ช่วงนี้ก็ยังอยู่ในช่วงหน้าฝน ที่พายุก็เข้ามาไม่หยุด จนตอนนี้แทบไม่มีวันไหนที่ฝนไม่ตก และตกทีก็ตกหนักมาก ตกไม่หยุด แต่หลายคนก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะออกจากบ้าน เพื่อไปทำธุระต่างๆ และเมื่อเราต้องขับรถออกไป แน่นอนวิสัยทัศน์การมองเห็นย่อมไม่100%เหมือนกับตอนที่ฝนยังไม่ตก ดังนั้นเวลาที่เราขับรถตอนฝนตกต้องใช้ความระมัดระวังมากกว่าปกติหลายเท่า ต้องมีสมาธิอย่างมากโดยเฉพาะถ้าฝนตกหนัก วันนี้ gangbeauty มี 6 ข้อควรระวัง ขับรถตอนฝนตกหนัก!!
ภาพจาก pixabay
1.ควรหลีกเลี่ยงถนนที่เป็นแอ่งน้ำ
เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุไม่คาดฝันได้เช่นกัน โดยเฉพาะอาการยางเหินน้ำ ซึ่งหากยางรถไม่สามารถรีดน้ำออกจากยางได้ทัน ก็จะทำให้หน้ายากและดอกไม่ได้สัมผัสกับพื้นถนน ทำให้ยางหมุนอยู่บนฟิล์มน้ำแทนอันเป็นเหตุให้รถเสียการควบคุม
ภาพจาก pixabay
2.ใช้สัญญาณไฟให้เหมาะสม
การขับรถขณะฝนตกนั้น ควรเปิดไฟหน้าควบคู่ไปด้วย แม้ว่าจะเป็นเวลากลางวันก็ตาม ทั้งนี้ เพื่อให้รถคันอื่นสามารถสังเกตเห็นรถของคุณได้ง่ายขึ้น ช่วยเพิ่มความปลอดภัย ส่วนไฟตัดหมอกหน้า-หลังนั้น ควรเปิดเมื่อฝนตกหนักจริงๆ (ใช้ที่ปัดน้ำฝนความเร็วสูงสุด) และควรรีบปิดเมื่อฝนเบาลงหรือหยุดแล้ว
ภาพจาก pixabay
3.ไม่ขับรถเร็วจนเกินไป
เพราะด้วยทัศนะวิสัยในการมองไม่ชัดเจนเหมือนในช่วงเวลาปกติ จึงไม่ควรขับเร็วซึ่งหากเกิดเหตุไม่คาดคิดด้านหน้า เช่น มีการเบรกกะทัน
ภาพจาก pixabay
4.ไม่ควรเบรกแบบกะทันหัน
ด้วยเพราะพื้นถนนมีความลื่นหรือมีน้ำขังอยู่บนท้องถนน การเบรกอย่างกะทันหัน อาจส่งผลให้เบรกไม่อยู่หรือเสียการควบคุมจากการลื่นไถลจนไปชนรถด้านหน้าได้
ภาพจาก pixabay
5.เว้นระยะคันหน้าให้มากกว่าเดิม
สภาพถนนที่ลื่นนั้น จะทำให้ระยะเบรคเพิ่มขึ้นกว่าปกติ ทางที่ดีหากขับขี่ด้วยความเร็ว ก็ควรจะเว้นระยะห่างคันหน้าให้มากขึ้น หากเกิดเหตุฉุกเฉินจะได้สามารถหยุดรถได้ทันท่วงที
ภาพจาก pixabay
6.การลดฝ้าที่กระจก
สิ่งที่เรามักจะเจอเมื่อขับรถหน้าฝนอีกเรื่องคือ “ฝ้าขึ้นกระจกหน้าหรือหลัง” ซึ่งก็เกิดจากอุณภูมิในรถเราร้อนกว่าอากาศภายนอกที่เย็นกว่าที่อาจเกิดจากการที่เราปรับแอร์ให้ร้อนขึ้นหรือบางคนปิดแอร์ขับรถ ให้แก้ไขด้วยการเปิดปุ่มไล่ฝ้ากระจกหลัง เพื่อลดฝ้าเกาะกระจกและอย่าปิดแอร์ให้ปรับแอร์ให้เย็นขึ้นอีกเล็กน้อยก็ช่วยลกฝ้าได้แล้วค่ะ