เคยตั้งคำถามกับตัวเองไหมว่าเรา มีชีวิตอยู่เพื่ออะไร เกิดมาทำไม คำถามเหล่านี้มักจะเกิดขึ้นเมื่อเรารู้สึกสับสนในชีวิต หรือเกิดความเบื่อหน่ายในชีวิต
เราหนีความแก่ไม่ได้ สิ่งที่เราคิดโดยอัตโนมัติแบบไม่ต้องฝืนคือเรื่องสังขารที่ร่วงโรยลงทุกวัน เมื่อวัยเด็ก เราวาดฝันอยากจะโตเป็นผู้ใหญ่
อยากเป็นตำรวจ อยากเป็นวิศวกรเท่ๆ เมื่อเติบโต บางคนก็ได้ทำงานอย่างที่วาดฝัน บางคนก็เปลี่ยนเป้าหมายไปเรียบร้อยแล้ว แต่เมื่อโตเป็นผู้ใหญ่ไปสักระยะ
หนึ่งแล้ว เรากลับไม่คิดว่าอยากจะโตขึ้นกว่านี้ อยากอายุมากขึ้น การที่อายุมากขึ้นนั่นหมายความว่าสังขารย่อมร่วงโรยตามกาลเวลาเช่นกัน
คงไม่มีใครอยากเดินหลังค่อม คิดช้า ทำอะไรช้าไม่คล่องแคล่วเหมือนตอนสมัยยังหนุ่มสาว ในวัฏจักรของมนุษย์แล้วความแก่เป็นสิ่งที่ไม่ว่าอย่างไร
(ถ้าไม่เกิดอะไรขึ้นเสียก่อน) เราทุกคนก็ต้องได้พบเจอมันอย่างแน่นอน ควรเริ่มตระหนักไว้ตั้งแต่เรายังตั้งคำถามกับตัวเองว่ามีชีวิตอยู่เพื่ออะไร
เราหนีความเจ็บป่วยไม่ได้ ความเจ็บป่วยมักมาคู่กับความแก่ เมื่ออายุมากขึ้น โรคภัยไข้เจ็บก็จะเข้าสู่ร่างกายได้ง่ายขึ้นเพราะภูมิคุ้มกันต่ำลง บางคนก็เจ็บป่วยตอนแก่ บางคนก็เจ็บป่วยตั้งแต่ยังเด็ก ยังหนุ่มสาว โรคภัยเป็นสิ่งที่ไม่สามารถคาดเดาได้ว่ามันจะมาเมื่อไหร่ แต่เลือกที่จะป้องกันได้ เช่น ไม่ดื่ม
แอลกอฮอล์ ไม่สูบบุหรี่ กินอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ดูแลร่างกายของเราที่เปรียบเสมือนบ้านที่จะต้องอาศัยอยู่ตราบจนวันตายให้ดี
ความเจ็บป่วยก็จะมาเยือนเราได้ยากขึ้น
แต่ถึงกระนั้นเราก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้อยู่ดี อยู่ที่ว่าเราจะพบเจอการเจ็บป่วยแบบไหน ป่วยน้อย หรือป่วยมาก
เราหนีความตายไม่ได้ ไม่มีใครที่ไม่ตาย ในขณะที่มีชีวิตอยู่เราใคร่ครวญถึงความตายอยู่บ่อยครั้งดังสำนวนที่ว่า “ทำทุกอย่างให้เหมือนเป็นวัน
สุดท้ายของชีวิต” ซึ่งไม่รู้ว่าวันนี้ วันพรุ่งนี้ มะรืนนี้หรือเปล่าที่จะเป็นวันสุดท้ายของเรา ตายเร็ว ตายช้าก็คือตายเหมือนกัน แม้จะเป็นการทำใจได้ยากลำบากนัก
กับการสูญเสียสิ่งใดสิ่งหนึ่งไปอย่างไม่มีวันกลับ แต่เวลาที่ผ่านพ้นจะช่วยเยียวยาจิตใจของเราเอง
ทั้งสัตว์เลี้ยงตาย หรือมนุษย์อันเป็นที่รักตาย เป็นเรื่องที่ทำใจยาก แต่เราจะผ่านมันไปได้ และจบลงที่วัฏจักรนี้เช่นกัน
เราต้องพลัดพรากจากของรักแน่นอน มีบางคนที่คิดสั้นฆ่าตัวตายเพราะผิดหวังจากความรัก ถูกคนรักบอกเลิกและเดินจากไป ความผูกพัน
ทำให้เรารู้สึกเศร้า เสียใจ ครุ่นคิดว่าต่อไปนี้เราจะอยู่อย่างไรถ้าไม่มีเขา เราอยู่ไม่ได้แน่ถ้าขาดเขาไป ความรู้สึกเหล่านี้เป็นสิ่งที่จิตใจปรุงแต่งขึ้นทั้งสิ้น มันเป็น
ความเคยชินที่ต้องมีเขาอยู่ในชีวิต เมื่อขาดเขาไปอาจจะต้องใช้เวลาปรับตัวกันสักหน่อย ถ้าผ่านช่วงนี้ไปได้จิตใจเราจะเข้มแข็งขึ้นอีกมาก
ไม่ว่าจะเป็นสิ่งของสำคัญ สัตว์เลี้ยงตัวโปรด หรือบุคคลอันเป็นที่รัก สักระยะเวลาหนึ่งก็ต้องพลัดพรากจากกันด้วยกันทั้งสิ้น
ไม่มีใครไม่เคยพบเจอความพลัดพราก
ทุกคนมีกรรมเป็นของตน ว่ากันว่าทุกสิ่งที่มีชีวิตบนโลกเกิดมาเพื่อชดใช้กรรม คนทำกรรมดีก็จะได้รับผลกรรมที่ดี เกิดในตระกูลที่ดี
ไม่ขัดสน ไม่ลำบาก ส่วนคนที่ทำกรรมชั่วไว้ ก็จะเกิดมาพร้อมกับความยากลำบาก ต้องชดใช้กรรมที่ตนเองก่อจนกว่าจะหมดสิ้นกรรมนั่นเอง