5 วิธีฝึกสติในชีวิตประจำวัน
– ตื่นอย่างมีสติ:
แทนที่จะตื่นมาแล้วเช็คข่าวสารจากโซเชียลมีเดียเป็นสิ่งแรกของวัน
ให้เวลาตัวเองซัก 5-10 นาที นั่งสมาธินิ่งๆ ก่อนจะรับข่าวสารอื่นๆ
เพื่อช่วยให้การเริ่มต้นวันใหม่เป็นไปอย่างมั่นคงในอารมณ์
– กินอย่างมีสติ:
บางครั้งเราก็ทานไปด้วยคุยโทรศัพท์ไปด้วย
บางครั้งก็ทานไปด้วยดูจอทีวี จอมือถือไปด้วย
แล้วครั้งสุดท้ายที่ทานอาหารทีละคำ รับรสชาติ
แล้วขอบคุณอาหารในมื้อนั้น
….คือเมื่อไหร่กันหรือ ?
– เดินอย่างมีสติ:
เดินไปข้างหน้าด้วยความรู้สึกขอบคุณทุกสิ่งทุกอย่าง
ขอบคุณร่างกายที่ยังมีกำลังมากพอให้สามารถเดินได้
ขอบคุณถนนหนทางที่สะดวกสบายมากพอจนเดินก้าวไปได้
และเดินด้วยใจกรุณาด้วยความรู้สึกว่า “อยากสร้างแต่รอยย่ำอันงดงามให้กับโลกใบนี้”
– ทำงานอย่างมีสติ:
ท่ามกลางมรสุมงาน และการติดต่อผู้คนมากมายตลอดวัน
เราก็สามารถฝึกสติรู้เนื้อรู้ตัวได้ง่ายๆ
เพียงหลับตาลง หายใจเข้าและออกลึกๆ สัก5 รอบลมหายใจ
โดยให้สติตามลมหายใจโดยไม่คิดเรื่องอื่น
แล้วค่อยกลับไปโฟกัสกับงานตรงหน้าใหม่อีกครั้ง
– สนทนาอย่างมีสติ:
ฟังอย่างตั้งใจ ฟังโดยไม่คิดตัดสินคู่สนทนา
เปลี่ยนสภาพตัวเองให้เป็นเหมือนภาชนะว่างเปล่าที่พร้อมรับฟังบุคคลตรงหน้า
ขณะที่เมื่อพูดก็ตระหนักถึงความงดงามของความสัมพันธ์ระหว่างคุณและคู่สนทนา
สื่อสารด้วยความรัก ด้วยความหวังดี ด้วยใจที่อยากจะสร้างสรรค์ความหมายดีๆ ระหว่างกัน
คุณสมบัติ 3 ประการนี้ จะพาคุณผ่านพ้นช่วงเวลาที่ยากลำบาก
คุณสมบัติ 3 ประการนี้ จะพาคุณผ่านพ้นช่วงเวลาที่ยากลำบาก
“ทุกๆ การกระทำมีผลตามมาเสมอ” ในขณะที่การกระทำหนึ่งอาจจะส่งผลในแง่บวก
แต่บางครั้งก็มาในรูปแบบของการลงโทษ หรือผลสะท้อนของความสะเพร่า ไม่ใส่ใจ หรือความไม่รอบคอบ
จุดประสงค์ของบทความนี้ คือ เพื่อให้คุณผู้อ่านหันมาสนใจเกี่ยวกับคุณลักษณะเฉพาะบางประการ
ที่จะช่วยให้คุณผ่านพ้นช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดในชีวิตไปได้
ริชาร์ด มัค(Richard Mach) ผู้เขียนบทความ กล่าวว่า เขาได้พบเจอปัญหาเกี่ยวกับหน้าที่การงาน
ที่ไม่มั่นคงมามากในอดีต และต้องขอบคุณตัวเองเป็นอย่างมากที่ผ่านพ้นมันมาได้ เขาจึงอยากแบ่งปัน
คุณสมบัติ 3 ประการ ที่จะช่วยให้ตัวเองอดทนพยายาม เมื่อต้องเผชิญความเหนื่อยล้า
คุณสมบัติดีๆ เหล่านี้ช่วยให้เขาผ่านพ้นวันแย่ๆ และต่อสู้ต่อไปแม้เส้นทางนั้นอาจจะมีขวากหนามรออยู่ข้างหน้า
จงฝึกฝนคุณสมบัติ 3 ประการนี้และพัฒนาตนเองให้แข็งแกร่งที่สุด
1. จงมีความอดทน
ความอดทนคือคุณธรรมอย่างหนึ่ง มันไม่เพียงแต่เป็นคุณธรรมเท่านั้น แต่มันคือคุณสมบัติที่พึงมี
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาที่ต้องเผชิญช่วงวิกฤติในชีวิต คุณจะปล่อยให้ตัวเองติดอยู่กลางพายุ
หรือจะหาที่หลบภัยจนกว่าพายุนั้นจะผ่านพ้นไป แต่ถ้าหากคุณได้ลงมือทำทุกๆ อย่างดีที่สุดเท่าที่คุณจะทำได้แล้วละก็
สิ่งสุดท้ายที่คุณจะเชื่อใจได้คือสัญชาตญาณการเอาตัวรอดของตัวคุณเอง และเฝ้ารออย่างอดทน
ในขณะที่โลกรอบๆ ตัวคุณค่อยเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น อย่าด่วนตัดสินใจ
ปล่อยให้สถานการณ์มันเป็นไป และเมื่อโอกาสมาถึงจงคว้ามันไว้อย่างไม่ลังเล
2. จงเข้าใจการใช้เวลา
ความอดทนและเวลาคือสิ่งที่อยู่คู่กันเสมอ หากมีความอดทนที่ดี โอกาสก็จะมาถึงในที่สุด และเมื่อโอกาสมาถึง
มันคือความรับผิดชอบของคุณแต่เพียงผู้เดียวที่จะคว้าประโยชน์จากมัน และนั่นคือตอนที่เวลากลายเป็นทุกๆ สิ่ง
คนเราในฐานะมนุษย์ ควรที่จะฝึกฝนคุณสมบัตินี้ไว้อยู่เสมอ เวลาสามารถส่งผลถึงทุกๆ แง่มุมในชีวิตของคุณได้อย่างแท้จริง
ตั้งแต่เรื่องของความสัมพันธ์ สุขภาพ หน้าที่การงาน การเงิน ไปจนถึงเรื่องต่างๆ ที่คุณจะนึกออก การเลือกใช้เวลานั้นส่งผลต่อทุกสิ่ง
เวลามักจะเป็นสิ่งที่ถูกมองข้าม และบางคนถึงขึ้นยอมรับคนที่เฉื่อยชาได้ราวกับเป็นวิถีของสังคม ลองคิดตามดูสิ คนที่สายเสมอ
ทำหรือพูดในสิ่งที่ไม่ควรในเวลาที่ไม่เหมาะสม ไม่รู้ว่าเวลาไหนควรนิ่งเฉย เวลาไหนควรลงมือทำ คนแบบนี้จะมีความน่าเชื่อถือแค่ไหนกัน?
3. จงมีความมั่นใจ
ความมั่นใจเป็นคุณสมบัติอันพึงมี รู้กันดีว่าความมั่นใจสามารถทำให้คนๆ หนึ่งดูน่าดึงดูดขึ้นมาได้ เหตุผลนะหรือ?
เพราะการมีความมั่นใจแสดงถึงความเชื่อมั่นในตนเอง เมื่อคุณแสดงให้เห็นถึงความมั่นใจ แล้วใครล่ะจะกล้าข้องใจในความสามารถของคุณ
การวิจัยจำนวนหนึ่งได้พิสูจน์ว่าความมั่นใจในตนเองมีผลโดยตรงต่อท่าทีการแสดงออก จงจำไว้เสมอว่าคุณสามารถรับมือกับอะไรก็ตาม
ถึงแม้ว่าสถานการณ์นั้นๆ จะเหนือความควบคุมของคุณ แต่จงมีความมั่นใจว่าในท้ายที่สุดทุกๆ อย่างจะออกมาดีเอง
จงมีความมั่นใจเสมือนว่ามันคือสิ่งที่ต้องศรัทธา ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น จงอย่าสูญเสียความมั่นใจ
เพราะการมีความมั่นใจจะมอบพลังและความกล้าหาญให้กับคุณ
จงเป็นตัวคุณในแบบที่ดีที่สุด
ความเจ็บปวดและความยากลำบากเป็นส่วนหนึ่งที่คุณต้องพบเจอในชีวิต แต่ถ้าหากคุณพัฒนาคุณสมบัติ 3 ประการนี้ให้แข็งแกร่ง
ทัศนคติของคุณจะเปลี่ยนไป อารมณ์จะกลายเป็นสิ่งที่ควบคุมได้ง่ายขึ้น และยังช่วยให้คุณทุกข์ทนจากความวิตกกังวลน้อยลงด้วย