รู้นะว่ามีสาวๆหลายคน ที่มีนิสัยขี้หึง ชอบแอบไปเช็คโทรศัพท์เเฟนกันใช่ไหม รู้ไหมว่าการทำแบบนั้น เท่ากับก้าวขาเข้าไปในคุกแล้วข้างหนึ่ง ไม่เชื่อใช่ไหม วันนี้ GangBeauty มีข้อมูลเกี่ยวกับกฎหมายมาเตือนกัน เเล้วคุณจะรู้ว่าการเช็คโทรศัพท์แฟนเสี่ยงคุกเสี่ยงตารางกว่าที่คิด ตามไปดูกันเลย
ตามกฎหมายเเล้วไม่ได้มีระบุชัดเจนเกี่ยวกับความผิดของการเเอบดูโทรศัพท์มือถือของผู้อื่น แต่มันก็เข้าข่ายความผิดตาม พรบ.คอมพิวเตอร์ เพราะกฎหมายนี้ครอบครุมไปถึงโทรศัพท์มือถือแบบสมาทโฟนที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้ด้วย มันจึงคุ้มครองเรื่องของการเเอบดูข้อมูลต่างๆในโทรศัพท์มือถือของผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต
พฤติกรรมการเข้ารหัสโทรศัพท์ของแฟนหรือของคนอื่น อาจนำไปสู่ความผิด เข้าข่ายเป็นการเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะ เเละมาตราการนั้นไม่ได้มีไว้สำหรับตน ดังนั้นการที่เเฟนเราตั้งรหัสล๊อคเอาไว้เเล้วเราพยายามปลดล๊อคเข้าไปก็มีความผิดได้
มันอาจจะไม่เป็นไรหรอกหากทำในวันที่ยังรักกันอยู่เเต่ถ้าวันหนึ่งที่เขาหมดรักกันเเล้ว เขาอาจใช้ข้อนี้มาเป็นการระรานคุณได้ ดังนั้นจะเเอบดูมือถือใครก็คำนึงไว้เสมอว่ามันมีความผิดทางกฎหมาย แต่หากเป็นความเต็มใจจากเจ้าของก็ไม่เป็นไร (ความผิดนี้เฉพาะมือถือเเบบสมาทโฟนเท่านั้น)
มีโทษอย่างไรบ้าง?
พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550
มาตรา 3 “ข้อมูลคอมพิวเตอร์” หมายความว่า ข้อมูล ข้อความ คำสั่ง ชุดคำสั่งหรือสิ่งอื่นใดบรรดาที่อยู่ในระบบคอมพิวเตอร์ในสภาพที่ระบบคอมพิวเตอร์อาจประมวลผลได้ และให้หมายความรวมถึงข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ตามกฎหมายว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ด้วย
มาตรา 7 ผู้ใดเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอรที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะและมาตรการนั้นมิได้มีไว้สําหรับตน ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
ถ้าอยากจะรู้อะไรก็ถามกันไปตรงๆเลยดีกว่าค่ะ ไม่ต้องหลบๆซ่อนๆ เเต่ถ้าเขาไม่อยากให้ดูก็อย่าไปพยายามเลย เดี๋ยวจะเกิดปัญหาบานปลายกว่าที่คิด