อยากลดความอ้วน แต่ก็ยากเหลือเกินที่จะต้านทานความหิวของตัวเองได้ แอบสงสัยกันมั้ยว่าทำไมคนที่ลดน้ำหนักสำเร็จถึงอดทนไม่กินจุบจิบได้ในยามที่หิว Gangbeauty เฉลยง่ายๆ พวกเขาเรียนรู้ที่จะเลือกกินได้ถูกต้องยังไงล่ะ และนี่คืออาหารประเภทที่พวกเขามักจะเลี่ยงในระหว่างลดน้ำหนัก เพราะมันเป็นอาหารประเภทที่ยิ่งกินก็ยิ่งหิว!
1. ขนมปังเนื้อสีขาว เป็นขนมปังที่ทำจากแป้งสาลีสีขาว ซึ่งแปรรูปมาจากข้าวสาลีที่ถูกขัดสีจนจมูกข้าวอันเป็นแหล่งไฟเบอร์หายไป ดังนั้นแป้งสาลีจึงเหลือแค่แป้งกับน้ำตาลล้วนๆ และเมื่อเราทานเข้าไป ทั้งสองสิ่งจะเข้าไปขัดขวางระดับอินซูลิน ส่งผลให้เกิดความอยากอาหารไม่รู้จบ โดยจากการศึกษาพบว่าผู้ที่ทานขนมปังเนื้อสีขาวเป็นประจำ เกือบครึ่งจะอยู่ในภาวะน้ำหนักเกิน เป็นโรคอ้วนกันเพียบ ข้อนี้รวมถึงเส้นพาสต้าสีขาวด้วยนะ
maxpixel.freegreatpicture.com
2. น้ำผัก น้ำผลไม้ เหมือนจะดีใช่มั้ย แต่ความจริงแล้วน้ำตาลทั้งนั้น ทั้งน้ำตาลธรรมชาติจากผลไม้ ไหนจะน้ำตาลปรุงแต่งรสในแบบสำเร็จรูปอีก ดื่มเข้าไปไม่อยู่ท้อง แถมยังหิวหนักกว่าเดิม เพราะน้ำตาลในเลือดสูงต่ำ ขึ้นลงฮวบฮาบ ถ้าอยากดื่มจริงๆ เปลี่ยนเป็นคั้นสด แทนการปั่นจะดีกว่า กากใยจากผลไม้จะยังคงอยู่ อิ่มท้องได้มากกว่า
pixnio.com
3. ฟาสต์ฟู้ด เป็นอาหารสุดจำเป็นสำหรับโลกสมัยใหม่ที่อะไรๆ ก็ต้องเร็วไปหมด แต่เมื่อทานฟาสต์ฟู้ดไปมื้อนึง การันตีได้ว่ามันจะไม่จบแค่นั้น เพราะมันเป็นอาหารที่ไม่มีกากใย เธอจะไม่มีทางอิ่มท้องได้ยาวนาน เกลือสูงๆ ก็จะยิ่งทำให้กระหายน้ำ เร่งเวลาให้หิวเร็วกว่าเดิม อีกทั้งยังทำให้ร่างกายภายในต้องทำงานหนักเพราะมีแต่สารอาหารไม่ดี เช่น ไขมันทรานส์ที่จะทำให้ลำไส้ต้องทำงานหนัก เป็นต้น
www.pexels.com
4. ขนมขบเคี้ยวรสเค็ม ไม่ว่าจะมันฝรั่งทอด หรือเพรทเซลต่างๆ ทานเข้าไปจะโดนย่อยได้ไวมาก ระดับอินซูลินของเราจะเกิดความแปรปรวน และเกิดเป็นความอยากอาหารไม่จบไม่สิ้น เพราะความเค็มจะทำให้สมองสั่งการ กระตุ้นให้ร่างกายอยากหวาน พอทานหวานเข้าไป อาหารรสหวานก็สร้างความรู้สึกหิวต่อไปอีก แล้ววันนี้จะได้หยุดปากตอนไหนล่ะเนี่ย
pixabay.com
5. เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ นอกจากจะทำให้สุขภาพร่างกายของเราแย่ลง ยังเพิ่มพูนความหิวให้มากขึ้นด้วย โดยผลจากงานวิจัยหนึ่ง พบว่าการดื่มเข้าไปแค่ 3 แก้วเท่านั้น ระดับเลปตินจะเพิ่มสูงจนทำลายฮอร์โมนตัวหนึ่ง ซึ่งส่งผลให้เธอหิวขึ้นมากกว่า 30% อีกทั้งยังไปกำจัดคาร์โบไฮเดรตที่สะสมในร่างกาย หรือที่เรียกว่าไกลโคเจนให้หายไป ทำให้ร่างกายมีความต้องการคาร์โบไฮเดรต สุดท้ายก็ต้องหาข้าวหาแป้งเติมเข้าไปทดแทนใหม่ซ้ำอีก
www.jble.af.mil
6. ผงชูรส สามารถทำลายการทำงานของเลปตินที่จะช่วยทำให้เรารู้สึกอิ่มได้ ดังนั้นการทานผงชูรสเข้าไป ก็แปลว่าเธอจะต้องเกิดความหิวตามมาอย่างหยุดไม่อยู่ จากการศึกษาของสเปน ที่มีการตีพิมพ์ลงในวารสาร Obesity ก็ได้กล่าวเอาไว้ด้วยว่าผู้ที่กินอาหารปะปนผงชูรสในปริมาณสูงมากติดต่อกันสามครั้ง มีแนวโน้มว่าน้ำหนักจะพุ่งขึ้นมากกว่าคนที่ทานแต่น้อย ชัดเจนแล้วนะ
commons.wikimedia.org
7. ซูชิ เป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพนะ แต่มันดันไม่ดีตรงที่ทำให้เราหิวเร็วนี่ล่ะ เพราะในซูชิส่วนใหญ่แล้วก็เป็นข้าว ไม่ค่อยได้ต่างอะไรกับการทานเส้นพาสต้าสีขาว ขนมปังสีขาวเลย ยกตัวอย่างเมนูที่ข้าวเยอะๆ ก็เช่น แคลิฟอร์เนียโรล รู้หรือไม่ว่ามันเทียบเท่ากับการทานขนมปังสีขาวสามแผ่นเชียวนะ อีกทั้งยังไม่มีกากใย ทำให้ไม่อยู่ท้องอีกด้วย
www.flickr.com
8. สารให้ความหวานแทนน้ำตาล มักปะปนอยู่ในอาหารที่การันตีว่าน้ำตาลน้อย แต่มันก็เหมือนสะพานที่ทอดให้เราเดินไปหาของกินอย่างอื่นแทนอยู่ดี เพราะสารให้ความหวานแทนน้ำตาลเหล่านี้จะทำให้เราหิวขึ้น กินเยอะขึ้น จากการกระตุ้นเซลล์สมองให้รู้สึกเหมือนทานน้ำตาลเข้าไป ในที่สุดแล้ว อินซูลินก็แปรปรวนอยู่ดี
www.flickr.com
9. ซีเรียล เป็นมื้อเช้าที่ทานง่าย เทนมก็จบ แต่ส่วนใหญ่ทำจากแป้งสาลีสีขาวผสมน้ำตาล จึงมีผลต่อเนื่องให้ระดับอินซูลินของเราแปรปรวน แพทย์หญิง Decotiis กล่าวว่า การทานคาร์โบไฮเดรตปริมาณมากเข้าไปในตอนเช้า จะทำให้ระบบการเผาผลาญมีปัญหา เพราะเป็นช่วงที่มีระดับคอร์ติซอลสูงสุด เมื่อระบบเผาผลาญอ่อนแรง น้ำตาลในเลือดก็สูง ร่างกายก็จะหิวและอ่อนล้า ซึ่งถ้าจำเป็นต้องทานจริงๆ ให้เลือกซีเรียลที่ทำจากธัญพืชผสมไฟเบอร์อย่างน้อย 5 กรัม น้ำตาลน้อยกว่า 5 กรัมต่อ 1 จานจะดีกว่า
maxpixel.freegreatpicture.com
10. พิซซ่า ต่อให้มีโปรโมชั่นซื้อถาดแถมถาด และต่อให้เธอจะทานมันเข้าไปจนหมดทุกถาด อย่างไรก็จะไม่อิ่ม เพราะมันมีแป้ง น้ำตาล ชีส ที่ทำให้ระดับเลปตินลดลง เกิดเป็นความหิวที่ก่อตัวได้ในเวลาอันรวดเร็ว ถ้าอยากทานจริงๆ แนะนำให้ทำทานเองดีกว่า หาซื้อแป้งพิซซ่าที่มาจากธัญพืช โรยหน้าด้วยเนื้อสัตว์ไขมันต่ำเข้าไว้ ใส่ชีสนิดเดียวพอ จะอยู่ท้อง และไม่หิวเร็วเหมือนทานพิซซ่าตามร้านล่ะ
อิ่มแล้วจะหยุดปาก หรือจะกินต่อก็อยู่ที่เธอจะเลือกแล้วนะ!