อากาศบ้านเราออกแนวร้อนชื้น บางครั้งการที่เราโดนฝนเพียงเล็กน้อยแต่ไม่ใส่ใจและมองว่ามันเป็นแค่ฝนธรรมดานั่นอาจส่งผลเสีย ต่อสุขภาพและความสวยได้เหมือนกันนะ ทั้งใบหน้า เส้นผม เพราะสิ่งสกปรกที่มากับฝน โดยเฉพาะคนที่อาศัยอยู่ในเมืองก็อย่าได้วางใจ !!
1. อย่าตากฝน
บางคนคิดว่าการตากฝนเพียงเล็กน้อยอาจไม่มีผลกระทบอะไร แต่อยากให้รู้ไว้ก่อนว่าฝนในปัจจุบันนี้ไม่สะอาดเหมือนแต่ก่อน เพราะมลพิษในอากาศมีมากเหลือเกินทำให้ฝนมีฤทธิ์เป็นกรด สิ่งนั้นจะเป็นตัวการทำลายผิว ถ้าขืนยังไม่แคร์ได้เสียใจทีหลังแน่
2. ใช้โฟมล้างหน้าเป็นประจำทุกครั้ง
บางคนบอกว่าเราไม่ได้แต่งหน้า คงไม่จำเป็นต้องใช้โฟมล้างหน้าก็ได้ แต่บางครั้งเรากลับลืมไปว่าช่วงหน้าฝนที่อากาศชื้นก็ทำให้เกิดสิ่งสกปรกอุดตันได้ที่รูขุมขนเช่นกัน เพราะฉะนั้นเราจึงควรใช้คลีนซิ่งโฟมล้างหน้าทำความสะอาดผิว ก่อนล้างหน้าเป็นประจำทุกวัน
3. ดื่มน้ำให้เพียงพอในแต่ละวัน
การดื่มน้ำเป็นสิ่งจำเป็นอยู่แล้วสำหรับทุกคน การที่เรามีผิวพรรณสดใสเปล่งปลั่งก็อาศัยน้ำนี่แหละเป็นตัวช่วย ดื่มน้ำให้ได้วันละ 8-10 แก้วจะได้ช่วยคืนความสดใสให้แก่ผิว
4. สระผมทันทีหลังโดนฝน
ถึงจะบอกว่าเมื่อคืนสระผมไปแล้ววันนี้โดนฝนก็ไม่ควรเว้น อย่างที่บอกไปตั้งแต่ต้นว่าฝนมีฤทธิ์เป็นกรดเพราะฉะนั้นเมื่อมีมันอยู่บนเส้นผมก็ไม่ควรจะปล่อยทิ้งไว้ให้เป็นอันตรายต่อสุขภาพผมหรือว่าสุขภาพผิวของเรา
5. หลีกเลี่ยงการปล่อยให้ผมชื้นทั้งคืน ควรเป่าหรือเช็ดผมให้แห้ง
สำหรับใครที่โดนฝนจนเส้นผมเปียกชื้นอยู่แล้วล่ะก็ การเลือกที่จะสระผมหลังจากโดนฝนคือการป้องกันโรคหวัดที่ดีที่สุด เพราะหากว่าคุณปล่อยไว้ ศีรษะจะได้รับความเปียกชื้นเป็นเวลานานตลอดทั้งคืน แถมยังส่งผลให้เมื่อตื่นมาในตอนเช้า ผมฟูยุ่งเหยิงถึงขีดสุดอีกด้วย ทั้งยังเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดเชื้อรา ทำให้ผมร่วงมากกว่าเดิม
6. เลือกผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผมให้ดี
ไม่เลือกผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมที่มันเยิ้ม ส่วนใหญ่ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมมักจะมีส่วนผสมของน้ำมัน แต่ในช่วงฤดูฝนนี้การใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมเหล่านี้อาจจะทำให้ผมของเรามันเยิ้มและดูน่าเกลียดไปเลยก็ได้หากว่าเราต้องตากฝน การเลือกผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมที่ไม่มีความมันหรือไม่มีส่วนผสมของน้ำมันจะทำให้ผมของสาวๆ มีน้ำหนักและไม่ต้องเสียลุคหากผมเปียกด้วยค่ะ