คนไทยขาดแอร์ไม่ได้ เพราะพระอาทิตย์เหมือนมาอาศัยอยู่ในประเทศไทยถาวรแล้ว แต่การซื้อแอร์มาติด ไม่ใช่ว่าแค่ติดแล้วจะจบนะ เพราะการติดก็ต้องดูทิศทางด้วย บ้านไหนค่าไฟสูงก็อาจไม่ใช่เพราะการไฟฟ้าขี้โกง แต่อาจเป็นเพราะเธอติดแอร์ไม่ถูกที่เองก็ได้นะ Gangbeauty อยากให้เธอลองเช็คดูหน่อยว่าตำแหน่งแอร์น่ะเหมาะสมแล้วหรือยัง ส่วนบ้านไหนไม่มีแอร์ และกำลังมีแพลนว่าจะติด ก็ให้ใช้วิธีนี้ในการกำหนดจุดติดตั้งแอร์ได้เลย ประหยัดไฟแถมเย็นกว่าเคยเย็นแน่นอน!
1. ห้องรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า
ตำแหน่งที่ดีที่สุดที่จะติดแอร์เอาไว้คือด้านใดด้านหนึ่งของแนวนอน หรือแนวขวางตามยาวจ้ะ อย่าไว้กลางห้องเพราะลมจะไปไม่ทั่ว และถ้ามีประตูติดอยู่ที่แนวนอน ก็ให้ติดแอร์ไว้ฝั่งตรงข้ามของประตูจะดีกว่า เพราะการติดแอร์ไว้เหนือประตู จะทำให้ทุกการเปิด-ปิดประตูของเรา มีความเย็นรั่วไหลออกไปทุกครั้ง อุณหภูมิก็จะไม่คงที่ ระบบเซ็นเซอร์ของแอร์ก็จะทำงานหนักมาก ส่งผลให้แอร์ทำงานหนักไปด้วย นอกจากจะไม่เย็นยังเปลืองไฟ เผลอๆแอร์พังไวอีก
ข้อแนะนำ: ถ้าห้องเธอมันยาวมาก ลองหาฉากหรือผ้าอะไรมากั้นห้องสักหน่อย เพื่อให้ความเย็นมันอยู่แค่ในเฉพาะจุดที่เราต้องการใช้แอร์จริงๆ ก็จะช่วยแบ่งเบาการทำงานของแอร์ได้ หรือถ้างบเยอะหน่อย ติดแอร์ 2 เครื่องได้นะ แต่ต้องเลือกดู BTU ต่ำเข้าไว้ ความเย็นทั่วถึงทั้งห้อง และไม่กินไฟ คุ้มค่าการใช้งานแน่นอนจ้า
2. ห้องเพดานสูงเกิน 2.5 เมตร
บางบ้านมีดีไซน์ทันสมัยหน่อย จัดไปห้องโถง เพดานสูงต้อนรับแสงสว่าง แต่ด้วยความประเทศไทยเลยทำให้ร้อนมาก ดังนั้นจึงต้องติดแอร์ร่วมด้วย ซึ่งแอร์จะติดตรงไหนก็ได้ตามสบาย เหมือนเดิมคืออย่าติดเหนือประตู และแนะนำให้เป็นแอร์แบบแขวน เพราะมันจะกระจายความเย็นในห้องเพดานสูงได้ดีกว่าแอร์ติดผนังที่เป่าลงด้านล่างอย่างเดียวจ้ะ
3. ห้องนอน
อย่าเด็ดขาดเลยนะไอ้การติดแอร์ไว้บนหัวนอน เพราะอย่างที่บอกไปข้อที่แล้วว่าแอร์ติดผนังมันเป่าลมลงพื้น นั่นหมายความว่าแอร์จะโดนตัวเราเต็มๆ ทำให้หนาวเกินไป ไม่สบายเอาได้ ควรติดแอร์แนวตั้งฉากกับหัวเตียงจะดีกว่า เย็นสบาย เหมาะแก่การพักผ่อน ไม่ทำลายสุขภาพในระยะยาวด้วยจ้ะ
พระอาทิตย์จะอยู่ต่ออีกกี่ปี คนไทยก็หายห่วง!