เวลาทำงานบ้าน สังเกตมั้ยว่าบางทีมันก็สกปรกกันง่ายเกินไปทั้งที่เพิ่งจะทำความสะอาดไปหมาดๆ ทำให้ต้องกลับไปทำใหม่จนเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า สร้างความรำคาญใจให้กับเธอมากมาย แต่ Gangbeauty มองว่าเธออาจจะไม่ต้องโทษใครหรอก ที่มันสกปรกง่ายแบบนั้น อาจเป็นเพราะเธอเองนั่นล่ะที่ทำความสะอาดผิดวิธี!
1. ใช้ไม้ปัดฝุ่น ไม้ขนไก่ หรือผ้าขี้ริ้วผืนเดียวทั้งบ้าน
www.publicdomainpictures.net
แม้ว่าตามโฆษณาต่างๆ จะมีภาพคุณแม่บ้านถือไม้ขนไก่คู่กันกับผ้าขี้ริ้วหนึ่งผืน ทำความสะอาดบ้านอยู่มากมาย แต่ความเป็นจริงแล้วอย่าได้เชื่อแล้วทำตามเลย มันก็เป็นแค่การปัดฝุ่นและเช็ดฝุ่นให้หายไปจากจุดนึง แล้วไปแพร่ให้อีกหลายจุด ไม่ได้มีการเก็บเอาฝุ่นออกไปอย่างที่คิด เปลี่ยนเป็นผ้าไมโครไฟเบอร์ ประจำแต่ละพื้นที่ไปเลยดีกว่า ใช้เสร็จก็โยนลงถังซักผ้าก็ได้ ง่ายแถมสะอาดกว่าเยอะ
2. ไม่ทำความสะอาดเครื่องดูดฝุ่น
pixnio.com
การที่เธอใช้เครื่องดูดฝุ่นในการทำความสะอาดบ้านทั้งที่ไส้กรองด้านในยังไม่ได้ทำความสะอาดฝุ่นเก่าให้ออกไป เป็นการทำความสะอาดที่แย่มาก จริงอยู่ว่ามันยังดูดฝุ่นได้ แต่ฝุ่นเก่าข้างในก็จะโดนพ่นออกมาทางช่องระบายอากาศอีกฝั่งอยู่ดี ดูดเข้า พ่นออกอยู่แบบนี้ แล้วฝุ่นมันจะหายไปจริงๆ เหรอ เวลาที่ใช้เสร็จแล้ว แนะนำว่าให้ทำความสะอาดไส้กรองและเช็ดเครื่องด้วยทิชชูเปียกทุกครั้งดีกว่า
3. ใช้แปรงขัดส้วมเสร็จก็เก็บเลย
pxhere.com
แปรงขัดห้องน้ำ ขัดชักโครก ใช้เสร็จไม่ควรวางเก็บที่เลย เพราะมันจะทำให้ความชื้นต่างๆ สร้างเชื้อโรคให้ก่อตัวเป็นทวีคูณ และหมักหมมสะสมอยู่แบบนั้น พอหยิบมาใช้ครั้งต่อไปก็จะกลายเป็นการกระจายเชื้อโรคไปทั่วซ้ำแล้วซ้ำเล่า ที่ถูกต้องคือควรผึ่งให้แห้งสนิทซะก่อน ค่อยนำมาเก็บที่เดิม
4. ปล่อยอ่างล้างมือให้เปียกชื้น
pixabay.com
ไม่ว่าจะส่วนไหนของอ่างล้างมือ การที่มันเปียกแฉะอยู่แบบนั้นตลอดเวลา ก็นับว่าเป็นการปล่อยให้เชื้อโรคได้เจริญเติบโตกันอย่างสนุกสนาน ยิ่งซิงค์ล้างจานยิ่งหนัก เพราะอาจมีเศษอาหารปะปนอยู่ด้วย เป็นไปได้นั้น พยายามเช็ดให้แห้งหลังการใช้งานทุกครั้ง และพยายามใช้เบกกิ้งโซดาทำความสะอาดท่อและส่วนระบายน้ำให้ได้อาทิตย์ละครั้งกำลังดี
5. ทำความสะอาดพื้นก่อน
betterhousekeeper.com
เธอคนไหน บ้านหลังไหนยังติดทำความสะอาดพื้นก่อนไม่ว่าจะกวาดหรือถู เธอพลาดแล้วล่ะ เพราะพอเปลี่ยนย้ายไปเช็ดโต๊ะ เช็ดตู้ ฝุ่นจากเฟอร์นิเจอร์เหล่านั้นก็หล่นลงพื้นใหม่อยู่ดี วิธีทำความสะอาดที่ถูกคือทำไล่จากข้างบน ลงสู่ข้างล่าง พื้นห้องควรเก็บเอาไว้เป็นจุดสุดท้ายที่จะทำความสะอาด เธอจะเบาแรงลงได้เยอะ
6. พ่นน้ำยาทำความสะอาดลงบนพื้นผิวโดยตรง
www.freestockphotos.biz
การพ่นน้ำยาทำความสะอาด ไม่ว่าจะบนพื้นผิวไหนก็ตามโดยตรง จะยิ่งทำให้ฝุ่นและสิ่งสกปรกจับตัวเหนียวแน่นบนพื้นผิวนั้นมากกว่าเดิม ขัดออกยากมากกว่าเก่า ที่ถูกต้องคือควรฉีดน้ำยาทำความสะอาดบนผ้า แล้วค่อยนำไปเช็ดตามจุดที่ต้องการดีกว่า
7. เช็ดเขียงด้วยน้ำยาล้างจาน
pixabay.com
แม้ว่าน้ำยาล้างจานจะทำให้เศษอาหารและคราบมันมากมายกระจายหายไปจากจานชามได้ แต่มันกลับไม่สามารถกำจัดเศษอาหารและคราบตกค้างที่อยู่ในรอยมีดบนหน้าเขียงได้ เพราะช่องมันเล็กเกินไป การขัดถูของเรามันทำได้แค่เพียงผิวเผินเท่านั้นเอง เปลี่ยนกันใหม่ อาทิตย์ละครั้งกับการแช่เขียงในสารฟอกขาว 2 ช้อนโต๊ะ ผสมน้ำ 1 แกลลอน ล้างให้สะอาดแล้วผึ่งให้แห้ง เท่านี้ก็ห่างไกลเชื้อโรคสะสม
8. เครื่องซักผ้าไม่เคยทำความสะอาด
pixabay.com
หลายบ้านยังคงมีปัญหาผ้าอับกันอยู่ใช่มั้ย รู้มั้ยว่าหนึ่งเหตุผลที่ก่อให้เกิดความอับบนผ้า นั่นก็คือความสกปรกของเครื่องซักผ้าของเธอนั่นล่ะ ไหนจะฝุ่น ไหนจะเศษผิวหนังที่ตาย ไหนจะเศษผงซักฟอกจากผ้ากองเก่าที่ซักไปแล้ว น้ำซักผ้าครั้งต่อไปมันจะไม่สกปรกได้ยังไงกันล่ะ ลองใช้เบกกิ้งโซดากับน้ำส้มสายชูผสมกันแล้วเทลงไปปั่นในเครื่องเปล่าๆ สักรอบ เปิดฝาทิ้งไว้ให้แห้ง แล้วจะพบว่ากลิ่นอับหายไปเองนั่นล่ะ
แก้ปัญหาตามนี้แล้วจะดีขึ้น เชื่อเราสิ!