ปีใหม่กินอะไรก็อร่อยกว่าปกติ เพราะเป็นช่วงเทศกาลแห่งการเฉลิมฉลอง พบปะเจอหน้ากัน ไม่ว่าจะครอบครัว ญาติพี่น้อง เพื่อนฝูง ทำให้มักมีงานปาร์ตี้สังสรรค์กินดื่มในช่วงนี้มากขึ้น จึงทำให้หลายคนน้ำหนักเพิ่มขึ้นได้ง่ายๆ อย่างน้อยก็คนละ 2 ? 3 กิโลกรัม และยิ่งหากเป็นคนที่มีปัญหาสุขภาพอยู่แล้ว เช่น อ้วน เป็นโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ก็อาจจะมีปํญหาตามมามากขึ้น หากไม่ควบคุมอาหารการกินอย่างมีสติ
สำหรับคนที่อยากเติมความสุขด้วยการกินในช่วงเทศกาล และอยากรักษาสุขภาพให้คงที่ สุขภาพดีตลอดวันหยุดยาวนี้ ลองมาดูคำแนะนำในการกินไม่ให้น้ำหนักขึ้นกันเลยค่ะ รับรองว่า ได้กินของอร่อยอย่างมีความสุขและไม่ฝืนใจจนเกินไปแน่นอน
เลือกเสื้อผ้าไปปาร์ตี้แบบพอดีตัว
การเลือกสวมใส่เสื้อผ้าแบบพอดีตัวแต่ไม่ต้องรัดแน่นเกินไป และไม่ควรหลวมเกินไปมาก เพราะเมื่อเราใส่เสื้อผ้าสวยๆ แบบพอดีตัว จะทำให้เรากินน้อยลง เพราะจะได้กังวลแะกลัวจะมีส่วนเกินออกมาหลังกิน เช่น พุงยื่น แบบนี้คงทำลายความมั่นใจไปตลอดงานแน่ๆ ดังนั้น เลือกเสื้อผ้าที่เรามั่นใจ ใส่พอดีตัว แล้วไม่ต้องกินเยอะล่ะ
กินของรองท้องไปก่อน
เมื่อเรา ได้รับคำชวนไปงานปาร์ตี้ที่เต็มไปด้วยอาหารสุดโปรด เรามักตั้งใจไม่กินอะไรเลยทั้งวัน เพื่อที่จะได้ไปกินในงานปาร์ตี้ทีเดียว จะได้กินได้เยอะๆ รู้สึกคุ้มค่า และคิดว่ากินมื้อเดียวแบบนี้คงไม่อ้วนหรอก
แต่ความจริงแล้ว หากปล่อยให้ท้องว่าง อาจทำให้ร่างกายเข้าโหมดอดอยาก ร่างกายเกิดความเครียด พอไปถึงงานปาร์ตี้ก็จะทำให้ควบคุมตัวเองไม่ได้ กินอาหารเยอะกว่าปกติ ร่างกายจะก็รีบกักตุนอาหารไว้แล้วเปลี่ยนเป็นไขมันสะสม แบบนี้แย่กว่าเดิมอีก
ดังนั้น ต้องกินอาหารเบาๆ รองท้องไปก่อนดีกว่า เพื่อให้ร่างกายไม่เครียด เมื่อร่างกายไม่เครียด เราก็จะเปล่งประกายไปด้วยความสุข นี่แหละโอกาสเฉิดฉายในงานปาร์ตี้!
ดื่มน้ำเปล่าเยอะๆ
มีงานวิจัยพบว่า คนที่ดื่มน้ำหลังการออกกำลังกายจะกินน้อยกว่ากลุ่มที่ดื่มน้ำหวาน ดังนั้น หากเราดื่มน้ำหลังจากออกกำลังกายหรือก่อนกินมื้อใหญ่ๆ ในปาร์ตี้ เราควรดื่มน้ำเปล่า 1-2 แก้วก่อนไปงาน จะทำให้เรากินได้น้อยลง แต่ไม่รู้สึกหิวโหย และควรดื่มเครื่องดื่มที่มีแคลอรีน้อยๆ ในงานเลี้ยง ลองคิดดูว่า น้ำอัดลม 1 กระป๋อง ให้พลังงาน 150 แคลอรี แต่น้ำผลไม้ 1 แก้ว ให้พลังงาน 100 แคลอรี แต่ทางที่ดีนั้น ดื่มน้ำเปล่า น้ำโซดา น้ำสมุนไพรไม่เติมน้ำตาลดีกว่า และงดการเพิ่มวิปครีม น้ำตาล น้ำเชื่อมด้วยจะดีที่สุด
ไม่หาข้ออ้างหยุดออกกำลังกาย
อย่าเลื่อนเวลาออกกำลังกายที่ทำเป็นประจำในช่วงเทศกาลเด็ดขาด เพราะการออกกำลังกายจะช่วยป้องกันน้ำหนักเพิ่ม ช่วยลดความเครียด และลดความอยากกินได้ด้วย ควรออกกำลังกายตามเวลาที่เคยทำ ถ้าไม่ได้จริงๆ ให้เลื่อนออกไป แต่ห้ามหยุดทำเด็ด ขาด อย่าบอกตัวเองว่า ไว้หลังวันหยุดค่อยมาออกกำลังกาย เพราะถ้าน้ำหนักเพิ่มแล้ว จะทำให้ลดยากลง และยังทำให้ท้อแท้ใจจนไม่อยากออกกำลังกายด้วย
นอกจากนี้ควรออกกำลังก่ายก่อนกิน เพราะการออกกำลังกายช่วยลดความอยากอาหารได้ แต่ไม่ควรออกกำลังกายอย่างหนักหน่วง เพราะจะทำให้เหนื่อยจนกินมากกว่าเดิม โดยการออกกำลังกายที่แนะนำก่อนกิน คือ เดินเร็ว วิ่งจ็อกกี้เบาๆ
ใช้จานเล็กๆ กินอาหารแปลกๆ และเลือกอาหารน้ำหนักเยอะๆ
เมื่อมีของมากมายหลายชนิดให้เลือกตรหน้า มักกระตุ้นกิเลสของคน เห็นอะไรก็อยากกินไปหมด จึงทำให้เรากินมาเกินจำเป็น น้ำหนักจึงตามมาโดยเฉพาะงนเลี้ยงบุฟเฟต์ งานเลี้ยงที่เสริฟไม่อั้น
อาจารย์ศัลยา คงสมบูรณ์เวช นักโภชนาการ ได้ให้คำแนะนำเรื่องการเลือกชนิดอาหารและปริมาณที่ควรกินไว้ว่า “เวลาไปปาร์ตี้หรืองานเลี้ยงให้เลือกอาหารเพียงอย่างเดียวในแต่ละประเภท เช่น เลือกอาหารเรียกน้ำย่อยอย่างเดียว ขนมชนิดเดียว เครื่องดื่มชนิดเดียว แม้จะมีอาหารให้เลือกมากกว่า 10 ชนิด
“หรืออาจใช้วิธีเลือกอาหารแปลกๆ ที่เราหากินไม่ได้บ่อยๆ อาหารที่เราหากินเองได้ง่ายๆ ก็เลี่ยงไป เพื่อลดปริมาณแคลอรีที่จะสะสม ทำให้เราได้กินของอื่นๆ ได้มากขึ้น นอกจากนี้ควรเลือกจานขนาดเล็กเพื่อตักอาหารให้น้อยลงกว่าที่ตั้งใจ
“อีกคำแนะนำคือ ควรเลือกอาหารที่มีน้ำหนักมาก โดยนักวิจัยพบว่า สมองของคนเรามักจะสั่งให้เรากินในปริมาณที่สอดคล้องกับน้ำหนักอาหาร เช่น เวลาที่เรากินของว่างน้ำหนักเบาๆ ที่มีแคลอรีสูง เช่น มันฝรั่งทอดกรอบ ขนมหวานชิ้นเล็กๆ ลูกอมเม็ดเล็กๆ กินเยอะๆ แบบหมดถง เราก็จะไม่รู้สึกอิ่ม รู้สึกกินไม่พอ แม้จะได้แคลอรีเกินพอแล้ว แต่ถ้าเราเลือกกินผักผลไม้แทนขนม ซึ่งมีน้ำหนักมาก ก็จะทำให้เรารู้สึกอิ่มเร็ว และหยุดกินได้งายกว่า เช่น ส้ม แอปเปิ้ล ที่กินไม่เกิน 1-2 ลูก จะอิ่มแล้ว และยังได้ใยอาหาร วิตามิน เกลือแร่ต่างๆ และยังได้ได้แคลอรีน้อยกว่าด้วย”
ไม่นั่งแช่อยู่นานเกินไป
ไม่ว่าจะเป็นปาร์ตี้ช่วงกลางวันหรือกลางคืน หากนัดกันที่ร้านอาหาร เมื่อกินอิ่มแล้วและอยากหาเวลานั่งคุยกัน ควรไปหาสถานที่ที่เป็นคาเฟ่แล้วสั่งเครื่องดื่มไม่ผสมน้ำตาลดีกว่าการนั่งร้านอาหารต่อ เพื่อไม่ให้เราสั่งอาหารมากินต่อจนมากเกินไป หากเป็นงานเลี้ยงสังสรรค์ หากต้องการอยู่ดึก ก็จะต้องควบคุมร่างกายไม่ให้กินตลอดงาน หากเลี่ยงไม่ได้ก็จิบน้ำ หรืออยู่จนถึงเวลาพอสมควรแล้วขอตัวกลับดีกว่า ยิ่งอยู่นานก็จะทำให้มีโอกาสในการกินมากขึ้น
ถ้าทำได้ทั้งหมดนี้ นอกจากจะได้กินอย่างมีความสุขแบบไม่ฝืนใจแล้ว ยังได้สุขภาพดีรับปีใหม่อีกด้วย นอกจากนี้หากไม่ได้ไปงานปาร์ตี้ที่ไหน แต่มีคนซื้อขนมซื้ออาหารมาให้เป็นของขวัญวันปีใหม่ แล้วต้องกินเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายเสียใจ คำแนะนำก็คือ ไม่จำเป็นต้องกินมาก กินแต่พอดี และที่เหลือเก็บไว้กินวันหลัง หรือนำไปแบ่งปันให้เพื่อนคนอื่นๆ ก็ได้ นอกจากนี้หากเราต้องเป็นผู้ที่เลือกของขวัญมอบให้คนอื่น ก็ควรเลือกของขวัญที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพจะดีกว่านะคะ