พออายุเดินมาถึงเลข 3 บรรดาความเหี่ยวยานก็เริ่มกินพื้นที่ร่างกายเข้ามาเรื่อยๆ โดยสำคัญก็อีตรงใบหน้าเรานี่แหละ ที่ถ้ามันเหี่ยวมันยาน มันหย่อนมันคล้อย ทำให้เราไม่มั่นใจไม่พอ ยังมาทำให้คนอื่นมองว่าเราแก่อีก โอ๊ยฉันรับไม่ได้ว่ะเธอ Gangbeauty เองก็รับไม่ได้เช่นกันอะเธอ แต่จะทำการใหญ่ใจต้องนิ่งป้ะ ศัลยกรรมเดี๋ยวนี้ก็มีตั้งหลายอย่าง อะไรไม่รู้ยิบย่อยไปหมด ในโซนของหน้าเหี่ยว จะดึง จะร้อยหรือจะฉีดดีนะ มาศึกษากันก่อนดีกว่ามาๆ
ปัจจุบันการเติมเต็มใบหน้าด้วยฟิลเลอร์ เป็นอะไรที่คนทั่วไปรู้จัก ชายอาจจะไม่ค่อย แต่หญิงเนี่ยรู้จักดีโคตร เพราะมันทำให้เราหน้าตึงกระชับได้ภายในไม่กี่ชั่วโมง แถมยังไม่เจ็บตัวมากเท่าไหร่ อีกทั้งถ้าดึงหน้า มันจะทำให้หน้าเราดูแบนๆอะ ดูไม่จริง สุดท้ายก็ต้องฉีดฟิลเลอร์เพิ่มให้หน้าดูมีมิติมากขึ้นอยู่ดี แต่ข้อจำกัดของฟิลเลอร์ก็คือมันมีวันหมดอายุ มันมีวันหายไป ต้องคอยเติมคอยเช็ค ซึ่งในบางคนก็แพ้สารฟิลเลอร์อีก ฉีดเข้าไปแล้วทำไงได้ ก็ต้องยอมรับสภาพไปตามระเบียบ
ด้วยความอันตรายที่ไม่รู้จะมาเกิดกับเรามั้ยวะ เลยผุดเป็นอีกทางเลือกหนึ่งขึ้นมา เป็นการใช้ไขมันตัวเองแทนฟิลเลอร์ไปเลย ปลอดภัยชัวร์ ไม่มั่วนิ่ม เพราะพอฉีดเข้าไป ไขมันจะเข้าไปผสานกับเนื้อเยื่อเก่าด้วยตัวเอง แถมยังได้ดูดไขมันส่วนที่ตัวเองไม่อยากมีออก ไปเติมอะไรที่ขาดหายเช่นตรงขมับ ใต้โหนกคิ้ว ใต้ตา ร่องข้างจมูก โหนกแก้ม เรียกได้ว่า 2 ต่อ ใบหน้าจะดูเต็ม อ่อนวัย ไม่เหี่ยวยาน และอยู่นานอยู่ทน ยุบหรือพองตามน้ำหนักตัวที่เธอทำเอง แต่ก็นะ ราคาสูงขึ้นอีกแน่นอนเพราะต้องทำสองสเต็ปเลย ทั้งดูดไขมันและฉีดกลับเข้าไปใหม่ งานละเอียดขึ้นว่างั้นเถอะ หมอต้องเก่งด้วยอะ
แต่ก็มีข้อห้ามนะ คนป่วยที่มีโรคประจำตัวเยอะๆงี้ คนที่ได้รับการรักษาเกี่ยวกับมะเร็ง คนมีโรคเลือด ภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือโรคทางเนื้อเยื่อ แม้แต่ใครที่ผอมมากๆก็ไม่ควร เพราะไขมันปกติก็แทบไม่มีอยู่ละ จะเอาตรงไหนมาดูดออกอะเธอ ฉะนั้นก่อนจะทำอะไรก็แล้วแต่ ปรึกษา พูดคุยกับคุณหมอก่อน ไม่ต้องรีบร้อน งานแก้มันยากกว่านะจ๊ะพวกเธอจ๋า
เวลาทำก็ให้มันพอดี อย่าเยอะเกินนะศัลยกรรมเนี่ย ไม่สวยแถมประหลาด มันจะดีเหรออออ