ก้าวเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ เข้าสู่วัยแห่งความรับผิดชอบเต็มตัว แน่นอนว่าเรามักใช้ชีวิตอย่างสบายๆในแต่ละวัน จนอาจทำให้ใครหลายคนเข้าใจผิดว่าเรามักไม่กระตือรื้อร้นในการใช้ชีวิตเลย วันนี้ gangbeauty นำเคล็ดวิธีความคิด ที่จะมาช่วยให้คุณใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขกันค่ะ !!!
1. เทเพื่อนบ่อยๆ
หากคุณนัดมีทติ้งกินข้าวกับเพื่อนกันอย่างดิบดี อย่าเบี้ยวนัดก่อนที่จะถึงเวลานัดเพียงไม่กี่ชั่วโมง เว้นเสียแต่ว่าคุณจะมีเหตุจำเป็นจริงๆ โดยการวิจัยพบว่าการออกไปแฮงค์เอ้าท์กับเพื่อนฝูงจะช่วยทำให้อารมณ์ดีขึ้นและความเครียดลดลง
2. ซื้อเสื้อผ้าราคาถูกเกินไป
เราไม่ได้บอกให้คุณฟุ่มเฟือยนะ! แต่การที่คุณเสียเงินซื้อเสื้อผ้าที่ไม่มีคุณภาพและมีราคาถูกก็เหมือนจะใส่ได้ครั้งเดียวแล้วก็ต้องทิ้งไป แต่ถ้าคุณยอมเสียเงินเพิ่มมากขึ้นอีกนิดแลกกับคุณภาพที่ดี เสื้อผ้าก็อยู่คุณได้นานขึ้นและทำให้คุณสนุกสนานกับการแต่งตัวมากขึ้น ขณะเดียวกันก็เป็นการประหยัดเงินในระยะยาวอีกด้วย
3. หมกมุ่นอยู่กับการหาคู่ออนไลน์
ถ้าคนที่คุณคุยมาแล้ว 3 สัปดาห์ ยังไม่ชวนคุณออกไปเที่ยว ก็เลิกรอความหวังลมแล้งๆ เพราะเขาก็คงไม่ชวนคุณหรือสนใจคุณไปมากกว่าการเป็นเพื่อนคุยแล้วล่ะ ยอมรับเถอะ! จงเงยหน้าขึ้นจากจอโทรศัพท์แล้วเปิดใจรับกับผู้คนอีกมากมายที่อยู่นอกโลกออนไลน์ที่ยังรอพูดคุยกับคุณอยู่
4. ไม่กล้าขอขึ้นเงินเดือน
มีรายงานในปี 2015 พบว่าพนักงานจำนวนมากถึง 60% ไม่กล้าขอขึ้นเงินเดือน เพราะพวกเขารู้สึกอึดอัดและไม่กล้าพอที่จะขอ จึงต้องอดทนทำงานอย่างหนัก เพื่อรอความเมตตาจากนายจ้าง ซึ่งความเป็นจริงแล้ว เราทุกคนล้วนทำงานหนักเพื่อพิสูจน์คุณค่าของตัวเองและเราก็ควรได้ในสิ่งที่สมควรได้รับ
5. ไม่ทาครีมบำรุงผิวพรรณ
เคล็ดลับง่ายๆ ที่จะทำให้คุณไม่ต้องไปเสียเงินแพงๆ ดูแลผิวหน้าเลยก็คือ การล้างหน้าให้สะอาด ไม่บีบแกะสิว และทาครีมบำรุงผิวที่เหมาะกับสภาพผิวทั้งหน้าและผิวตัวเป็นประจำทุกเช้าและก่อนนอน ที่สำคัญอย่าลืมทาครีมกันแดดทุกวันด้วย
6. “ลืม” โทรหาญาติพี่น้อง
ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ ปู่ ย่า ตา ยาย ลุง ป้า น้า อา ทุกคนต่างต้องการได้ยินเสียงของคุณบ่อยๆ ให้คลายความคิดถึง ดังนั้นหยุดอ้างนู่นอ้างนี่ หรือผลัดวันประกันพรุ่ง แล้วรีบโทรไปถามไถ่สารทุกข์สุกดิบของพวกเขา และบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตของคุณ เชื่อสิว่าคุณจะรู้สึกหายเหนื่อยและมีความสุขมากๆ เลยล่ะ
7. ใช้พูดคำว่า “ขอโทษ” พร่ำเพรื่อ
การกล่าวขอโทษหน่ะเป็นเรื่องที่ดี แต่ก็ไม่ใช่ทุกสถานการณ์ไป เช่น ขอโทษที่ตอบข้อความช้าไป 2 ชั่วโมง หรือการที่คุณอยู่บ้านในคืนปาร์ตี้วันศุกร์ เพื่อประหยัดเงินและรีบเข้านอน คุณจำเป็นต้องขอโทษกับสิ่งเหล่านี้จริงๆ เหรอ?
8. รู้สึกผิดกับความสำเร็จของตัวเอง
หากคุณได้งานใหม่ หรือเริ่มต้นธุรกิจใหม่ ก็อาจมีบางคนคอยอิจฉาและจ้องทำลายคุณอย่าปล่อยให้สิ่งเหล่านี้ทำให้คุณรู้สึกแย่เกี่ยวกับความสำเร็จของตัวเอง เพราะอย่าลืมว่ายังมีคนดีๆ อีกมากมายที่คอยสนับสนุนและชื่นชมยินดีกับคุณ
9. อยู่กับคู่รักที่ทำให้คุณรู้สึกแย่
ในเมื่อเราตัดสินใจใช้ชีวิตอยู่กับคนรักสักคนหนึ่งแล้ว เขาควรทำให้คุณมีความสุข อุ่นใจ และเป็นที่รัก แต่ถ้าคุณไม่ได้รู้สึกแบบนั้น ก็อย่าเสียเวลาทรมานจิตใจให้นานกลับมาทบทวนความสัมพันธ์แล้วร่วมกันแก้ไขจะดีกว่า
10. ยอมรับคำปฏิเสธง่ายๆ
อย่าเพิ่งตอบ “ปฏิเสธ” ครั้งแรกที่อีกฝ่ายมอบให้ คุณควรถามอีกครั้งและตอบกลับไปด้วยเหตุผล และอย่าบ่นเด็ดขาด
11. ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย
ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าในช่วงอายุ 20 ปี คุณควรเก็บเงินออมให้ได้ 10-15% ของเงินเดือน ส่วนในช่วงอายุ 30 ปี ควรใส่เข้าไปในบัญชีเงินฝากร้อยละ 15-25% โดยตั้งค่าการโอนไปโดยอัตโนมัติ
12. ไม่ทำความสะอาดห้องน้ำ
เป็นเรื่องที่รับไม่ได้อย่างมากที่คุณปล่อยให้บ้านช่องสกปรก และเต็มไปด้วยเชื้อโรคแบบนั้น เช่นเดียวกับการที่คุณไม่ปัดฝุ่นจนหยากไย่ขึ้น หรือไม่หมกผ้าไว้เป็นกองๆ จนมันส่งกลิ่นเหม็น
13. เถียงพ่อแม่
จริงอยู่ที่บางครั้งพ่อแม่ก็ทำให้เรารู้สึกหงุดหงิด แต่การทำตัวเหมือนเป็นวัยรุ่นใจร้อน เถียงพวกเขาแบบหลงชนฝาก็ไม่ได้มีประโยชน์อะไร สิ่งที่คุณควรทำคือใจเย็น รับฟังท่านและพูดกับท่านด้วยเหตุผล ปฏิบัติต่อพ่อแม่ด้วยความเคารพ แม้ว่าพวกเขาจะถามคุณเป็นรอบที่ร้อยแล้วก็ตาม
14. สูบบุหรี่ หรือทำผิวสีแทน
สองสิ่งนี้สามารถทำลายสุขภาพของคุณได้อย่างมหันต์
15. รอชายในฝัน
ถ้าคุณมัวแต่ตั้งสเปคสูงๆ แล้วรอให้ชายในฝันเข้ามาหา ก็เตรียมตัวอยู่บนคานทองนิเวศน์ได้เลยจ่ะ เพราะเอาเข้าจริงคนเราไม่มีใครเกิดมาเพอร์เฟ็กต์หรอกจ้า
16. ไม่ใฝ่หาสิ่งที่ชอบ
ไม่ว่าจะเป็นการอ่านหนังสือ การเขียนบล็อก การถักนิตติ้ง การเต้นซุมบ้า หรืออะไรก็ตามแต่ อย่าปล่อยให้คำตัดสินของใครมาหยุดคุณจากการทำตามสิ่งที่ใจคุณรัก แต่จงจัดสรรเวลา เพื่อทำสิ่งที่คุณรักให้สำเร็จ
17. ไปทำงานสายตลอด
ข้อนี้เป็นพฤติกรรมที่อาจแก้ไขยาก แต่ถ้าคุณตรงต่อเวลาชีวิตของคุณก็จะดีขึ้นและรู้สึกเครียดน้อยลง
18. ติดโทรศัพท์
ไม่ว่าคุณจะอยู่กับเพื่อน คนรัก หรือคนในครอบครัว รู้ไหมว่าพฤติกรรมเช่นนี้ทำอีกฝ่ายรู้สึกอึดอัดและเบื่อคุณเอามากๆ
19. ติดสื่อโซเชียลมากเกินไป
เดี๋ยวนี้เรื่องอะไรๆ ในโซเชียลก็มีหมดทุกอย่าง การตกแต่งบ้านสวยๆ ร้านอาหารดีๆ หรือเสื้อผ้าหรูหราในไอจี สิ่งเหล่านี้สามารถสร้างแรงจูงใจได้ แต่ยิ่งซึมซับชีวิตของคนอื่นมากเท่าไหร่คุณก็ยิ่งรู้สึกแย่มากเท่านั้น ทางที่ดี วันหยุดที่มีแสนจะน้อยนิดของคุณ จงวางโทรศัพท์ลงแล้วออกไปเที่ยวเล่น ใช้ชีวิตให้มีความสุขให้คุณรู้สึกตื่นเต้นด้วยตัวเองจะดีกว่า
20. ส่งข้อความแสดงความเสียใจหลังตีสอง
ช่วงเวลานี้ไม่ใช่เวลาที่ดีในการทำกิจกรรมไร้สาระอะไรทั้งนี่น ยิ่งเป็นการส่งข้อความไร้สาระไปหาคนรักหรือโทรศัพท์ไปหาแฟนเก่านั้นไม่ใช่สิ่งที่ดีแน่นอน
21. ไม่ออกกำลังกาย
หากคุณไม่ชอบการออกกำลังกายแบบหนักๆ อย่างการวิ่งมาราธอนหรือเล่นเวสต์ ก็ ลองค้นหากิจกรรมการออกกำลังกายเบาๆ ที่เหมาะสมกับตัวเองก็ได้ เช่น โยคะ หรือเต้นคาร์ดิโอ
22. อย่าบ่นแต่ว่าแก่
อายุ 30 ปียังไม่แก่หร๊อก เลิกบ่นได้แล้ว บางคนยิ่งแซ่บด้วยซ้ำไป มาใช้ชีวิตให้มีความสุขและสนุกสุดๆ สร้างภูมิต้านทานชีวิตให้ได้อยู่ถึง 80 ไปเลยดีกว่า
23. ไม่ทำรายรับรายจ่าย
การใช้จ่ายที่ไม่รู้ที่มาที่ไปในแต่ละวันอาจจะทำคุณเป็นหนี้ แต่การรู้จักจดรายการรายรับรายข่ายในแต่ละวัน จะช่วยให้คุณรู้จักประหยัดและมีเงินเก็บด้วย
24. ตอบตกลงทั้งๆ ที่ไม่อยากไป
ไม่มีใครมาบงการ หรือบังคับคุณได้ถ้าคุณไม่อยากไปกับใครคนนู้นหรือคนนั้นอีก การนอนอยู่บ้านดูละครแทนที่จะไปเที่ยวกับเขาไม่ใช่เรื่องผิดอะไรหรอก
25. เบี้ยวนัดคุณหมอ
โดยเฉพาะการตรวจสภาพผิวกับแพทย์ผิวหนัง หรือตรวจสุขภาพปอด หรือสูตินารีเวช คุณควรพบทันตแพทย์ปีละ 2 ครั้งและแพทย์สาขาอื่นได้บ่อยเท่าที่ต้องการ
26. ขาดสติ
เหล้าเบียร์ทำให้คนขาดสติ และอาจทำให้คุณทำสิ่งที่น่ากลัว หรือเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ เพราะฉะนั้นจะปาร์ตี้สังสรรค์ก็กินแต่พอประมาณ อย่าให้ถึงขั้นตื่นขึ้นมาแล้วจำไรไม่ได้ หรือไปตื่นอยู่บนเตียงของโรงพยาบาลเลย
27. ทะเลาะกับพี่น้องเรื่องจุกจิก
หากมีเรื่องทะเลาะกันไร้สาระก็พยายามปล่อยผ่านไปซะเถอะ เพราะถ้ามีเรื่องทุกข์ใจจริงๆ พวกเขาก็คือคนที่คอยช่วยเหลือคุณนั่นแหละ
28. ไม่รู้จักตอบแทนผู้อื่น
การเป็นอาสาสมัคร บริการอาหารในสถานสงเคราะห์ ให้คำปรึกษาเด็กๆ หรือเยี่ยมคนตามโรงพยาบาล สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้คุณรู้จักมองชีวิตด้วยปัญญา และตระหนักว่าแม้วันที่แย่สุดๆ มันก็ยังไม่เลวร้ายขนาดนั้น
29. รอเริ่มต้น “ชีวิตจริง”
คุณควรหมั่นคุยกับตัวเองถึงความหวัง ความฝัน และเป้าหมายในชีวิตของตัวเองอยู่เสมอ หากคุณยังไม่รู้ว่าชีวิตแบบไหนที่คุณปรารถนา คุณควรลงมือทำตั้งแต่วันนี้ และใช้ชีวิตจริงๆเสียที