ความสวย เอาอะไรมาวัด
ตั้งแต่วงการสื่อ วงการโฆษณาขยายกว้างมากขึ้น ความงามของผู้หญิงเราก็มีทางเลือกมากขึ้นและในขณะเดียวกันก็ดูเหมือนว่าถูกขีดคอนเสปต์ให้แคบลง ต้องเป็นคนผอม ต้องเป็นคนขาว ต้องหน้าตาดีถึงจะสวย ทำให้สาวๆ หลายคนพยายามดิ้นรนค้นหาสารพันวิธีที่จะทำให้สวยตามคอนเสปต์ดังกล่าวนี้ได้ แต่สักกี่สาวที่ภูมิใจในความเป็นตัวเอง ไม่ต้องไขว่คว้า ไม่ต้องดิ้นรนให้เหนื่อยมาก บางครั้งมันอาจดูเหมือนคุณเป็นคนดื้อรั้น ไม่น่ามอง เมื่อคุณเป็นสาวนอกกระแส เป็นตัวของตัวเองมากเกินไป และยิ่งคนอื่นมาบอกว่าคุณต้องหัดทำตัวให้สวยแบบนั้นแบบนี้บ้างคุณก็ยิ่งรู้สึกหวั่นไหว คล้อยตามไปกับพวกเขาบ้าง ตั้งสติแป๊บ ! เราเป็นเรานี่สิดี ไม่จำเป็นต้องสวยให้เหมือนคนอื่นเขา
1. โยนความสวยในโลกมายาคติออกไป
ต้องผอม ต้องสูงยาวเข่าดี ต้องผิวขาว ฯลฯ ต้องทำอะไรก็ตามที่เขาเป็นกันอย่างในสื่อโฆษณาทั้งหลาย โยนทิ้งไปได้เลย นั่นมันเป็นสไตล์ของคนอื่นที่เราไม่จำเป็นต้องเข้าไปทับซ้อนเขาสักนิด ความสวยอีกตั้งมากมายมีอยู่นอกเหนือจากที่เขาโฆษณากัน
2. เลือกดูดีโดยมีความเป็นตัวของตัวเองมากที่สุด
สร้างความภูมิใจได้จากตัวคุณเอง ไม่ต้องสนใจการประเมินจากคนอื่น อะไรที่เป็นจุดเด่นของเรา
เช่น ความสามารถทางกีฬา, ดนตรี, การศึกษา, การทำงาน สิ่งพวกนี้จะช่วยให้คุณดูดีขึ้นเป็นกองแม้คุณจะแต่งตัวธรรมดามากก็ตาม
3. อย่าตื่นตระหนกในลุคส์ที่ทำให้คุณดูแย่ ไม่เข้ากัน
แม้แต่นางแบบมืออาชีพยังต้องมีสักช่วงเวลาที่ไม่เป๊ะ ไม่สวยงาม นับประสาอะไรกับเราที่เป็นคนธรรมดาจะมีหลุดๆ พลาดๆ บ้างไม่ได้ เดินเชิดอย่าได้สนใจสายตาใครเพ่งเล็งให้เหมือนกับนางแบบที่เดินแบบไปอย่างมั่นใจ แม้จะส้นรองเท้าหัก เสื้อผ้าขาดกลางรันเวย์ก็ตาม
4. ยิ้ม
เป็นตัวของตัวเองได้ แต่ช่วยลดความน่ากลัวลงบ้างด้วยการเติมรอยยิ้มเข้าไป ยิ้มให้เป็นนิสัย ยิ้มให้กับทุกสถานการณ์ ใครก็อยากคบหาสมาคมอยู่ใกล้คุณด้วย
5. แต่งหน้าทาปากในแบบที่เป็นเรา แต่ไม่เด่นกว่าไก่งวง
ความเป็นธรรมชาติของเราบางครั้งมันก็น่ากลัวไปสักนิด เช่น คิ้วจางไป หน้าซีดไป เพราะฉะนี้โลกถึงต้องมีเครื่องสำอางไว้เติมแต่งในสิ่งที่เราบกพร่อง แต่ไม่ต้องถึงกับเด่นจนเกินหน้าเกินตาหรือทำให้เหมือนตัวประหลาดมากเกินไป เอาแค่พอดีพองาม ให้ภาพรวมกลมกลืนกันมากขึ้น มีออร่าขึ้นหน่อยก็พอแล้ว
6. สวมใส่เสื้อผ้าตามสบาย
สิ่งที่ตามมาหลังจากแต่งหน้าก็คือ เสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย แค่พอสุภาพ เข้ากับเครื่องหน้าที่เพิ่งประทินโฉมไป เข้ากับรูปร่างของเราก็พอแล้ว ไม่ต้องเด่นมากจนดูเหนื่อย หรือตามแฟชันตลอดเวลาก็ได้
7. พักสายตาจากกระจกบ้าง
เช็คตัวเองให้พอดีพองาม อย่าเป็นประเภทยิ่งส่องยิ่งนอยด์ เดี๋ยวความงามของคุณจะเป็นในแบบยิ่งแก้ยิ่งแย่ แล้วคุณก็จะเป็นพวกที่ไม่รู้จักจุดยืนของตัวเองซะที
8. โฟกัสที่สุขภาพ
อยากสวยกว่านี้เพราะรู้จุดบกพร่องด้วยตัวเองได้ แต่อย่าลืมประเมินถึงสุขภาพด้วยว่าจุดใดปลอดภัย จุดใดที่ระบบการทำงานของร่างกายโอเค บางทีที่เราเห็นกันว่าผอมๆ นั่น ถ้าเป็นเพราะพึ่งพายาลดน้ำหนักหรือทางลัดผิดๆ อย่าทำเด็ดขาด รักสวยได้ แต่อย่าลืมรักตัวเองด้วย
9. ให้เสียงคนรอบข้างเป็นแค่กระดาษโพสอิทแปะกระดาน ไม่ใช่กระจก
ให้ทุกเสียงที่ตอบรับต่อตัวเราเป็นเหมือนการเขียนกระดาษโพสอิท อะไรที่มันทำให้รู้สึกแย่ เขียนใส่แล้วขยำทิ้ง อะไรที่ดีเขียนใส่แล้วแปะข้างฝาไว้ดูเล่น ไม่จำเป็นต้องเลื่อนฐานะพวกเขาให้เป็นกระจกเท่าเรา พวกเขาก็แค่เสียงเล็กๆ ที่เราเลือกได้ว่าจะเก็บหรือจะโยนทิ้งอันไหน
10. ให้อายุเป็นตัวขับเคลื่อน
ยิ่งอายุมากขึ้น ยิ่งต้องดูแลตัวเองมากขึ้น อย่าขี้เกียจเด็ดขาด เพราะร่างกายต้องทำงานอยู่ทุกวัน เสื่อมโทรมเข้าทุกวัน หาอะไรบำรุงดูแลตัวเองหน่อยก็ดี จะได้สวยสมวัย เอาแต่พอดีๆ เป็นธรรมชาติที่สุด เข้ากับกลไกร่างกายของเราและอายุของเรามากที่สุด อะไรที่คิดว่าไม่ไหวจริงๆ หรือไม่ใช่วัยของเราจริงๆ ก็ลดลงเสียบ้าง
อย่างไรก็ตาม จะสวยด้วยธรรมชาติหรือสวยเพราะศัลยกรรม ไม่ใช่เรื่องผิดแปลกอะไรที่ผู้หญิงจะดูแลตัวเองให้ดูดีอยู่เสมอ แต่สิ่งที่ไม่ควรลืมก็คือ รักตัวเองให้เท่ากับรักสวยรักงามดีเพียงใด ไม่ใช่เพื่อคนอื่น แต่เพื่อตัวเองที่จะอยู่กับตัวเราเองไปนานแสนนานต่างหาก