แจ็ค หม่า เคยมีโอกาสได้มาบรรยายที่ประเทศไทย เขาได้กล่าวคำกล่าวคำหนึ่งไว้ว่า “คนที่เอาใจยากที่สุดคือคนจน”
ประโยคนี้ทำให้หลายๆ คนติดอกติดใจว่าเป็นเพราะอะไร โดยเขาได้สรุปเหตุผลที่นำมาสนับสนุนคำพูดของเขาไว้ ดังนี้
คนที่เอาใจยากที่สุดคือคนจน
ถ้าเราให้อะไรเขาฟรีๆ เขาจะคิดว่า “นี่เป็นกับดัก”
ถ้าเราบอกเขาให้ลงทุนน้อยๆ สิ เขาจะบอกว่า “ก็จะได้กำไรนิดหน่อยเอง”
งั้นบอกให้เขาลงทุนเยอะๆ สิ เขาจะบอกว่า “ไม่มีเงิน”
บอกให้เขาลองสิ่งใหม่ๆ เขาจะบอกว่า “ไม่มีประสบการณ์”
บอกให้เขาทำธุรกิจดั้งเดิม เขาจะบอกว่า “มันยากนะ”
บอกให้เขาทำธุรกิจสมัยใหม่ เขาจะบอกว่า “มันคือธุรกิจขายตรง”
บอกให้เขาเปิดร้านขายของ เขาจะบอกว่า “มันไม่มีอิสระ”
บอกให้เขาเริ่มธุรกิจใหม่ๆ เขาจะบอกว่า “ไม่ชำนาญ”
คนพวกนี้มีอะไรเหมือนกัน คือ ชอบถามกูเกิ้ล และชอบคุยกับพวกที่ล้มเหลวเหมือนตัวเอง คิดมากกว่าศาสตราจารย์ในมหาวิทยาลัย แต่ลงมือทำอะไรน้อยกว่าคนตาบอดเสียอีก
ลองถามพวกเขาดูสิว่า “คุณทำอะไรได้บ้าง” เขาจะตอบไม่ได้
ถ้าคุณถามผมถึงบทสรุปน่ะหรือแทนที่จะให้หัวใจเต้นเร็วๆ หัดทำอะไรที่มันเร็วกว่าแทนที่จะมานั่งตั้งคำถาม ทำมันเลยดีกว่าไหม
คนที่ล้มเหลวมักมีพฤติกรรมเหมือนกันอยู่อย่างหนึ่งคือ
“ชีวิตทั้งชีวิต มีแต่คำว่า “ดูก่อน”
คำพูดของแจ็ค หม่า ดูเหมือนจะเป็นจริงในสังคมปัจจุบัน ทุกคนอยากรวย แต่ไม่อยากลงทุน ซึ่งก็มีให้เราเห็นได้ทุกที่ เพียงแค่เราไม่ได้วิเคราะห์ออกมาได้แบบแจ็ค หม่า นั่นเอง