คำพูดที่ว่า “กินอย่างไรมักได้อย่างนั้น” ถือเป็นเรื่องจริงที่สุด เพราะถ้าเรากินอาหารที่มีประโยชน์ร่างกายเราก็จะแข็งแรง แต่ถ้าเรากินอาหารที่ไม่ประโยชน์ หรือมีวิธีการกินอาหารที่ผิดวิสัย เช่น กินเค็มมากไป กินหวานติดเติมน้ำตาล พฤติกรรมเหล่านี้ถือเป็นการกินที่ทำร้ายร่างกาย และวันนี้ gangbeauty มาเตือนถึง 7 พฤติกรรมต่อไปนี้ที่คุณควรหลีกเลี่ยงเพื่อสุขภาพร่างกายของคุณเอง !!!
1. รับประทานหวาน
ไม่ได้หมายถึงห้ามเด็ดขาดเลยครับเพียงแค่ขอให้ ลดหวาน ลงเพื่อจะได้คงสุขภาพที่ดีไว้นานๆ ทั้งอาหาร ขนมหวานและเครื่องดื่มครับ แค่นี้รอบพุงก็ไม่เกิดอาการปลิ้นแล้ว
2. กินไม่เคี้ยวให้ละเอียด
สังคมยุคใหม่ต้องรีบกินจึงทำให้เกิดโรคไข้เจ็บตามมาจากอาหารที่ เคี้ยวน้อย ขอให้ท่านที่รักยอมเสียเวลาสักนิด ตั้งใจเคี้ยวสักคำละ 10 ครั้งจนติดเป็นนิสัยจะทำให้ได้สุขภาพดีทั้งสมองและทางเดินอาหาร
3. กินดึก
การกินมากกว่า 3 มื้อหรือเพิ่มมื้อพิเศษยามค่ำเข้ามาจะพาให้สุขภาพ แย่ลงเร็วครับ เพราะร่างกายถูกดีไซน์มาให้พักตอนกลางคืน คนที่กินดึกจะเสี่ยงต่อโรคอ้วน นอนไม่หลับ กรดไหลย้อนและอีกมาก การกินดึกจึงเป็นบ่อนทำลายสุขภาพอย่างเร็วยิ่งทางหนึ่ง
4. กินแล้วนิ่ง
กินแล้วไม่ขยับเข้าสู่ภาวะจำศีลหรือนั่งแปะอยู่แต่กับเก้าอี้ทำงานหลังอาหารมื้อใหญ่ล้วนเป็นภัยต่อสุขภาพ อย่างร้ายแรงครับ โรคอ้วน ไขมันในเลือดสูง ความดันโลหิตสูงและโรคหัวใจจะถามหา ขอให้หาทางออกกำลังกายหรือขยับตัวบ้างสร้างให้ติดเป็นนิสัยจะดีที่สุด
5. กินอิ่มแล้วอิ่มอีก
การบริโภคอาหารด้วยความ “อยาก” มากกว่า “หิว” หรือการกินบุฟเฟ่ต์ที่ต้องพยายามกินทรมานมากกว่าอร่อยบ่อยๆ เป็นอันตรายต่อสุขภาพ โดยรวม นอกจากทำให้ร่างกายติดนิสัยการกินดุแล้วยังทำให้ได้รับแคลอรีเกินความต้องการต่อวันอย่างน่าตกใจ
6. กินซ้ำ
วิถีชีวิตคนทำงานมักเกิดอาการกินซ้ำได้บ่อยครับ เป็นมนุษย์กะเพราไก่ มนุษย์ข้าวไข่เจียวหรือมนุษย์บะหมี่ซอง กินเข้าไปก็ยิ่งไปซ้ำเติมสุขภาพให้ได้รับแต่สารอาหารซ้ำๆ ลองนึกดูว่าถ้ามีพิษก็จะได้พิษสะสมซ้ำๆเช่นกัน
7. ปรุงก่อนกิน
ท่านที่ชอบเติม เปรี้ยว เค็ม หวาน เกิดอาการติดปรุง ขอให้ค่อยๆเปลี่ยนดีกว่าครับ เพราะวันหนึ่งคนเราไม่ควรได้น้ำตาลเกิน 6 ช้อนชา ส่วนน้ำปลานั้นก็ไม่น่าเกิน 3 ช้อนชาครับ ทั้งนี้คือรวมทั้งที่มีอยู่ในอาหารนั้นๆแล้วด้วย ดังนั้นจะเห็นว่ายิ่งปรุงเพิ่มยิ่งเสี่ยง
ภาพปกประกอบจาก : pinterest.com