ปฏิเสธไม่ได้ว่าในยุคปัจจุบันที่เต็มไปด้วยความเร่งรีบ การแข่งขัน และสภาวะกดดันต่างๆ ล้วนมีส่วนทำให้มนุษย์เกิดความเครียดและมีปัญหาสุขภาพอื่นๆตามมาอีกมากมาย บางคนสามารถจัดการกับความเครียดได้ ก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่กับบางคน…ที่ไม่สามารถแก้ปัญหาหรือจัดการกับความเครียดได้ ก็นำมาสู่ความรุนแรงไม่ว่าจะเป็นการทำร้ายคนอื่นหรือทำร้ายตัวเอง วันนี้มีเคล็ดลับในการจัดการกับความเครียดง่ายๆ ด้วย “กิจกรรมคลายเครียด”
แต่ละวิธีก็สามารถทำตามได้ง่ายๆ ซึ่งกิจกรรมแต่ละวันของเราล้วนสร้างความกดดันหรือความเครียดให้เราไม่มากก็น้อย เพราะฉะนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดคือภูมิคุ้มกันในตนเอง หากเรามีสติ และรู้จักสร้างกำลังใจให้ตัวเองทุกวัน รู้จักหากิจกรรมคลายเครียด เพื่อบรรเทาไม่ให้มีความเครียดสะสม หรือก่อตัวมากๆ จนต้องกลายเป็นโรคเครียด เพียงเท่านี้คุณก็จะมีสุขภาพจิตที่ดี สุขภาพใจกายพร้อมแก้ปัญหาได้แล้วล่ะคะ และะจงจำไว้ว่าทุกปัญหามีทางออกเสมอ
1 ฟังเพลงคลาสสิก– การฟังเพลงเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมคลายเครียดที่หลายคนชื่นชอบและทำได้ทุกที่ทุกเวลา ไม่ว่าจะเป็นการฟังแก้เบื่อขณะเดินทางหรือรออะไรนานๆ ฟังเพลงขณะออกกำลังกาย หรือแม้กระทั่งฟังขณะทำการบ้านหรืองานบ้านก็ล้วนเป็นการผ่อนคลายอารมณ์ได้ทั้งนั้น ยิ่งเมื่อสมองหนักอึ้ง เต็มไปด้วยความเครียดการได้ฟังเพลงโปรดหรือเพลงที่มีท่วงทำนองกระแทกใจ ก็เป็นการปลดปล่อยอารมณ์ได้ดีทางหนึ่ง แต่จากการวิจัยพบว่าการฟังเพลงคลาสสิกสามารถลดความเครียดได้ดีกว่าเพลงประเภทอื่น เพราะเพลงคลาสสิกเป็นเพลงบรรเลง ไม่มีเนื้อร้อง ทำให้ฟังได้เรื่อยๆ ไม่ต้องคิดตาม และช่วยให้สมองผ่อนคลาย อีกทั้งช่วยเรื่องอาการนอนไม่หลับ จากการวิจัยของ Frances Rauscher นักวิจัยจากUniversity of Californiaยังระบุอีกว่าดนตรีคลาสสิกมีส่วนช่วยในการพัฒนาสมอง และเพิ่มความสามารถในการจดจำสิ่งต่างๆได้ดีอีกด้วย
2 ร้องเพลง– นอกจากการฟังเพลงแล้ว การร้องเพลงก็เป็นกิจกรรมคลายเครียดได้ดีอีกทางหนึ่ง เพราะการร้องเพลงหรือตะโกนเป็นการระบายความเครียดได้ดี เหมือนเป็นการปลดปล่อยอารมณ์ออกมา จะทำให้รู้สึกโล่งและสดชื่นขึ้น เมื่อเทียบกับคนที่มีความเครียดแต่ไม่ได้ระบายออกมา จะเป็นคนเก็บกดจากความเครียดสะสม ซึ่งหากปล่อยไว้นานๆ อาจกลายเป็นคนโมโหร้ายและอารมณ์ฉุนเฉียวได้โดยไม่รู้ตัว
3 ออกกำลังกาย– จะเห็นว่าการออกกำลังกายสามารถแก้ได้เกือบทุกปัญหา ดังคำว่าที่ว่า “กีฬาคือยาวิเศษ”นั่นเอง ทุกครั้งที่ออกกำลังกายร่างกายจะหลั่งสารเอนดอร์ฟิน (Endorphins) ซึ่งเป็นสารแห่งความสุข โดยสารนี้จะหลั่งออกมามากในช่วงที่ออกกำลังกายผ่านไปแล้ว 45 นาที…การออกกำลังกายไม่เพียงเป็นกิจกรรมช่วยผ่อนคลายความเครียด ความวิตกกังวลเท่านั้น แต่ยังสามารถผ่อนคลายกล้ามเนื้อทำให้นอนหลับสบายอีกด้วย จึงเป็นกิจกรรมคลายเครียด ที่เป็นเหมือนยาวิเศษจริงๆ
4 ทำงานประดิษฐ์– เมื่อมีปัญหารุมเร้าจิตใจ คนเรามักจะฟุ้งซ่าน คิดมากและวิตกกังวล จนทำให้สมองเหนื่อยล้าและนำมาซึ่งความเครียด การทำงานประดิษฐ์ถือเป็นการรวมสมาธิได้ดีอีกทางหนึ่ง เพราะงานประดิษฐ์ส่วนใหญ่ต้องอาศัยความประณีต ความอดทนและสมาธิในการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นการแกะสลัก การถักไหมพรมหรือนิตติ้ง การทำดอกไม้ปลอมหรืองาน D.I.Y. อื่นๆ ที่นอกจากจะสร้างสมาธิ เป็นกิจกรรมคลายเครียดแล้วยังสามารถเป็นงานอดิเรกที่สร้างรายได้เสริมได้ดีอีกด้วย
5 ฟังธรรมะ- ทุกครั้งที่คนเรามีปัญหา หาทางออกไม่ได้ ทางเลือกที่หลายคนนึกถึงเป็นอันดับแรกๆ คือวัดและธรรมะ ซึ่งทุกครั้งที่เรามีความเครียด สมองของเราจะคิดอะไรได้แคบลงหรือบางทีก็คิดอะไรไม่ออกเลย ทำให้มีคนจำนวนไม่น้อยที่เครียดแล้วมักทำร้ายตัวเอง การฟังธรรมะหรือการอ่านหนังสือธรรมะจึงเหมือนการได้คุยกับเพื่อนสนิทที่สามารถเตือนสติตัวเราได้เป็นอย่างดี ทำจิตใจให้สงบเยือกเย็น รู้จักปล่อยวาง นอกจากนั้นธรรมะยังช่วยให้ความคิดของเราเปิดกว้าง สามารถค้นพบหนทางในการดำเนินชีวิตได้อย่างรอบคอบและไม่ประมาท เรียกว่าเป็นกิจกรรมคลายเครียดแบบได้สติ ได้คิด ได้แนวทาง พร้อมกันเลยทีเดียว
6 เล่นกับสัตว์เลี้ยง– สัตว์เลี้ยงเป็นเพื่อนผู้ซื่อสัตย์กับมนุษย์เสมอมานอกจากนี้ยังเป็นเพื่อนที่สามารถรับฟังเราได้โดยไม่เบื่อ แม้จะไม่ตอบโต้ แต่ด้วยนิสัยขี้อ้อน รักเจ้านาย รวมไปถึงความน่ารักของพวกมัน ยังทำให้เราเพลิดเพลินและมีความสุข …ผลการวิจัยพบว่าการสัมผัสขนของสัตว์เลี้ยงสามารถผ่อนคลายความเครียดและสามารถลดความเจ็บปวดทางร่างกายให้มนุษย์ได้ เป็นเหตุให้ในต่างประเทศได้มีการนำสัตว์เลี้ยงมาทำเป็นโปรแกรม Animal Therapy หรือสัตว์บำบัดที่ช่วยรักษาอาการซึมเศร้าในผู้สูงอายุ และผู้ป่วยที่มีปัญหากล้ามเนื้อด้วย ใครมีสัตว์เลี้ยงอยู่แล้วก็อย่าลืมลองกิจกรรมคลายเครียดวิธีนี้ดูนะคะ
7 เขียนบันทึก– การจดบันทึกเป็นการระบายอารมณ์ผ่านตัวหนังสือ เป็นวิธีการผ่อนคลายความเครียดสำหรับคนที่ไม่ถนัดระบายอารมณ์ด้วยการพูดหรือกรีดร้อง โดยการจดบันทึกเป็นการทบทวนเหตุการณ์ต่างๆที่ทำให้เราเห็นสาเหตุ และที่มาที่ไปของความทุกข์ที่ทำให้เราเครียดหรือไม่สบายใจได้ชัดเจน นอกจากนั้นการอ่านบันทึกที่ตนเขียนยังเป็นการเรียกสติก่อนจะลงมือทำอะไรสักอย่างได้ด้วย จากงานวิจัยของประเทศญี่ปุ่นระบุว่าการเขียนระบายความในใจแล้วเผาทิ้งจะทำให้ผ่อนคลายความเครียดได้ดีกว่าจดเฉยๆ ไม่น่าเชื่อเลยนะคะว่า การเขียนบันทึกจะเป็นกิจกรรมคลายเครียดที่ได้ผลและผ่านการวิจัยมาแล้ว