วันนี้ gangbeauty มาแนะ 10 วิธีการทานอาหารแบบที่ผิดๆที่คุณควรเปลี่ยนพฤติกรรมด่วน เพื่อเป็นการดูแลร่างกายและระบบย่อยอาหาร เพราะวิธีการกินแบบผิดๆเสี่ยงมีอาการป่วยที่คุณเองก็คาดไม่ถึง !!!
1. กินอาหารไม่ตรงเวลา จะเป็นสาเหตุของโรคกระเพาะอาหารอักเสบ รวมทั้งอาจเกิดภาวะกรดไหลย้อน ระบบการย่อยอาหารไม่ดี ทำให้ไม่มีแรง ขาดสมาธิ ปวดศีรษะ และอาจเป็นลมได้
2. กินอาหารเยอะมาก ในแต่ละวันหากกินอาหารมากจนร่างกายใช้ไม่หมด อาจจะส่งผลให้เกิดโรค เช่น โรคอ้วน มีไขมันส่วนเกิน โรคเบาหวาน ฯลฯ
3. ไม่กินอาหารเช้า นอกจากจะทำให้ร่างกายไม่มีกำลังในการทำงานหรือเรียนหนังสือแล้ว ยังทำให้เสี่ยงจะเป็นโรคสมองเสื่อมด้วย เนื่องจากมีสารอาหารไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ ประสิทธิภาพการทำงานของสมองลดลง
4. ชอบเลือกกินตามใจ ไม่ชอบกินผักก็ไม่กิน ผลไม้ก็เลือกอีกกินได้ไม่กี่อย่าง น้ำเปล่าไม่ค่อยดื่มต้องเป็นพวกน้ำหวานใส่น้ำตาลใส่นม ยิ่งขนมหวาน เค้ก คุกกี้ กินได้มากเชียว ระวังจะขาดสารอาหาร ร่างกายอ่อนแอ เจ็บป่วยง่าย
5. กินเร็ว เคี้ยวไม่ละเอียด วิธีการกินแบบเคี้ยวไม่กี่ทีก็กลืนลงไปจะสร้างภาระให้แก่กระเพาะอาหารทำงานหนัก ทำให้ต้องใช้เวลาในการย่อยอาหารมากขึ้น ร่างกายก็ดูดซึมสารอาหารไปใช้ได้ไม่ดี
6. กินข้าวหนึ่งคำ ดื่มน้ำหนึ่งคำ วิธีการกินแบบนี้อาจทำให้อาหารที่ยังเคี้ยวไม่ละเอียดดีถูกน้ำพาลงไปด้วย นอกจากจะเป็นผลเสียต่อระบบการย่อยอาหารแล้ว ยังอาจทำให้เกิดอาการสำลักได้
7. พูดคุยทั้งที่อาหารเต็มปาก หากเป็นจังหวะที่ลิ้นปิดระหว่างหลอดลมกับทางเดินอาหารไม่สนิท อาหารอาจตกลงไปในหลอดลมแล้วสำลักออกมาไม่ได้ จะทำให้หลอดลมอุดตันจนหายใจไม่ออกเป็นอันตรายถึงชีวิต
8. กินแต่อาหารสำเร็จรูป วิธีการกินนี้อาจช่วยประหยัดเวลา สะดวกและรวดเร็ว แต่ก็มีข้อเสียว่าถ้ากินเป็นประจำอาจเกิดการสะสมของโซเดียมและสารเคมีที่ช่วยแต่งกลิ่นหรือรสชาติอาหาร ซึ่งไม่ดีต่อสุขภาพในอนาคต
9. กินอาหารซ้ำๆ บางคนกินแต่อาหารแบบเดิมทุกวัน ไม่ค่อยเปลี่ยนเป็นอาหารอย่างอื่นบ้าง จะมีผลต่ออารมณ์ทำให้มีความตึงเครียดสูงเพราะได้กินแต่รสชาติเดิม ไม่มีประสบการณ์ต่อรสชาติใหม่ๆ และอาจขาดสารอาหารด้วย
10. นิยมกินอาหารรสจัด บางคนติดกินอาหารรสเค็ม รสเผ็ด รสหวาน หรือรสเปรี้ยว ไม่ว่าจะเป็นอาหารประเภทไหนก็เน้นรสจัดจ้านที่ตัวเองชอบไว้ก่อน วิธีการกินเช่นนี้อาจนำมาซึ่งสารพัดโรค เช่น เบาหวาน ความดัน โรคไต โรคอ้วน ฯลฯ