จำไว้.. หมามันเห่าเพราะไม่รู้จักคุณดีพอ อย่าไปเสียเวลากับมัน
หลวงตา และ ลูกศิษย์ พากันเดินธุดงค์ไปที่ยอดเขา
ขณะที่เราตามหลวงตาเดินธุดงค์ผ่านหมู่บ้าน
หลวงตาก็ได้ยินเสียงสุนัขที่เห่าระหว่างทาง
ระหว่างที่เดินไป ลูกศิษย์ก็พยายามปาก้อนหินไล่สุนัขไป
ทันใดนั้นหลวงตาก็พูดขึ้น…
” ถ้าเรามัวแต่ปาก้อนหินใส่หมาทุกตัวที่เห่า แล้วเมื่อไรเราจะเดินไปถึงยอดเขาละ…? ”
เปรียบเหมือนเสียงนินทาจากผู้คน
จำไว้ว่า… สุนัขมันจะไม่เห่าคนที่มันรู้จัก
เขานินทาก็เพียงเพราะ เขายังไม่รู้จักเราดีพอ
ระหว่างทางธุดงค์.. ต้องเดินเข้าป่ารกทึบ
จะมีกิ่งไม้มาขวางทางตลอด เรายังไม่รู้วิธีการหลบหลีก
เลยโดนกิ่งไม้ และ ขวากหนามบาด
หลวงตาเลยแนะนำเคล็ดลับ “ทางรอด”
ว่ากิ่งไม้เหล่านั้น มักจะมีทางให้เราก้มรอดผ่านไปได้
หากเราไม่อยากบาดเจ็บ เสียเวลา ยุ่งยาก
เราไม่จำเป็นต้องไปสู้ หักมันทุกกิ่งหรอก
เพราะเป้าหมายเราต้องการเดินไปสู่ยอดเขา
ไม่ใช่มาเสียเวลาสู้กับกิ่งไม้ ดังนั้น…
เราก็เพียงแค่ค่อยๆก้มรอดผ่านมันไป
และ หากเราพิจารณาแล้วว่ามันไม่มีทางรอดให้ก้มผ่านไปได้จริงๆ
เราค่อยไปสู้หักมันทิ้ง
เหมือนกับในชีวิตเรา
บางสถานการณ์เราไม่จำเป็นต้องไปสู้รบกับคนที่มาขัดขวางเรา
เราเพียงแค่หาทางรอด แล้วค่อยๆก้มผ่านเค้าไปอย่างมีสติ
เพราะเราไม่ได้ต้องการจะเอาชนะเค้า
เราเพียงแค่ต้องการเดินไปสู่เป้าหมายของเรา
อย่าไปเสียเวลากับใครบางคนที่คอยขัดขวางเราเลย
เอาเวลาไปโฟกัสที่เป้าหมายของเราดีกว่า
จงน้อมตัวเองให้ต่ำลง… เพื่อยกจิตใจของเราให้สูงขึ้น
จงอย่าเสียเวลาไปตอบโต้เสียงผู้คนนินทา
แต่จงมุ่งหน้าไปสู่จุดหมายปลายทางที่ตั้งไว้