1. คุณไม่รู้จักพอ
ถ้าคุณมองไปในสิ่งที่คุณมีอยู่ แล้วคุณรู้สึกทุกข์ใจและต้องการมีมากกว่านี้เยอะๆ
งั้นแสดงว่าไม่มีอะไรที่จะทำให้คุณพอใจได้เลยสิ แม้แต่ปัจจุบันตอนนี้ของคุณเอง
แต่หากคุณมองไปแล้วรู้สึกภูมิใจสุขใจกับสิ่งที่คุณมีในวันนี้
แล้วคุณจะรู้สึกเสมอว่าคุณนั้นมีมากพอกว่าที่คุณต้องการแล้ว
2. คุณคิดว่าชีวิตมีข้อจำกัด
ข้อจำกัด เป็นสิ่งที่คุณกำหนดขึ้นมาเองทั้งนั้น หากคุณใช้จินตนาการและความมุ่งมั่นของคุณ
พุ่งเป้าไปที่จุดหมายที่หวังไว้ ความสามารถของมนุษย์เรานั้นไร้ขีดจำกัด
จงเชื่อมั่นไว้เถอะว่าทุกสิ่งที่คุณตั้งใจล้วนเป็นไปได้ทั้งนั้น
3. คุณขาดความมั่นใจ
เราทุกคนมักมีเสียงคำถามมากมายเกี่ยวกับตัวเองในหัวว่า สิ่งนี้เหมาะสมไหม?
สิ่งนี้ถูกต้องหรือเปล่า? หรือสิ่งนี้ดีไหมนะ? แต่ถ้าคุณเอาแต่ลังเลกับสิ่งเหล่านั้นจนเกินไป
มันก็ยิ่งจะบั่นทอนกำลังใจคุณเองเปล่าๆ ดังนั้น เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้มากขึ้น
คุณต้องบอกกับใจตัวเองให้หาวิธีใหม่ๆ ในการรับมือและควบคุมจิตใจให้ได้
4. คุณรู้สึกว่าคุณควบคุมตัวเองไม่ได้
ความนิ่งเฉยเป็นศัตรูที่น่ากลัวที่สุด หากคุณไม่ควบคุมชีวิตของคุณให้ดี
ชีวิตจะกลายมาเป็นผู้ควบคุมคุณแทน ดังนั้น เริ่มต้นหักห้ามจิตใจและควบคุมชีวิตคุณ
โดยอาจเริ่มต้นจากสิ่งเล็กๆ และเริ่มขยายไปที่เรื่องที่ใหญ่ขึ้นๆ
จนสามารถเป็นนายของชีวิตตนเองได้ในที่สุด
5. คุณละเลยปัญหา
การละเลยไม่สนใจกับปัญหาที่เกิดขึ้นนั้น ไม่ได้ทำให้ปัญหาจากเราไปไหน แทนที่จะหลีกหนีปัญหา
ลองเปลี่ยนมันเป็นการเผชิญหน้าแล้วหาวิธีแก้ไขมันอย่างชาญฉลาดจะดีกว่านะ
6. คุณหยุดวางแผนชีวิต
ความคิดที่ปราศจากแผนก็เป็นแค่ฝันลมๆ แล้งๆ ดังนั้น จงหาความศรัทธาของตัวเองให้เจอ
เพื่อเริ่มต้นตั้งเป้าหมายอีกครั้ง แล้วมุ่งมั่นในการกำหนดแนวคิดและวิธีการที่จะไปให้เป้าหมายนั้นของคุณ
7. คุณไม่ยอมลงมือทำ
แค่รู้ว่าทำอย่างไร นั้นมันไม่เพียงพอ การจะก้าวไปข้างหน้าได้คุณต้องลงมือทำ
ลองกำหนดเป้าหมายเล็กๆ ที่สามารถทำได้ในทุกวัน
และเริ่มต้นขยายเป้าหมายของคุณให้ใหญ่ขึ้นต่อไปเรื่อยๆ
8. คุณไม่เชื่อมั่นในตัวเอง
สิ่งที่เลวร้ายที่สุดของชีวิต คือการที่คุณประเมินตัวเองต่ำไป
ลองปรับวิธีคิดและพูดกับตัวเองในเชิงบวกเข้าไว้
เชื่อมั่นกับสิ่งที่ทำและรายล้อมตัวเองด้วยผู้ที่เชือมั่นในตัวคุณ
9. คุณชอบคิดแง่ลบ
เป็นเรื่องยากหรืออาจจะเป็นไปไม่ได้เลยด้วยซ้ำที่เราจะได้รับผลดีจากการคิดลบ
เพราะส่วนใหญ่แล้วมันกลับก่อให้เกิดผลเสียมากกว่าผลดีด้วยซ้ำไป เมื่อคุณรู้สึกได้ว่า
ความคิดของคุณเริ่มเป็นไปในทางลบ ให้หยุดความคิดตัวเองทันที แล้วใช้เวลาต่อจากนั้น
เพื่อไตร่ตรองว่าสิ่งแย่ๆ ที่คุณคิดพวกนั้นมันมีผลต่อคุณอย่างไรในอนาคต
10. คุณยังคงทำสิ่งต่างๆ ในแบบที่เคยทำมา
เมื่อคุณก็ไม่คิดจะยอมเปลี่ยนวิธีการ ผลลัพธ์ที่ได้นั้นก็ออกมาเหมือนเดิมอย่างไม่ต้องสงสัย
สุดท้ายมันก็ไม่เกิดความก้าวหน้าใดๆ ขึ้นเลย ดังนั้น จงหาจุดด้อยที่สุดในวิธีการทำงานของคุณ
แล้วเริ่มเปลี่ยนแปลงมันสักที แน่นอนว่าผลลัพธ์ที่ได้อาจดีขึ้นหรือแย่ลง
แต่คุณจะไม่มีทางยืนอยู่จุดเดิมตรงนั้นอีกต่อไป
11. คุณหยุดพยายาม
เวลาเป็นสิ่งมีค่า อย่าปล่อยให้มันผ่านไปโดยไม่ทำอะไรเลย ไม่ว่าคุณจะอยู่สถานะใด
หรือกำลังทำอะไรก็ตาม จงเตือนตัวเองทุกครั้งว่าคุณสมควรได้รับโอกาสที่ดีที่สุด
ในการนำพาตัวเองไปสู่ความสำเร็จ อย่าหยุดพยายาม และลองเริ่มต้นจากเป้าหมายเล็กๆ ก็ได้
12. คุณโทษตัวเองว่า คุณมีต้นทุนชีวิตไม่เท่าคนอื่น
แม้ว่าคุณจะไม่ได้มีทุกสิ่งทุกอย่างที่ต้องการตอนนี้ แต่หากคุณลองใช้ความคิดและความสามารถของคุณ
มาปรับใช้ร่วมกับสิ่งที่คุณมีอยู่ล่ะก็ ถึงแรกเริ่มเดิมทีต้นทุนของคุณจะมีอยู่น้อยสักเพียงใด
แต่เชื่อเถอะว่าผลกำไรจากความสามารถของคุณมีมากมายกว่านั้นอย่างแน่นอน ดังนั้นเลิกโทษตัวเองได้แล้ว
13. คุณไม่มีความรับผิดชอบ
เมื่อคุณไม่สามารถรับผิดชอบสิ่งต่างๆ ได้ นั่นก็หมายความว่า คุณไม่สามารถไว้ใจตัวเองให้ทำสิ่งอื่นๆ ได้เช่นกัน
จงเตือนตัวเองทุกวันว่าคุณต้องรับผิดชอบทั้งหน้าที่และคำพูดของตัวเอง
และจำให้ขึ้นใจเสมอว่า ความรับผิดชอบ คือ สิ่งที่สำคัญที่สุด
14. จิตใจคุณไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
เคยมีคนกล่าวว่าร้อยละ 80 ของความสำเร็จนั้นมาจากการที่คุณเผยความสามารถนั้นออกมา
ดังนั้น จงอยู่กับปัจจุบันเข้าไว้ และอยู่ในที่ที่คุณจำเป็นต้องอยู่ อย่าได้วอกแวกไปกับสถานการณ์ต่างๆ
15. คุณกลัวความล้มเหลว
อย่าให้ชิวิตต้องหยุดชะงักเพราะความกลัว โปรดจำไว้ว่าถ้าคุณทำดีที่สุดแล้วแต่ยังล้มเหลว
ยังไงคุณก็จะได้บทเรียนที่แสนมีค่าเพื่อฝึกฝนคุณให้พร้อมสำหรับความท้าทายนั้นอีกครั้ง
ถ้าคุณเอาแต่ให้ความกลัวนำพาชีวิตคุณเดินไปข้างหน้า
คุณจะไม่เหลืออะไรเลย นอกจากความเสียใจที่ไม่ได้ลงมือทำ
16. คุณดูถูกตัวเอง
ถึงแม้ เพื่อน คนรู้จัก หรือสมาชิกในครอบครัวคุณจะดูถูกดูแคลนคุณมากสักเพียงไหน
โปรดอย่าได้เก็บคำพูดเหล่านั้นมาใส่ใจหรือท้อใจเลย จงโฟกัสที่ตัวเองเพื่อพัฒนาตัวเองให้ดีที่สุด
แล้วสักวันคุณจะพิสูจน์ให้พวกเขาได้เห็นเองว่าคุณทำได้
17. คุณขาดความกล้า
บ่อยครั้งที่เราคิดว่า ความกล้าหาญ คือการที่ไร้ซึ่งความกลัว แต่ไม่ใช่เลย เพราะคนที่กล้าหาญทุกคนนั้น
ล้วนมีความกลัวเหมือนกับเรานั่นแหละ แต่พวกเขาเอาชนะมันได้เพราะพวกเขามีความมุ่งมั่นที่มากกว่าเท่านั้นเอง
18. คุณเอาแต่เฝ้ารอเวลาที่เหมาะสม
คุณไม่จำเป็นต้องรอคำอนุญาตจากใคร เพราะเวลาที่เหมาะสมที่สุดนั้นไม่มีอยู่จริงหรอก
จงเริ่มต้นจากสิ่งที่คุณมีและสิ่งที่คุณเป็นอยู่ เพื่อทำในสิ่งที่คุณสามารถทำได้ในตอนนี้ วินาทีนี้
19. คุณเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น
นี่เป็นการกระทำที่เสียเวลาอย่างมาก เพราะไม่มีใครที่มีอะไรเหมือนกันทุกอย่าง
จึงไม่มีเหตุผลใดเลยที่เราจะเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับผู้อื่นได้ ถ้าจะเปรียบเทียบล่ะก็
จงเปรียบเทียบกับตัวเองในอดีตนี่แหละว่าคุณก้าวผ่านอุปสรรคมาไกลแค่ไหนแล้ว
และพร้อมที่จะก้าวไปข้างหน้าให้ไกลกว่าเดิมหรือยัง