การทำงานบ้านถือเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกบ้านจำเป็นต้องให้ความสำคัญ แต่ทว่าบางเรื่องบางราวในการทำความสะอาด เราก็ยังมีการทำผิดสืบต่อกันมาตลอด แน่นอนว่านั่นไม่ใช่ข้อดี แทนที่ทำความสะอาดแล้วจะปลอดภัยถ้วนทุกอย่าง แต่ทว่าความจริงแล้วมันกลับเป็นการสร้างเชื้อโรคให้กระจายไปทั่ว และ Gangbeauty ขอย้ำว่า 5 ข้อนี้ สำรวจให้แน่ใจว่าเธอยังทำอยู่หรือเปล่า แก้ไขด่วน!
1. ใช้ฟองน้ำเก่า
pixnio.com
ฟองน้ำทำความสะอาดเป็นไอเทมหลักในการใช้ทำความสะอาดทุกสิ่งทั่วบ้าน แต่รู้หรือไม่ว่าการใช้ฟองน้ำทำความสะอาดอะไรสักอย่างแค่ครั้งเดียว ก็เป็นเวลามากพอที่จะทำให้เชื้อโรคและแบคทีเรียเจริญเติบโตไปทั่วฟองน้ำแล้ว ยิ่งนานวันเข้า ก็ยิ่งเยอะ นำไปเช็ดถูอย่างอื่นก็กระจายเชื้อโรค กระจายแบคทีเรียไปเรื่อยๆ โดยไม่รู้ตัว ทางที่ดี ซักล้างฟองน้ำแล้วจับยัดไมโครเวฟไฟอ่อนสักวันละ 1 นาทีเป็นการฆ่าเชื้อแบคทีเรียสักหน่อยดีกว่า หรือถ้าฟองน้ำนั้นมีกลิ่นแล้ว แนะนำให้เปลี่ยนอันใหม่เลยดีที่สุด
2. ใช้น้ำยาทำความสะอาดผสมกัน
pxhere.com
ถึงแม้ว่าผลลัพธ์จากการใช้น้ำยาทำความสะอาดหลายชนิดจะเหมือนกัน แต่เราก็ไม่ควรนำมันมาผสมกันไม่ว่าจะกรณีอะไรก็ตาม เพราะสารเคมีที่อยู่ในแต่ละผลิตภัณฑ์นั้นก็มีความแตกต่างกันออกไป ในฐานะที่เราไม่มีความรู้ในเรื่องเคมีใดๆ ก็อย่าเสี่ยงดีกว่า เช็ดถูมั่วซั่ว อาจทำให้ต้องมานั่งแก้ไข ซ่อมแซมบ้านในระยะยาวได้นะ
3. ฉีดน้ำยาแล้วเช็ดเลย
pixabay.com
เวลาเราสเปรย์พ่นน้ำยาทำความสะอาดลงไปบนพื้นผิวใด ส่วนใหญ่เรามักจะใช้ผ้าขี้ริ้วเช็ดตามทันที เพราะกลัวน้ำยาเจือจางบ้าง กลัวขึ้นคราบบ้าง หรืออาจจะอยากให้งานเสร็จไวๆ แต่รู้มั้ยว่าน้ำยาทำความสะอาดเหล่านี้ก็ต้องการระยะเวลาในการออกฤทธิ์เหมือนกันนะ วันหลังพ่นเสร็จก็ยืนรอสัก 30 วินาที แล้วค่อยลงมือเช็ดคงไม่เสียเวลามากไปหรอกใช่มั้ย
4. เก็บแปรงขัดห้องน้ำแบบเปียกๆ
pixabay.com
การเก็บแปรงขัดห้องน้ำเอาไว้ในห้องน้ำก็ถือเป็นเหตุผลที่ฟังขึ้น แต่การปล่อยให้ขนแปรงเปียกชื้นอยู่แบบนั้นก็ไม่ต่างอะไรจากการเปิดบ้านให้เชื้อโรคและแบคทีเรียเข้ามาขยายเผ่าพันธุ์เลย ทันทีที่ล้างแปรงขัดห้องน้ำเสร็จเรียบร้อย แนะนำว่าควรนำไปตากให้แห้งก่อน ค่อยนำมาเก็บในตู้แห้งๆ เชื่อเถอะว่ามันดีกว่า
5. ทำความสะอาดโดยไม่ใส่ถุงมือ
www.flickr.com
น้ำยาทำความสะอาดบ้านเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้สำหรับการทำความสะอาดบ้าน ไม่ใช่ผลิตภัณฑ์สำหรับดูแลผิวพรรณ ดังนั้นก็อย่าประมาท ปล่อยให้มันโดนผิวหนังของเราและคิดว่านิดหน่อยคงไม่เป็นไร นึกถึงสิว่าสารเคมีพวกนี้ร้ายแรงถึงขั้นทำให้คราบติดทนฝังแน่นต่างๆ หลุดออกจากผนังได้ แล้วกับผิวหนังของเรามันจะไม่ร้ายแรงได้ยังไงกัน
มาบริหารสุขอนามัยด้วยการเริ่มต้นที่งานบ้านด้วยกันนะ!