ของสำคัญของสาวๆ นอกจากเครื่องสำอางก็เสื้อผ้านี่แหละเนอะ แต่ถ้าซื้อมาสวยๆแล้วไม่รู้จักถนอม ทำความสะอาด อีกไม่นานคอเสื้อกลมๆก็คงกลายเป็นย้วยๆ สีขาวๆมันก็ค่อยๆอมเหลือง เสื้อพาสเทลแปลงร่างเป็นรอยด่างเพราะตัวอื่นสีตกใส่ เราเล็งเห็นปัญหานี้และ Gangbeauty จะมาบอกจ้ะว่าแบบที่เธอทำอยู่ในการซักผ้า แบบไหนผิด ซึ่งผิดในที่นี้ไม่ใช่แค่อาจทำให้เสื้อผ้าพังนะ เครื่องซักผ้าของเธอก็อาจจะไม่รอดเหมือนกัน
1. ไม่แยกผ้า
เชื่อว่าเปิดข้อแรกมา สาวๆหลายคนก็หันหน้าหนีหมดเพราะโดนตัวเองอย่างจัง ก็มันขี้เกียจ เสื้อผ้าเยอะแยะมานั่งแยกซักทีละรอบยังไงไหว ต่อให้ลำบากก็ต้องทำนะจ๊ะ ไม่ใช่แค่สีผ้าที่ต้องสนใจนะ ความจริงต้องแยกประเภทผ้าด้วยซ้ำ
2. คราบบนเสื้อต้องขยี้ให้แหลก!
อันนี้ก็ผิดเว่อร์ ผิดแบบผิดมากๆ ประเภทที่เจอคราบแล้วขยันถูเพราะคิดว่ามันจะหลุด บอกเลยว่ามันทำให้ผ้ายิ่งบาง ยิ่งย้วย ยิ่งใครพลังช้างสารนะ ทำผ้าขาดเป็นรูยังได้ ทางที่ดีควรค่อยๆขยี้ไป ถ้ามันเป็นคราบที่เหนือบ่ากว่าแรงจริงๆ ก็ลองค้นหาวิธีลอกคราบออกด้วยสารนั้นนี้แทนที่จะขยี้ดูบ้าง เกทนะ
3. ผงซักฟอกต้องเอาให้แน่น
เป็นกันล่ะสิที่แบบ กลัวผ้าไม่หอมเลยจัดผงซักฟอกลงเครื่องไปเลยเต็มที่ เอาให้พูน เอาให้เยอะ เดี๋ยวก็ละลายไปกับน้ำแล้ว ขอบอกว่าความเชื่อนี้ผิดนะจ๊ะ ยิ่งเธอใส่ผงซักฟอกเยอะ ก็จะยิ่งมีฟองเยอะ ไอ้ฟองๆนี่แหละตัวดี เพราะถ้ามันได้เกาะผ้าเมื่อไหร่นะ มันจะดักจับเอาฝุ่นมาไว้ในตัวมันด้วย แล้วนึกภาพตอนเสื้อผ้าเธอแห้ง อี๋
4. หย่อนลงเครื่องไปเถอะจะซิปไม่ซิป
อะ อันนี้ก็เป็นกันหมดแหละถูกมะ แต่ให้นึกภาพนะ ถ้าสมมติเธอหย่อนแจ๊คเกตซิปหนาเบ้งตัวหนึ่งลงไปในเครื่องที่มีแต่เสื้อยืดบางๆ เธอคิดว่าฟันของซิปจะเกี่ยวผ้าเธอเป็นรูได้มั้ยจากการม้วนกันไปพันกันมาตามการทำงานของเครื่องน่ะ เอ้อ ก่อนจะซัก อันไหนมีซิปก็รูดซิปปิดให้เค้าหน่อย โอเคนะ
5. กระดุมเสื้ออยู่แบบไหนก็แบบนั้น
นี่ก็อีกกรณี คล้ายๆข้างบนคือสักแต่จะหย่อนๆลงเครื่อง จะรีบกดสตาร์ทแล้วจะไปนอนดูซีรี่ส์ต่อแล้ว กระดุมบนเสื้อเนี่ยนะ โดยเฉพาะส่วนที่เอาไว้เชื่อมสาบเสื้อเนี่ยนะ เธอต้องสำรวจดูก่อนว่ามันติดกันอยู่มั้ย ต้องแกะออกนะเฮ้ย พังนะเฮ้ย ขอเตือน
6. กลัวไม่ขาว อัดน้ำยาซักผ้าขาวให้สุด
นี่ก็ห้ามมมมมมมมมม ขึ้นชื่อว่าน้ำยาอะ น่ากลัวมะ เจ้าพวกน้ำยาซักผ้าขาวเนี่ยนะ นางค่อนข้างอันตรายต่อเนื้อผ้าอยู่เหมือนกัน เพราะหลักการของนางคือกัดกร่อนคราบบนเสื้อไง คล้ายๆเวลาเราขัดขี้ไคลแหละ ขัดเยอะแสบมะ เนื้อผ้าก็เช่นกัน
7. ชุดว่ายน้ำก็เสื้อผ้า ซักเครื่องด้วย
ชุดว่ายน้ำ หรือเสื้อผ้าอะไรก็แล้วแต่ที่ผลิตจากผ้าสเปนเด็กซ์ (นึกไม่ออกก็เนื้อผ้าชุดว่ายน้ำนั่นแหละ) ห้ามซักในเครื่องซักผ้าเด็ดขาด เนื้อมันจะเสื่อม ให้ซักมือด้วยน้ำเย็นก็พอ โอเค๊
8. ปั่นผ้ามาสักพัก พักเครื่องแป๊บละกันเดี๋ยวค่อยกดปั่นต่อ
โอโหนี่ก็คนดีศรีอยุธยามากเหลือเกิน มีความเห็นอกเห็นใจเครื่องซักผ้า ให้พักหายใจด้วยนิ คือมันไม่ใช่ไงติ๋ม นึกภาพว่าเครื่องเค้ากำลังทำงานอยู่อะ กำลังไฟ อะไรต่อมิอะไรมันกำลังได้ที่อะ แล้วอยู่ดีๆเธอไปกดหยุดมันเงี้ย มันก็หยุดหมดไง พอกดปั่นใหม่ก็ต้องใช้แรงเยอะขึ้นเพื่อที่จะไต่ไฟให้กลับมาที่จุดเดิมที่มันค้างไว้เมื่อกี้ เปลืองไฟไม่พอ เครื่องช็อต
9. หมอนกับผ้านวมปั่นในเครื่องซักผ้า รอบเดียวพอ
อันนี้ความจริงก็ทำได้นะ แต่เธอทนได้มั้ยกับการต้องนอนหนุนบนหมอนที่ข้างในยังมีแต่ฟองจากผงซักฟอกแบบฟ่อดเลย วัสดุที่อัดอยู่ในหมอนมันเก็บฟองอะ ถ้าจะใช้เครื่องปั่นจริงๆ ต้อง 2 รอบนะจ๊ะ เอาสะอาดก็ให้มันสะอาดให้สุดสิโว้ย
10. ซักผ้าเช็ดตัวก็ใส่น้ำยาปรับผ้านุ่ม
อะถูก ผ้าเช็ดตัวไม่หอม ใครจะอยากเอามาเช็ดตัวตอนเพิ่งอาบน้ำมาหอมๆอะ แต่ไอ้น้ำยาปรับผ้านุ่มนี่นะ ส่วนประกอบมันทำให้นุ่มไง ทีนี้ผ้าเช็ดตัวอะ ผ้าขนหนูมันต้องสากหน่อยเว้ย จะได้เช็ดตัวแล้วแห้ง เอาเป็นว่าถ้าเปลี่ยนผ้าเช็ดตัวบ่อยๆได้ก็ตามใจเธอละกัน เห้อ
11. ซักทีเดียว ประหยัดไฟ
กองเก็บไว้เป็นอาทิตย์ วันหยุดจริงๆค่อยมาปั่น แต่ก็วันหยุดอะ ยังขี้เกียจอยู่ ปั่นทีเดียวเลยเนาะ ความคิดแบบนี้ลบทิ้งไปได้ละนะเธอนะ ปั่นเยอะทีเดียวมีแต่ข้อเสียนะจ๊ะ นอกจากผ้าจะไม่สะอาด เครื่องซักผ้ายังทำงานหนักมากเว่อร์ จะเปลืองเวลาสักนิด ทยอยซักหน่อย หรือจะเปลืองตังค์เป็นก้อนเพื่อซื้อเครื่องใหม่ เลือก!
12. เครื่องซักผ้าไม่ได้ใช้ก็คือไม่ได้ใช้ ยูโน้ว?
อันนี้ผิดแบบมหันต์ ผิดแบบน่าตบน่าตีให้ช้ำใน เครื่องซักผ้า ต่อให้ไม่มีจิตใจแต่นางก็มีร่างกายเว้ยเธอ นานๆทีเราทำความสะอาดนางบ้างก็ได้นะ นึกภาพแบบนี้ละกัน เครื่องทำความสะอาดผ้าที่แม้แต่ตัวเองยังไม่สะอาด แล้วผ้าเราที่ใส่ลงไปมันจะสะอาดมั้ยล่ะเธอ
ใครยังทำอยู่ ชักมือออก เปลี่ยนวิธีเดี๋ยวนี้นะ!