวังว่าจะช่วยเป็นกำลังใจให้เพื่อนๆ ได้ด้วยนะคะ