เพื่อความสะดวกในการติดต่อสื่อสาร จึงไม่น่าแปลกใจถ้าจะเห็นเด็กอนุบาล คนแก่ คนรวย หรือคนจนต่างก็มีโทรศัพท์มือถือไว้ใช้ ปัจจุบันโทรศัพท์มือถือ ถูกพัฒนาให้เป็นมากกว่าเครื่องมือสื่อสาร หรือที่เรียกว่าสมาทโฟน มีความบันเทิงครบวงจรอัดแน่นในเครื่องเดียว หลายคนจึงใช้งานมันอย่างหนักเกินกว่าที่ควร อุณหภูมิเครื่องสูง สุดท้ายหนีไม่พ้นแบตเสื่อม หรืออาจถึงขั้นระเบิด ก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิตเเละทรัพย์สินได้ ถ้าเคยคิดว่ามือถือระเบิดเป็นเรื่องไกลตัว คุณจะต้องเปลี่ยนความคิด เมื่อได้อ่านข้อมูลดีๆที่ GangBeauty นำมาฝากกันในวันนี้ค่ะ
7 พฤติกรรมเสี่ยง ที่ทำโทรศัพท์มือถือระเบิด คุณเองอาจเคยทำ
1. ชาร์จแบตมือถือบ่อย
สาเหตุหนึ่งที่ทำให้แบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือเสื่อมสภาพเร็วขึ้น ทำให้เสี่ยงเกิดการระเบิดได้
2. ใช้งานอย่างหนัก
ต่อเนื่องเป็นเวลานานจนเครื่องร้อน ถ้าโชคดีอาจจะเเค่เเบตเตอรี่เสื่อม เเต่ถ้าโชคร้ายเตรียมเก็บซากระเบิดได้เลย
3. สายชาร์จปลอม
ควรใช้สายชาร์จแบตที่เป็นของเเท้ได้มาตราฐานจากโรงงาน เพื่อลดความเสี่ยงไฟฟ้าลัดวงจร หรือปริมาณไฟที่ไม่เหมาะสม
4. วางไว้ใกล้กับเครื่องใช้ไฟฟ้า
หลีกเลี่ยงการวางมือถือไว้ใกล้กับเครื่องใช้ไฟฟ้า โดยเฉพาะชนิดที่กินไฟสูง เช่น ไมโครเวฟ ตู้เย็น หรือทีวี เพราะคลื่นเเม่เหล็กจะทำให้การทำงานของมือถือผิดปกติ
5. ใส่กระเป๋าที่แคบและแน่น
อย่าคิดว่าแค่การเก็บมือถือไว้ในกางเกงของคุณ จะไม่ส่งผลต่อมือถือ เพราะแรงบีบอัดของกางเกงอาจทำให้ตัวเครื่องบิดเบี้ยว แตกง่าย และอาจส่งผลกระทบไปยังแบตเตอรี่ได้ ทางที่ดีควรใส่ในช่องกระเป๋าอื่นที่มีแรงบีบอัดน้อยกว่านี้จะดีกว่าค่ะ
6. แรงกระแทก
หากคุณเป็นคนซุ่มซ่าม หรือเผลอทำโทรศัพท์มือถือตกกระแทกบ่อยครั้ง แนะนำว่าให้รีบเก็บเงินซื้อเครื่องใหม่ เพราะการตกกระเเทกบ่อยๆอาจทำให้ชิ้นส่วนภายในชำรุด ง่ายต่อการระเบิด
7. ทิ้งมือถือไว้ในรถ
หยุดพฤติกรรมการวางโทรศัพท์มือถือของคุณทิ้งไว้ในรถ โดยเฉพาะหากจอดรถไว้กลางแดด อุณหภูมิที่สูงจะทำให้เครื่องร้อน แบตเสื่อม และตู้มในที่สุด
ใครจะรู้ว่าคราวหน้าคุณอาจไม่โชคดี มือถืออาจจะระเบิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ทางที่ดีหยุดพฤติกรรมเสี่ยงเหล่านี้ดีกว่านะคะ