ชราอย่างมีความสุข… อยู่ให้ลูกหลานเคารพรักมิใช่อยู่ให้ลูกหลานรังเกียจ
จงแก่อย่างมีคุณค่า… จงชราอย่างมีคุณภาพ อยู่ไปนานๆให้ลูกหลานเคารพรัก… มิใช่อยู่ให้ลูกหลานรังเกียจ จนต้องหนีหาย อย่าแก่เพียงเพราะกินข้าว เฒ่าเพราะอยู่นาน เมื่ออายุมากขึ้นจงมีความสุขมากขึ้นตามอายุ
? เมื่ออายุมากขึ้นต้องรู้จักวางมือ
คุณไม่มีทางทำงานไปได้ตลอดชีวิต หรือ คิด ดูแลลูกหลานไปจนวันสุดท้ายของพวกเขาได้ ดังนั้นต้องรู้จักวางมือ ลูกหลานมีบุญวาสนาและทางเดินของลูกหลาน หากคิดแทนทำแทนไปเสียหมด คุณเหนื่อยตลอดชาติ วันหนึ่งที่คุณจากไปพวกเขาจะมีชีวิตอยู่ต่อยังไง…? การรู้จักวางมือคือการฝึกเชื่อใจในลูกหลาน และเป็นการส่งเสริมลูกหลานไปในตัว อย่าให้เขาด่าว่าเก่งแต่รุ่นพ่อแม่ แต่ลูกหลานไม่เอาไหน…!
? เมื่ออายุมากขึ้นต้องรู้จักปล่อยวาง
ต้องรู้จักปล่อยวางเรื่องราวบางอย่าง ที่ควรวางต้องรู้จักปล่อย เพราะใจของคนเราแบกรับได้จำกัด อย่าเอาแต่คับแค้นฝังใจ ปล่อยวางตำแหน่งฐานะที่เคยดำรง ปล่อยวางชื่อเสียงสักการะที่เคยครอบครอง ปล่อยวางอดีต เรียนรู้ในการใช้ชีวิตในปัจจุบัน เป็นสุขได้ในวัยชรา
? เมื่ออายุมากขึ้นต้องรู้จักตัดใจ
บางสิ่ง บางอย่าง… เมื่อสูญเสียไปแล้วก็อย่าได้ยึดผูก คิดให้ได้ว่าเดิมทีมันก็ไม่ได้เป็นของคุณ และ วันสุดท้ายในชีวิตคุณก็เอาอะไรไปไม่ได้ ดังนั้น ตัดใจได้ในสิ่งที่สูญเสียไปแล้ว จึงสามารถมีความสุขกับสิ่งที่ควรมีอยู่ไว้ได้
? เมื่ออายุมากขึ้นต้องรู้จักวางอารมณ์
สังคมในอดีตมีความยากของคนในอดีต สังคมในปัจจุบันมีความยากของคนในปัจจุบัน อย่าเอาความคิดตนเองมาเป็นที่ตั้ง ไม่พอใจอะไรก็ด่าว่าลูกหลานด้วยอารมณ์ หากทำแบบนี้ครั้งหนึ่ง คุณธรรมของตนหายไปครั้งหนึ่ง วาสนาของลูกหลานหายไปส่วนหนึ่ง เพราะพ่อแม่คือพระพรหมของลูก หากพ่อแม่เอาแต่แช่งด่า ลูกหลานจะเจริญได้อย่างไร…?
? เมื่ออายุมากขึ้น เปรียบไปดั่งไม้ใกล้ฝั่ง
ตัณหาต้องลดลง ความโลภ ความโกรธ ความหลงต้องลดลง คุณธรรมความสุขุมต้องมากขึ้น ความเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขาต้องมากขึ้น หมั่นเตือนตัวเองนะ อยู่ให้ลูกหลานเคารพรัก มิใช่อยู่ให้ลูกหลานหวาดกลัวจนไม่มีใครยอมเข้าใกล้