ภาษีฉบับใหม่ไฉไลกว่าเดิม หลังจากที่ คณะรัฐมนตรี ไฟเขียว ปรับโครงสร้างภาษีสุรา-ยาสูบ-ไพ่ โประกาศใช้เป็นทางการเมื่อวันที่ 16 กันยายน 2560 เราไปดูกันว่าเครื่องดืมแต่ละอย่างปรับขึ้นเท่าไหร่กันบ้าง!
[เบียร์]
:ปรับเพิ่มขึ้น 50 สตางค์ ถึง 2.66 บาทต่อกระป๋อง และปรับขึ้น 2 บาทต่อขวด
[ไวน์]
:ไวน์นำเข้า หากมีราคาเกิน 1,000 บาท จะมีราคาเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 110 ต่อขวด ส่วนไวท์ที่มีราคาต่ำกว่า 1,000 บาท จะมีราคาลดลง 25 บาท ต่อขวด
[สุราขาว]
:ปรับขึ้น 0.84 สตางค์ ถึง 3.49 บาทต่อขวด ตามขนาดดีกรี แต่หากเป็นสุรากลั่นในประเทศ ขนาดขวด 700 มิลลิลิตร ถ้าเป็น 28 ดีกรี จะปรับขึ้น 8 บาทต่อขวด แต่หากเป็น 40 ดีกรี จะปรับขึ้น 30 บาทต่อขวด ส่วนสุรานำเข้า ราคาจะปรับลดลง 3-20 บาทต่อขวด
[บุหรี่]
:หากราคาต่ำกว่าซองละ 60 บาท จะจัดเก็บในอัตราร้อยละ 20 หรือเพิ่มขึ้น 4-15 บาทต่อซอง ส่วนบุหรี่ที่ราคาเกิน 60 บาท จะจัดเก็บภาษีในอัตราร้อยละ 40 หรือราคาจะเพิ่มขึ้น 2-14 บาทต่อซอง โดยในช่วง 2 ปีแรกจะจัดเก็บใน 2 อัตรา และหลังจากนั้นจะใช้อัตราที่เท่ากัน ที่ร้อยละ 40 เพื่อให้อุตสาหกรรมบุหรี่ได้มีเวลาปรับตัว
[เครื่องดื่มที่มีน้ำตาลเป็นส่วนผสม]
“น้ำอัดลม ปรับเพิ่มขึ้นประมาณ 13-50 สตางค์ต่อลิตร
:เครื่องดื่มบำรุงกำลัง ปรับเพิ่มขึ้น 32-90 สตางค์ ยกเว้นขนาด 150 ซีซี ลดลง 11 สตางค์ต่อลิตร
:น้ำผัก-ผลไม้ เพิ่มขึ้นประมาณ 0.06-54 สตางค์ต่อลิตร
:ชาเขียวเพิ่มขึ้น 1.13 – 2 บาท 0.5 สตางค์ต่อลิตร
:กาแฟเพิ่มขึ้น 1.35 บาทต่อลิตร
[น้ำอัดลมไม่มีน้ำตาล เช่น โค้กซีโร่ เป็บซี่ แม็ก]
:ลดลง 25-36 สตางค์ต่อลิตร ซึ่งการที่จัดเก็บจากค่าความหวานของน้ำตาล ถือเป็นอัตราภาษีใหม่ที่ไทยไม่เคยจัดเก็บมาก่อน
รูปจาก : ช่องone31