ถ้ากำลังมองหาวิธีหมักหมู โดยเฉพาะสูตรหมักคอหมูย่างให้นุ่มชุ่มฉ่ำใจ กินเท่าไรก็อร่อย พบกับกลเม็ดเคล็ดไม่ลับในการหมักหมูให้นุ่มหลากหลายสูตรด้วยวัตถุดิบในบ้าน แม้แต่มือใหม่หัดทำอาหาร หรือพ่อค้าแม่ค้าหน้าใหม่ก็ทำได้และอร่อยด้วย
เคยไหม ? เวลากัดเนื้อหมูที่ปรุงสุกเข้าปากทีไรแล้วมักจะเสียอารมณ์ทุกทีไป กินแล้วติดคอไม่อร่อยลิ้น ก็เนื้อหมูที่ว่ามีรสสัมผัสแข็งกระด้าง บางครั้งก็เหนียวมาก และไม่มีความนุ่มหอมกลมกล่อมเอาเสียเลย วันนี้กระปุกดอทคอมเลยอยากขอแนะนำหลากหลายวิธีการหมักหมูนุ่มด้วยวัตถุดิบหาง่าย ราคาย่อมเยา พร้อมเคล็ดลับต่างๆ ที่ทำให้เนื้อหมูนุ่ม เคี้ยวง่าย และไม่แข็ง ทุกวิธีนั้นสามารถนำไปใช้ได้จริงค่ะ
เลือกเนื้อหมูก่อนหมัก
ก่อนอื่นเลย สิ่งแรกที่ควรต้องใส่ใจนั่นก็คือ การเลือกเนื้อหมูที่นำมาใช้หมัก ต้องเลือกเนื้อหมูที่มีสีแดงอมชมพู ลักษณะเนื้อนุ่มเป็นมัน มีความลื่น สีไม่ซีด หรือเขียวคล้ำ ไม่มีแมลงต่างๆ ตอม เมื่อใช้นิ้วกดที่ลงไปต้องคืนตัวได้ดีไม่เกิดรอยบุ๋มตรงที่เรากด ถ้าเนื้อมีรอยบุ๋มแสดงว่าเป็นเนื้อหมูค้างคืน หรือจะใช้วิธีดมกลิ่นก็ได้ กลิ่นต้องเป็นไปตามธรรมชาติ ไม่แรงเกินไป และเมื่อซื้อเนื้อหมูมาแล้ว ควรล้างให้สะอาด ก่อนปรุงอาหารด้วยนะคะ
วัตถุดิบต่างๆ ที่นำมาหมักหมู
หลังจากที่เราเลือกเนื้อหมูส่วนต่างๆ ที่ชอบได้แล้ว ต่อไปก็มาเลือกวัตถุดิบในการหมักที่จะช่วยทำให้หมูของคุณนุ่มชุ่มลิ้น ถ้าเลือกถูกก็มีชัยไปกว่าครึ่งแล้วล่ะ และที่สำคัญยังเป็นวัตถุดิบที่มักจะมีติดครัวกันอยู่แล้วด้วย
1. น้ำสับปะรด โซดา ไวน์ เบียร์ โค้ก หรือน้ำอัดลม
วัตถุดิบต่างๆ เหล่านี้มีฤทธิ์เป็นกรดเมื่อนำไปหมักจะช่วยทำให้โปรตีนในเนื้อสัตว์เปื่อยยุ่ยและนุ่มขึ้น เมื่อเรานำเนื้อสัตว์ที่หมักแล้วไปทำให้สุก รสสัมผัสของเนื้อที่ได้จะไม่แห้งกระด้าง
2. น้ำมันงา ซอสหอยนางรม ซีอิ๊วขาว และซอสปรุงรส
นอกจากเครื่องปรุงเหล่านี้จะใส่เพื่อเพิ่มกลิ่นและรสชาติให้กับเนื้อสัตว์แล้ว เครื่องปรุงต่างๆ เหล่านี้จะแทรกเข้าไปในเนื้อหมูทำให้รสสัมผัสชุ่มชื่นขึ้นอีกด้วย
3. แป้งมันสำปะหลัง หรือแป้งข้าวโพด
เมื่อนำแป้งลงไปหมักกับเนื้อสัตว์ แป้งเหลานี้จะไปเคลือบผิวของเนื้อหมูจะทำให้เนื้อนุ่มแบบเด้งๆ เหมือนหมูในราดหน้านั่นเอง
4. เบกกิ้งโซดา หรือผงฟู
สารเหล่านี้มีฤทธิ์เป็นด่างอ่อนๆ นอกจากจะใช้ใส่เวลาทำขนมเค้กหรือขนมปังให้ขึ้นฟูแล้ว ยังสามารถนำมาหมักหมูให้นุ่มได้โดยใส่เบกกิ้งโซดาเพียงเล็กน้อยลงไปหมักด้วยก็จะทำให้หมูนุ่มขึ้น แต่อย่าใส่มากเกินไปจะมีกลิ่นของสารเคมี
5. น้ำตาลทราย
เมื่อนำน้ำตาลทรายไปหมักกับหมู พอน้ำตาลทรายละลายแล้วจะแทรกซึมเข้าไปในเนื้อหมูจะทำให้เนื้อนุ่ม มีความชุ่มฉ่ำน่ารับประทานยิ่งขึ้น
6. นมสด หรือกะทิ
เมื่อนำเนื้อหมูที่หมักกับนมสดหรือกะทิไปปรุงอาหาร ระหว่างนั้นนมสดหรือกะทิจะซึมออกมาจากเนื้อจะทำให้มีความนุ่มหอมมันยิ่งขึ้น
7. น้ำมะนาว
น้ำมะนาวมีฤทธิ์เป็นกรด เมื่อนำไปหมักจะสามารถย่อยเอนไซม์ในเนื้อหมูทำให้เนื้อหมูนุ่มได้
8. ยางมะละกอ
การใข้ภูมิปัญญาชาวบ้านด้วยการนำยางจากก้านมะละกอ หรือขั้วมะละกอไปหมักเนื้อหมูก็จะได้เนื้อหมูที่นุ่มแล้ว แต่ควรระวังอย่าใส่มากเกินไปเพราะจะทำให้เนื้อหมูเปื่อยจนกลายเป็นหมูยุ่ยได้
9. น้ำมันพืช หรือน้ำมันมะกอก
น้ำมันมีความมัน ลื่น และเงางามเมื่อนำไปหมักกับเนื้อสัตว์แล้วจะช่วยทำให้เนื้อหมูนั้นชุ่มฉ่ำและนิ่มขึ้น
10. ไข่ขาว หรือไข่ไก่
เพราะสารในไข่ไก่จะเข้าไปทำปฏิกิริยาย่อยโปรตีนในเนื้อหมู ทำให้เนื้อหมูนิ่มมากแต่ไม่ยุ่ย
11. หอมใหญ่
วิธีนี้ทำง่ายๆ โดยการสับหอมใหญ่ให้ละเอียดแล้วใส่ลงไปรวมกับเนื้อ เพราะในหอมใหญ่ดิบจะมีเอนไซม์ที่จะช่วยทำให้เนื้อนิ่มขึ้น แต่ก็ต้องใช้เวลาในการหมักเป็นชั่วโมง
++++++++++++++++++++
เคล็ดลับการหมักหมูนุ่ม
1. การหั่นเนื้อหมู
เคล็ดลับนี้มีผลต่อความนุ่มของเนื้อสัตว์มาก วิธีการการหั่นที่ถูกต้อง คือ ให้เราหั่นตามขวางของเส้น ไม่หั่นตามยาว เพราะจะทำให้เนื้อหมูเหนียวและเคี้ยวยาก สำหรับการทำหมูปิ้งควรแช่ไม้เสียบในน้ำข้ามคืนก่อน เพื่อป้องกันไม่ให้ไม้ไหม้เสียก่อนที่หมูจะสุก สำหรับเนื้อหมูควรแล่ให้หนาประมาณ 1/2 เซนติเมตร กว้างประมาณ 5 เซนติเมตร ส่วนความยาวนั้นขึ้นอยู่กับขนาดของไม้เสียบ และควรเลือกเนื้อหมูที่มีมันแทรกอยู่พอสมควรเพราะจะทำให้ไม่แข็งเกินไปเวลาปิ้ง
2. ควรจิ้มเนื้อหมูให้เป็นรู
การจิ้มเนื้อสัตว์ให้เป็นรูจะทำให้เครื่องปรุงซึมเข้าไปในเนื้อหมูได้มากขึ้น และจะช่วยทำห้เนื้อหมูนุ่มขึ้น สามารถทำได้หลายวิธี เช่น ใช้ส้อมจิ้มเนื้อหมูให้เป็นรู ใช้มีดแกะสลัก ใช้ไม้เสียบลูกชิ้นมามัดรวมกันให้แน่น หรือใช้ค้อนทุบเนื้อหมูให้เป็นชิ้นบางๆ
3. ภาชนะในการหมัก
การหาภาชนะที่จะใช้ในการหมักหมูมีข้อห้ามคือ ไม่ควรใช้ภาชนะที่เป็นโลหะ เพราะน้ำหมักจะเข้าไปกัดกร่อนภาชนะให้ผุกร่อนและซึมเข้าเนื้อหมู ทำให้เป็นอันตรายต่อผู้บริโภคได้
4. ระยะเวลาการหมัก
ความนุ่มของเนื้อหมูขึ้นอยู่กับระยะเวลาในการหมัก ควรใช้เวลาในการหมักอย่างต่ำประมาณ 1/2 ชั่วโมง และถ้าหากเนื้อหมูมีความหนามากก็ต้องใช้เวลาในการหมักมากตามขึ้นไปด้วย หากอยากหมักทิ้งไว้ข้ามคืนก็ควรนำเข้าตู้เย็นหรือหมักทิ้งไว้ในน้ำแข็งเพื่อป้องกันการเน่าเสีย เวลาจะปรุงเพียงเอาเนื้อหมูออกจากตู้เย็นแล้ววางทิ้งไว้ให้ละลาย
5. หมักทิ้งไว้ในน้ำแข็งดีกว่าแช่ตู้เย็น
หลายคนอาจจะเคยชินกับการนำเนื้อสัตว์ที่หมักแล้วไปหมักแช่ทิ้งไว้ในตู้เย็น แต่จริงๆ แล้วควรนำไปหมักไว้ในถังน้ำแข็งจะดีกว่า เพราะน้ำแข็งจะช่วยให้เนื้อสัตว์ถูกความเย็นได้อย่างทั่วถึงมากกว่าการนำไปแช่ตู้เย็น
6. อุณหภูมิในการย่าง
ถ้าย่างเนื้อหมูชิ้นบางให้ใช้ไฟกลาง หากย่างชิ้นใหญ่และหนาให้ใช้ไฟกลางค่อนข้างอ่อน เพื่อให้เนื้อค่อยๆ สุกระอุถึงข้างใน แต่อย่าย่างนานจนสุกเกินไป เพราะเนื้อจะแข็งกระด้างได้
++++++++++++++++++++
วิธีหมักหมูนุ่มสูตรต่างๆ
1. สูตรหมักหมูปิ้ง (สูตรเนรัญชลา)
หมูปิ้งกับข้าวเหนียวร้อนๆ กินง่ายอิ่มท้อง รสชาติเข้มข้นหวานมัน ไม่ต้องมีน้ำจิ้มก็อร่อย เนื้อหมูนุ่มไม่ติดคอ ทำกินเองก็อร่อย หรือหากอยากทำขายเป็นอาชีพเสริมยามเช้าก็ได้ รับรองลูกค้าติดตรึม [สูตรจาก เฟซบุ๊ก กินดี อยู่ดี By เนรัญชลา]
ส่วนผสม หมูปิ้ง
– เนื้อหมูส่วนสะโพกหรือสันนอก 1 กิโลกรัม
– รากผักชี 25 กรัม
– กระเทียมไทย (แกะเปลือก) 2 หัว
– พริกไทยเม็ด 1 1/2 ช้อนชา
– น้ำตาลมะพร้าว 180 กรัม
– หัวกะทิ 1 1/2 ถ้วยตวง
– ซีอิ๊วดำ 3 ช้อนชา
– ซีอิ๊วขาว 8 ช้อนโต๊ะ
– ซอสปรุงรสฝาเขียว 6 ช้อนโต๊ะ
– แป้งข้าวโพด 1 ช้อนโต๊ะ
– ไข่แดง 1 ฟอง
– น้ำมันพืช 5 ช้อนโต๊ะ
– ไม้สำหรับเสียบหมู
วิธีหมักหมูปิ้ง
1. แล่เนื้อหมูให้เป็นแผ่นหนาประมาณ 1/2 ซ.ม. กว้างประมาณ 4-5 ซ.ม. ส่วนความยาวนั้นขึ้นอยู่กับขนาดของไม้เสียบ (หรือหั่นตามความถนัด)
2. โขลกรากผักชี กระเทียม และพริกไทยเม็ดจนละเอียดเข้าด้วยกัน
3. ผสมเครื่องที่โขลกไว้กับน้ำตาลมะพร้าว กะทิ 1 ถ้วยตวง (ส่วนกะทิที่เหลืออีก 1/2 ถ้วยเก็บไว้ใช้ทาตอนย่าง) ซีอิ๊วดำ ซีอิ๊วขาว ซอสปรุงรส แป้งข้าวโพด และไข่แดง คนผสมจนน้ำตาลมะพร้าวละลายดี จึงนำเนื้อหมูที่หั่นไว้ลงไปเคล้าผสมให้เข้ากัน สุดท้ายใส่น้ำมันพืชลงไปเคล้าผสมให้เข้ากันอีกครั้ง หมักทิ้งไว้ในตู้เย็น 1 คืน หรืออย่างน้อย 3 ชั่วโมงขึ้นไป
++++++++++++++++++++
2. สูตรหมูหมักงา
ใครอยากกินหมูนุ่ม เรามีอีกสูตรที่อยากแนะนำ นั่นคือสูตรหมูหมักงา รับรองถ้าใช้สูตรนี้แล้วเนื้อหมูจะนุ่มเด้ง แถมยังมีกลิ่นหอมจากงาอีกด้วย เพื่อนๆ สามารถเอาเนื้อหมูไปย่างหรือทอดกินกับข้าวสวยร้อนๆ ก็ได้นะคะ หรือเอาไปใส่ในแกงจืดก็อร่อยเหมือนกัน ถ้าอย่างนั้นมาลงมือทำกันเลยดีกว่าค่ะ
ส่วนผสม หมูหมักงา
– เนื้อหมูติดมัน 1 กิโลกรัม
– ซีอิ๊วขาว 6 ช้อนโต๊ะ
– ซอสปรุงรส 2 ช้อนโต๊ะ
– น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
– พริกไทยป่น 1 ช้อนชา
– ไข่ไก่ 3 ฟอง
– งาขาวคั่ว
– น้ำมันงา
วิธีการหมักหมู
หมักเนื้อหมูกับส่วนผสมทั้งหมด นำเนื้อหมูที่หมักแล้วเข้าตู้เย็น ประมาณ 3-4 ชั่วโมง
++++++++++++++++++++
3. สูตรหมูหมักกระเทียม
สำหรับคนที่ชอบเครื่องเทศอย่างกระเทียม ห้ามพลาดสูตรหมูหมักกระเทียม นำไปย่างหรือทอดก็อร่อย กินกับส้มตำหรือข้าวเหนียวก็ได้ ที่สำคัญใช้เวลาหมักเพียงแค่ 1 ชั่วโมงเท่านั้น เหมาะกับคนที่มีเวลาจำกัดมากเลยค่ะ
ส่วนผสม หมูหมักกระเทียม
– เนื้อหมูติดมัน (แล่ชิ้นบาง) 1 กิโลกรัม
– กระเทียมสับ 3-4 ช้อนโต๊ะ
– เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
– พริกไทยป่น 1 ช้อนชา
– น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
– ซอสปรุงรส 2 ช้อนโต๊ะ
– น้ำมันงา 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีการหมักหมู
นำกระเทียม เกลือป่น พริกไทยป่น น้ำตาลทราย ซอสปรุงรส และน้ำมันพืชคนให้เข้ากัน ใส่เนื้อหมูลงไปหมักประมาณ 1 ชั่วโมง ก่อนนำไปเสียบไม้แล้วปิ้งให้สุก
++++++++++++++++++++
4. สูตรหมูหมักบาร์บีคิว
เมนูสำหรับวันหยุดนี้ลองทำหมูหมักบาร์บีคิวกันหน่อยดีกว่า สูตรนี้ไม่ต้องใช้น้ำมันในการทอด เพียงแค่ใช้น้ำมันพืชในการหมักหมูให้นุ่มเท่านั้น แล้วก็นำเนื้อหมูไปย่างบนกระทะเทฟลอน ใครอยากจะเสียบมะเขือเทศหรือสับปะรดเพิ่มก็ได้นะคะ กินแกล้มกับผักสดก็อร่อยเหาะเลยค่ะ
ส่วนผสม หมูบาร์บีคิว
– เนื้อหมูหั่นบาง 1 กิโลกรัม
– ซอสมะเขือเทศ 1/4 ถ้วยตวง
– ซีอิ๊วขาว 3 ช้อนโต๊ะ
– น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
– พริกไทยป่น 1/2 ช้อนชา
– ซอสเปรี้ยว 3 ช้อนโต๊ะ
– มัสตาร์ด 1 ช้อนชา
– น้ำมันงา 1/4 ถ้วยตวง
– เหล้าจีน 2-3 ช้อนโต๊ะ (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้)
วิธีการหมักหมูบาร์บีคิว
ผสมส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน นำเนื้อหมูลงไปเคล้าให้เข้ากัน หมักไว้ในตู้เย็นประมาณ 1 ชั่วโมง ก่อนนำไปเสียบไม้แล้วปิ้งให้สุก
++++++++++++++++++++
5. สูตรหมูหมักสไตล์ญี่ปุ่น
ใครที่ชอบกินข้าวหน้าหมูสไตล์ญี่ปุ่นตามร้านอาหารชื่อดังแล้วติดใจอยากลองทำเนื้อหมูหมักกินเอง ลองทำสูตรหมูหมักซอสญี่ปุ่นนี่เลยค่ะ เนื้อหมูนุ่มชุ่มฉ่ำซอสจริงๆ ถ้าหมักเสร็จแล้วก็เอาไปย่างในกระทะเทฟลอน เมื่อสุกแล้วก็มาโปะบนข้าวญี่ปุ่น แค่นี้ก็เหมือนกินข้าวหน้าหมูในร้านอาหารญี่ปุ่นแล้วค่ะ ยิ่งถ้าได้ซดน้ำซุปมิโซะร้อนๆ จะยิ่งคล่องคอมากเลยค่ะ
ส่วนผสม หมูหมักญี่ปุ่น
– หมูติดมัน 1 กิโลกรัม
– ซีอิ๊วญี่ปุ่น 5 ช้อนโต๊ะ
– นมสด 1/2 ถ้วยตวง
– นมข้นหวาน 1/2 ถ้วยตวง
– ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ
– งาขาวคั่ว 2 ช้อนโต๊ะ
– พริกไทยป่น 1 ช้อนชา
วิธีทำหมักหมู
นำส่วนผสมทั้งหมดลงไปคลุกเคล้ากับเนื้อหมู และนำไปหมักประมาณ 30 นาทีก่อนนำไปเสียบไม้แล้วปิ้งให้สุก
++++++++++++++++++++
6. สูตรหมูหมักเกาหลี
สำหรับคนที่ชอบกินหมูกระทะลองมาทำหมูหมักสูตรเกาหลีดูสิคะ หมักเสร็จแล้วเอาไปย่างกินกันทั้งครอบครัวได้สบายเลยค่ะ เนื้อหมูจะนุ่มลิ้นเหมือนร้านหมูกระทะเลยค่ะ ไม่ต้องจิ้มน้ำจิ้มก็อร่อยนะคะ
ส่วนผสม หมูหมักเกาหลี
– เนื้อหมูติดมันแล่ชิ้นบาง 1 กิโลกรัม
– แป้งข้าวโพด 6 ช้อนโต๊ะ
– น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
– เกลือ 1/4 ช้อนชา
– น้ำมันงา 2 ช้อนโต๊ะ
– พริกไทยป่น 1 ช้อนชา
– นมสด 4 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำหมูหมักเกาหลี
1. คลุกเนื้อหมูกับน้ำตาลทราย เกลือ น้ำมันงา และพริกไทยป่นให้เข้ากัน
2 ใส่แป้งข้าวโพดลงไปเคล้าให้เข้ากัน
3. เติมนมสดลงไปเคล้าให้เข้ากัน จากนั้นนำเนื้อหมูใส่ถุงสุญญากาศ (ถ้าไม่มีให้ใส่กล่องที่มีฝาปิดสนิท) จากนั้นนำเข้าตู้เย็น หมักทิ้งไว้อย่างน้อย 1 ชั่วโมงหรือข้ามคืน
++++++++++++++++++++
7. สูตรหมูหมักนมสด
หมูหมักนมสดเมื่อนำมาย่างแล้วจะได้เนื้อหมูนุ่มชุ่มฉ่ำมาก กินกับข้าวเหนียวก็ได้นะคะ หรือสำหรับใครที่ชอบกระเทียมสามารถโรยกระเทียมเจียวเพิ่มกลิ่นหอม แล้วกินกับข้าวสวยร้อนๆ แกล้มแตงกวาหน่อย กินเพลินจนลืมเวลาเลยค่ะ
ส่วนผสม หมูหมักนมสด
– เนื้อหมูติดมันหั่นชิ้น 1 กิโลกรัม
– พริกไทยป่น 1 ช้อนชา
– เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
– นมสด 1/2 ถ้วย
– กระเทียมสับ 2 ช้อนโต๊ะ
– น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
– ซอสปรุงรส 2 ช้อนโต๊ะ
– เนยเค็ม 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีการหมักหมู
1. นำเนยสดไปละลาย แล้วใส่พริกไทย เกลือป่น นมสด กระเทียม น้ำตาลทราย และซอสปรุงรสลงไปผสมให้เข้ากัน
2. ใส่เนื้อหมูลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากัน หมักไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง
++++++++++++++++++++
8. สูตรหมูหมักตะไคร้
ตะไคร้เป็นสมุนไพรที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ เราลองเอาตะไคร้สับมาหมักกับเนื้อหมูจนได้สูตรเนื้อหมูหมักตะไคร้ แค่หมักยังมีกลิ่นหอมของตะไคร้ลอยเตะจมูก แถมเนื้อหมูยังนุ่มด้วยการหมักน้ำตาลทราย ซอสหอยนางรม และซอสปรุงรส วิธีปรุงอาหารเพียงแค่นำไปย่างในกระทะใช้ไฟปานกลางแล้วนำไปกินกับเส้นหมี่ขาวก็อร่อยแล้วค่ะ
ส่วนผสม หมูหมักตะไคร้
– เนื้อหมูแล่เป็นชิ้นบาง 500 กรัม
– ตะไคร้สับละเอียด 1 ถ้วย
– รากผักชี 5 ราก
– กระเทียมสับ 2 ช้อนโต๊ะ
– พริกไทยเม็ด 1 ช้อนชา
– น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนโต๊ะ
– ซอสหอยนางรม 1 ช้อนโต๊ะ
– ซอสปรุงรส 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีหมักหมู
1. โขลกรากผักชี กระเทียมและพริกไทยให้ละเอียด
2. นำเนื้อหมูไปหมักกับเครื่องที่โขลกไว้ ใส่ตะไคร้ ซอสหอยนางรม น้ำตาลทราย และซอสปรุงรส คลุกเคล้าให้เข้ากัน หมักไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง
++++++++++++++++++++
9. สูตรหมักหมูสะเต๊ะ
หมูสะเต๊ะใครๆ ก็อยากลองทำ แต่การหมักหมูสะเต๊ะให้อร่อยไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับมือใหม่เท่าใดนัก ลองมาดูสูตรหักหมูสะเต๊ะที่เรานำมาฝากล้วไปลองทำกันเลย [สูตรจาก คุณ BlackPiano สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม]
ส่วนผสม หมูสะเต๊ะ
– สะโพกหมู หั่นเป็นชิ้นๆ
– กระเทียมโขลก 2 กำมือ
– ผงขมิ้น 1/2 ทัพพีเล็ก (อย่าใส่เยอะจะทำให้หมูมีรสเฝื่อนๆ)
– ผงยี่หร่า 1 ทัพพี
– ผงกะหรี่ 2 1/2 ทัพพี (ยิ่งใส่เยอะยิ่งหอม)
– น้ำตาลทราย 2 ทัพพี
– เมล็ดผักชีโขลก 2 กำมือ
– กะทิกล่องสำเร็จรูป
– นมสด
– ไม้สำหรับเสียบหมูสะเต๊ะ (หมายเหตุ : ควรเลือกซื้อไม้ที่เสียบหมูสะเต๊ะโดยตรง เพราะมันจะมีขนาดเล็กกว่าไม้เสียบลูกชิ้นอยู่หน่อยนึง ห่อละ 25 บาทเอง หมูประมาณ 1 กิโลกรัม เสียบออกมาได้ 138 ไม้)
วิธีหมักหมูสะเต๊ะ
1. ใส่กระเทียมโขลกลงไปในเนื้อหมูที่่หั่นไว้ ตามด้วยผงขมิ้น ผงยี่หร่า ผงกะหรี่ น้ำตาลทราย เมล็ดผักชีโขลก กะทิ และนมสดเล็กน้อย (หมักให้มันนุ่มๆ ไม่ถึงกับแฉะ) เคล้าส่วนผสมให้เข้ากันแล้วหมักทิ้งไว้ครึ่งวัน
2. นำหมูที่หมักได้ที่แล้วมาเสียบไม้ ก่อนปิ้งนำหมูไปชุบในน้ำกะทิให้ทั่ว พอหมูเริ่มสุกให้ทากะทิซ้ำลงไปอีกครั้ง (เพื่อความนุ่มและไม่กระด้าง) ปิ้งจนสุก จัดใส่จาน เตรียมไว้เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มสะเต๊ะ และน้ำจิ้มอาจาด
++++++++++++++++++++
10. สูตรหมูหมักแกงเขียวหวาน
ถ้าหากได้มาลองชิมหมูหมักแกงเขียวหวานแล้วรับรองว่า คุณจะลืมแกงเขียวหวานกับข้าวสวยร้อนๆ ไปเลยค่ะ เพราะความนุ่มของหมูหมักผสานกับความหอมของเครื่องแกงเขียวหวาน กินเพลินจนหยุดไม่ได้เลยค่ะ เพิ่มความฟินด้วยผักสด เช่น ใบโหระพา แตงกวา ก็เข้าท่าเหมือนกันนะคะ
ส่วนผสม หมูหมักแกงเขียวหวาน
– เนื้อหมูหั่นชิ้นบาง 2 กิโลกรัม
– น้ำพริกแกงเขียวหวาน 200 กรัม
– หัวกะทิ 1 ถ้วย
– น้ำตาลทรายป่น
– น้ำปลา
– น้ำมันพืชสำหรับผัด
วิธีทำ หมูหมักแกงเขียวหวาน
1. ใส่น้ำมันพืชลงในกระทะใช้ไฟปานกลางพอร้อน ใส่น้ำพริกแกงเขียวหวานลงไปผัดกับกะทิจนหอม ปรุงรสด้วยน้ำตาลทรายและน้ำปลา
2. นำเครื่องแกงที่ผัดปรุงรสแล้วมาหมักกับเนื้อหมูประมาณ 1 ชั่วโมง
10 วิธีการหมักหมูนุ่มแต่ละสูตรน่าสนใจทั้งนั้นเลยนะคะ ถึงกับเลือกไม่ถูกเลยว่าจะทำสูตรไหนก่อนหรือหลัง ทุกสูตรการหมักหมูสามารถนำไปใช้ได้จริง ทำกินอิ่มสบายๆ ในครอบครัว หรือจะทำขายรายได้ดี รสชาติถูกใจลูกค้าติดตลาดแน่นอนค่ะ