ขับรถส่งอาหารสร้างรายได้ สมัครที่ไหนให้ค่าตอบแทนดีที่สุด เปรียบเทียบมาให้แล้ว จุดแข็ง-จุดอ่อนของแอปพลิเคชัน Food Delivery
บริการรับ-ส่งอาหาร (Food Delivery) นอกจากจะเข้ามาช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในชีวิตประจำวันของคนยุคนี้แล้ว ยังได้กลายเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่สร้างรายได้ให้หลายคนเลย ซึ่งปัจจุบันก็มีผู้ให้บริการอยู่หลายรายที่มีจุดแข็ง-จุดอ่อนแตกต่างกันไป และใครที่กำลังมองหาช่องทางเพิ่มรายได้ผ่าน Food Delivery แต่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะสมัครกับที่ไหนดี วันนี้เรามีข้อมูลเปรียบเทียบ 5 แอปฯ เด่นๆ เพื่อประกอบการตัดสินใจมาฝาก
1. GrabFood
ค่าตอบแทน
รายได้จากค่าส่ง GrabFood แบ่งเป็น 3 ส่วน คือ
– ค่าบริการส่งอาหาร 50 บาทต่อครั้ง (หักค่าคอมมิชชั่น 15% ได้รับจริง 42.50 บาท)
– ค่าส่งที่เก็บเงินสดจากลูกค้า 10 บาทต่อครั้ง (หักค่าคอมมิชชั่น 15% ได้รับจริง 8.50 บาท)
– ค่าส่งเพิ่มเติมตามระยะทาง 10 บาทต่อกิโลเมตร (มากกว่า 6 กิโลเมตร) (หักค่าคอมมิชชั่น 15%)
*หมายเหตุ : ค่าบริการต่างๆ ยังต้องถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย 3% แต่สามารถยื่นขอคืนภาษี ณ ที่จ่ายได้ ในการยื่นภาษีประจำปี
จุดแข็ง
– มองเห็นยอดรายได้รวมตั้งแต่ก่อนกดรับงาน
– เลือกวันเวลาทำงานได้เองตามความต้องการ
– มีทีมงานพร้อมดูแลและช่วยเหลือตลอดเวลา
– แอปฯ เปิดบริการในกรุงเทพฯ และปริมณฑล, เชียงใหม่, ขอนแก่น, หาดใหญ่ และพัทยา
– สมัครฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย
จุดอ่อน
– เงินค่าบริการส่งอาหารจะได้รับในวันถัดไป และได้รับเงินค่าส่งเพิ่มเติมตามระยะทางทุกวันพุธ
– ต้องกดแย่งลูกค้าเองผ่านแอปฯ
– มีผู้ขับขี่จำนวนมาก ต้องแข่งกันแย่งลูกค้า
– วิ่งรับงานได้แค่ช่วงเวลา 10.00-22.00 น.
วิธีสมัครขับ GrabFood
สมัครด้วยตัวเองที่ Grab สำนักงานใหญ่ ชั้น 30 อาคารธนภูมิ ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กรุงเทพฯ
อายุผู้สมัคร : 18-59 ปี
เอกสารการสมัคร
1. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
2. สำเนาเล่มจดทะเบียนรถจักรยานยนต์พร้อม พ.ร.บ.
3. สำเนาใบขับขี่รถจักรยานยนต์
4. สำเนาสมุดบัญชีธนาคารกสิกรไทยของตนเอง
2. LINE MAN และ LALAMOVE
ค่าตอบแทน
– ค่าบริการส่งอาหารเริ่มต้น 55 บาทต่อครั้ง (หักค่าคอมมิชชั่น 15% ได้รับจริง 46.75 บาท)
– ค่าส่งเพิ่มเติม 9 บาทต่อกิโลเมตร หากระยะทาง 1 กิโลเมตรขึ้นไป (หักค่าคอมมิชชั่น 15% ได้รับจริง 7.65 บาท)
– บริการช่วงนอกเวลาทำการ ตั้งแต่ 21.00-22.59 น. ได้เพิ่ม 50 บาท (หักค่าคอมมิชชั่น 15% ได้รับจริง 42.5 บาท)
– บริการช่วงนอกเวลาทำการ ตั้งแต่ 23.00-06.00 น. ได้เพิ่ม 100 บาท (หักค่าคอมมิชชั่น 15% ได้รับจริง 85 บาท)
*หมายเหตุ : ค่าบริการต่างๆ ถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย 3% แต่สามารถยื่นขอคืนภาษี ณ ที่จ่ายได้ ในการยื่นภาษีประจำปี
จุดแข็ง
– สามารถเลือกกดรับงานได้เอง
– รับงานได้ถึง 2 แอปฯ คือ LINE MAN และ LALAMOVE
– วิ่งรับงานได้ตลอด 24 ชั่วโมง
– แอปฯ เปิดบริการทั้งในกรุงเทพฯ และพัทยา
จุดอ่อน
– ต้องกดแย่งลูกค้าเองผ่านแอปฯ
– มีผู้ขับขี่จำนวนมาก ต้องแข่งกันแย่งลูกค้า
– มีค่าสมัครแรกเข้า 400 บาท
วิธีสมัครขับ LINEMAN และ LALAMOVE
สมัครด้วยตัวเองสำหรับกรุงเทพฯ ณ อาคารวรรณสรณ์ ชั้น 11 (Bangkok Meeting Room) ถนนพญาไท แขวงถนนพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ
สมัครด้วยตัวเองสำหรับพัทยา ณ C Park Pattaya ต.สุขุมวิท ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี
อายุผู้สมัคร : 18-55 ปี
เอกสารการสมัคร
1. บัตรประจำตัวประชาชน
2. ใบขับขี่รถจักรยานยนต์
3. รูปถ่ายป้ายทะเบียนรถ
4. ป้ายภาษีรถ
5. รูปถ่ายรถด้านหน้าและหลัง
6. รูปถ่ายผู้สมัคร
7. สมุดบัญชีธนาคารกสิกรไทยของตนเอง
3. Foodpanda
ค่าตอบแทน
รายได้เฉลี่ยอยู่ที่ 100 บาทต่อชั่วโมง (หักภาษี ณ ที่จ่าย 3%) และมีโอกาสสร้างรายได้สูงถึง 36,000 บาทต่อเดือน
จุดแข็ง
– มีระบบจ้างงานแบบประจำ โดยมีสวัสดิการพนักงานและประกันกลุ่มให้
– ไม่ต้องกดแย่งงาน เพราะมีระบบจ่ายงานอัตโนมัติตามพื้นที่
– แบ่งโซนชัดเจน ไม่ต้องขับขี่ระยะไกล
– วิ่งรับงานได้ตลอด 24 ชั่วโมง
– ครอบคลุมพื้นให้บริการในกรุงเทพฯ, เชียงใหม่, พัทยา, ภูเก็ต, หัวหิน, ขอนแก่น, โคราช, อุดรธานี, อุบลราชธานี, ลำพูน, หาดใหญ่ และเชียงราย
– สมัครฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย
จุดอ่อน
– ไม่สามารถเลือกรับงานเองได้
– ไม่ได้รับเงินทันที โดยจะจ่ายเงินตามรอบบัญชีของบริษัท
– ส่วนใหญ่รับเฉพาะพนักงานประจำ จึงไม่เหมาะทำเป็นพาร์ตไทม์
วิธีสมัครขับ Foodpanda
สมัครด้วยตัวเองสำหรับผู้ที่สนใจทำงานย่านสุขุมวิท สีลม ธนบุรี (กรุงเทพฯ ชั้นใน) ที่สำนักงานสาขาสุขุมวิท 59/33 ซอยสุขุมวิท 26 แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กรุงเทพฯ
สำหรับผู้ที่สนใจทำงานย่านบางกะปิ ปากเกร็ด มีนบุรี บางนา รังสิต เข้ามาสมัครได้ที่สาขารามคำแหง เลขที่ 32 ถนนรามคำแหง 24 แยก 12-2 (บ้านหลังสีเหลือง)
อายุผู้สมัคร : 18 ปีขึ้นไป
เอกสารการสมัคร
1. บัตรประจำตัวประชาชน
2. ใบขับขี่รถจักรยานยนต์
3. สมุดบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์
4. GET Driver
ค่าตอบแทน
ขึ้นอยู่กับระยะทาง ช่วงเวลา สภาพจราจร และความต้องการของลูกค้าในช่วงเวลานั้นๆ โดยเฉลี่ยผู้ขับขี่จะมีรายได้เดือนละ 15,000-25,000 บาท
จุดแข็ง
– สมัครฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายและค่าแรกเข้า
– วิ่งรับงานได้ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่จำกัดช่วงเวลา
– มีประกันสุขภาพและประกันภัยรถจักรยานยนต์
– มีแผนเงินสะสมประจำปีและเงินช่วยเหลือยามฉุกเฉิน
จุดอ่อน
– ยังไม่เปิดบริการในพื้นที่ต่างจังหวัด
– ร้านอาหารที่เข้าร่วมกับแอปฯ อาจยังไม่มากเท่ากับแอปฯ อื่นๆ ที่เปิดบริการมาก่อน
วิธีสมัครขับ GET Driver
สมัครออนไลน์ได้ที่ www.getthailand.com หลังจากนั้นจะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับอีกครั้ง
อายุผู้สมัคร : 18 ปีขึ้นไป
5. Skootar
ค่าตอบแทน
รายได้ต่อเที่ยวอยู่ที่ประมาณ 55-200 บาท (หักภาษี ณ ที่จ่าย 3%)
จุดแข็ง
– วิ่งรับงานได้ตลอด 24 ชั่วโมง
– ประกันอุบัติเหตุฟรี 1 ปี
– สิทธิ์ซื้อรถจักรยานยนต์ราคาพิเศษ
– รับเงินได้ทันทีหลังจบงาน ไม่ต้องรอถึงวันสรุปยอด
จุดอ่อน
– แอปฯ เปิดบริการทั้งระบบ iOS และ Android แต่ผู้ขับขี่สามารถใช้สมาร์ตโฟนของระบบ Android รับงานได้เท่านั้น
– ร้านอาหารที่เข้าร่วมกับแอปฯ อาจยังไม่มากเท่ากับแอปฯ อื่นๆ ที่เปิดบริการมาก่อน
– ยังไม่เปิดบริการในพื้นที่ต่างจังหวัด
– ส่วนใหญ่เป็นงานส่งเอกสาร ทำให้มีงานเยอะช่วงเวลาทำการ แต่งานจะน้อยในช่วงตอนเย็นหลังเลิกงาน
– ค่าสมัครแรกเข้า 300 บาท
วิธีสมัครขับ Skootar
สมัครได้ทางออนไลน์ และจะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับภายหลัง
อายุผู้สมัคร : 18 ปีขึ้นไป
เอกสารการสมัคร
1. รูปภาพบัตรประจำตัวประชาชน
2. รูปภาพใบอนุญาตขับขี่รถจักรยานยนต์
3. รูปภาพหน้าสมุดบัญชีธนาคาร แนะนำให้ใช้บัญชีกสิกรไทย และยกเว้นธนาคารออมสิน และ ธ.ก.ส.
4. รูปภาพเล่มทะเบียนรถ
5. รูปภาพสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนยินยอมให้ใช้รถจักรยานยนต์ (กรณีมิได้เป็นเจ้าของรถ)
สำหรับใครที่มีรถจักรยานยนต์อยู่แล้ว งานบริการรับ-ส่งอาหารถือเป็นอีกหนึ่งช่องทางสร้างรายได้ที่ทำได้ทั้งอาชีพหลักและอาชีพเสริมยามว่างได้เป็นอย่างดี ซึ่งใครที่สนใจก็ลองนำข้อมูลข้างต้นไปพิจารณากันได้เลย