ความลับของลมหายใจ
หลายคนใบหน้าอ่อนกว่าวัย ก็เพราะได้ฝึกหายใจสม่ำเสมอ ให้ลึก ยาว และละเอียดบ่อยครั้งนั่นเอง ซึ่งนอกจากจะช่วย เพิ่มความสงบสุขในใจ และลดสารความเครียด ที่เรียกว่า “คอร์ซิตอล” อันเป็นสาเหตุหลัก ของความแก่ชราก่อนวัยอันควรแล้ว
…การหายใจอย่างเต็มปอด ยังช่วยฟอกเลือด ที่นำพาออกซิเจน ไปหล่อเลี้ยงส่วนต่างๆ ของใบหน้าอย่างทั่วถึง และสม่ำเสมอ ทำให้ใบหน้า ดูมีน้ำมีนวล เต่งตึง สดใส อ่อนกว่าวัย และสุดท้ายเลือดเหล่านั้น ก็ยังช่วยขับสารพิษตกค้างต่างๆ (detox) ออกจากอวัยวะ ทุกส่วนของร่างกาย และบนใบหน้าได้อย่างทั่วถึงอีกด้วย
…เวลาที่เราโกรธ กลัว ตกใจ เครียด หงุดหงิด กังวล หรือทุกข์ ลมหาย ใจของเราจะสั้นและตื้น แต่เวลาที่เรามความสุข สงบ มีพลัง นิ่ง สุขุม มั่นใจ สบายใจ ลมหายใจของเรา จะยาวและลึก.
…สิ่งที่หลายคนไม่รู้ก็คือ
หากเราตั้งใจหายใจให้ยาว และลึกสัก 4-5 ครั้ง สมองของเราจะถูกหลอกว่า เรากำลังรู้สึกสบาย สุขุม และมีพลังเช่นกัน กระบวนการนี้เรียกว่า การทำ “Biofeedback” ( การป้อนกลับทางชีวภาพ) โดยไม่ต้องใช้เครื่องมือใดๆ.
เทคนิคการหายใจ ที่ดีคือ การหายใจอย่าง “ละเอียด” ซึ่งเป็นการหายใจให้…ช้า ลึกและเบา โดยสูดลมหายใจเข้า จนสุดปอด ให้หน้าท้อง และหน้าอกพองตัว จนไม่สามารถพองต่อไปได้อีก แล้วจึงค่อยๆ ปล่อยลมหายใจออก…ยาวๆ อย่างไม่รีบร้อน จนหมดทั้งปอด ทำเท่านี้เพียง 3-4 ครั้ง ก็จะ รู้สึกว่าร่างกายเริ่มเบา ใจเริ่มเย็น จิตเริ่มโล่ง และสมอง เริ่มปลอดโปร่งขึ้นแล้ว
…ถามว่าต้องทำ และต้องฝึกบ่อยแค่ไหน
คำตอบคือ “รู้ตัวเมื่อไหร่ ก็ทำเมื่อนั้น” หรือทำทุกครั้ง ที่รู้สึกว่าจิตเริ่มตก คือ เริ่มกลัว โกรธ กังวล เหนื่อย เครียด เบื่อ เซ็ง ท้อ ทุกข์
…ชีวิตของคนเรา แท้จรืงอยู่ได้ด้วยลมหายใจ ที่เชื่อมต่อกัน และการหายใจ ที่ดีก็เป็นเครื่องมือ ในการสร้างจิตใจที่สงบ สร้างชีวิตที่ประสบความสำเร็จ และสร้างสุขภาพ ให้ยืนยาวที่ง่ายที่สุด.
หลายคนเสียเงินทองมากมาย ไปกับการเข้าคอร์สบริหารจิต หรือปลุกพลังต่างๆ ในราคาแสนแพง โดยลืมหันกลับ มาหา…สิ่งมหัศจรรย์อันล้ำค่า ที่อยู่ตรงปลายจมูกของเรานี่เอง
ถ้าฝึกหายใจแบบพุทธในที่สุดจะ “หายใจพลิกจิต” ได้
คืออาจเปลี่ยนจิตร้ายให้กลายเป็นดีภายในลมหายใจเดียว
การฝึกหายใจแบบพุทธ
ไม่ได้เริ่มจากการ “รีบหายใจ”
แต่ต้องเริ่มด้วยการ “ค่อยๆเข้าใจ”
คือ เข้าใจว่าแต่ละลมหายใจ
มีการปรุงแต่งจิตเกิดขึ้นอย่างใดอย่างหนึ่งเสมอ
และไม่มีทางเหมือนเดิมไปทุกลมหายใจ
เมื่อเข้าใจเช่นนี้เท่านั้น จึงอาจเกิดสติ
ตั้งข้อสังเกตกับลมหายใจที่เกิดขึ้นจริงในตนได้
ยกตัวอย่างเช่น พอรู้สึกเบื่ออะไรๆไปหมดทั้งโลก
ลองนั่งสังเกตว่า หายใจแบบเบื่อๆไปสัก ๑๐ ครั้ง
จะมีอย่างน้อยลมหายใจหนึ่ง
ที่เกิดความรู้สึกสดชื่นขึ้นมา
และนั่นก็คือการเริ่มต้น
เห็นความไม่เหมือนเดิมของรสชาติความเบื่อ
การเห็นความไม่เที่ยงของความเบื่อนั่นแหละ
คือ การ “รู้จัก” ความเบื่ออย่างแท้จริง
เมื่อรู้จักสิ่งใดแท้จริง
จิตของคุณจะฉลาดในสิ่งนั้น
รู้ชัดว่า ถึงสิ่งนั้นปรากฏชัดเป็นจริงเป็นจังแค่ไหน
เดี๋ยวมันก็ต้องหายไปอยู่ดี
ไม่สำคัญมั่นหมายว่ามันจะคงที่
ไม่คิดว่าคุณจะต้องจมจ่อมอยู่กับมันไปเรื่อยๆ
เมื่อค้นพบว่า ความเบื่อหายไปได้ง่ายๆ
ด้วยการหายใจแบบพุทธ
จิตของคุณจะผูกพันกับลมหายใจมากขึ้น
และในความผูกพันนั้น
จะมีความคุ้นเคยกับลมหายใจแบบหนึ่ง
คือ สายลมยาว นิ่มนวล และสดชื่น
ขนาดปลุกให้ตื่นจากอาการซึมเซาใกล้หลับ
เหมือนพลิกของคว่ำดำมืด
ให้หงายขึ้นรับแสงสว่างฉับพลัน
นั่นแหละ เรียกว่าฝึกถึงขั้นหายใจพลิกจิตได้
โดยย่นย่อ
หายใจแก้เบื่อ
คือการหายใจหลายๆครั้ง
เพื่อสังเกตความเปลี่ยนแปลงระดับความเบื่อ
แล้วจะเลิกปล่อยใจไปกับความเบื่อ
กลายเป็นมีสติรู้ความเบื่อ
เป็นอิสระจากความเบื่อได้ทุกครั้ง ง่ายๆแค่นี้